หมอเทวดา หวางเฟยร้ายร้อยเล่ห์ นิยาย บท 8

การกระทำของหลงชีชีไม่ได้ทำให้หงจวี๋กับต่งหมัวหมัวรู้สึกสะใจแต่อย่างใด

ยังไม่ต้องพูดถึงหงจวี๋ ต่งหมัวหมัวเป็นคนเก่าคนแก่ที่อยู่ในบ้านนี้มานานหลายปี นางรู้ว่าเหลียงเฟยจะต้องพลิดดำเป็นขาวและว่าร้ายหวางเฟยต่อหน้าท่านอ๋องแน่ และหวางเฟยก็เสียเปรียบตรงที่หวางเหยียไม่เคยฟังนางอธิบายเลย

เมื่อก่อนเหลียงเฟยมักจะยั่วโมโหหวางเฟยเสมอ และหวางเฟยก็โวยวายอย่างบุ่มบ่ามไปหลายครั้ง จึงทำให้หวางเหยียรู้สึกรำคาญมากยิ่งขึ้น

ต่อมาหวางเฟยก็ฟังคำเกลี้ยกล่อมแล้ว นางไม่ขัดแย้งกับเหลียงเฟยอีก หลายวันมานี้ถึงค่อยได้ใช้ชีวิตอย่างสงบสุข

“หวางเฟย ท่านหุนหันพลันแล่นเกินไป” ต่งหมัวหมัวพูดอย่างเป็นห่วง

หลงชีชีพูดอย่างราบเรียบว่า "อดกลั้นไปแล้วจะได้ใช้ชีวิตที่สงบหรืออย่างไร?"

นางรู้ว่าต่งหมัวหมัวกำลังคิดอะไรอยู่ เพราะถ้านางอดทน นางก็จะได้มีชีวิตที่สงบสุข แต่ในบางครั้ง การอดทนจะยิ่งทำให้คนอื่นได้คืบจะเอาศอก

ครั้งนี้เหลียงเฟยกล้าที่จะจัดการกับเจ้าของร่างคนเดิมของหลงชีชีอย่างโหดร้าย เพราะคิดว่าอีกฝ่ายคงไม่โกรธและคงอ่อนแอมากเสียจนนางสามารถรังแกได้

แม้ว่าแต่ก่อนนางจะซุกซนและเอาแต่ใจ จนหนิงอ๋องรู้สึกรังเกียจนาง แต่นางก็ไม่เคยสูญเสียความน่าเกรงขามต่อหน้าคนรับใช้ ทว่าหลังจากการอดกลั้นครั้งนี้ ก็ทำให้ในหัวใจของผู้คนต่างหมดความกลัวต่อนางไปโดยสิ้นเชิง

ซึ่งสาวใช้แซ่หรูทั้งสามที่อยู่รับใช้นางล้วนเป็นเช่นนี้

หลังจากที่เหลียงเฟยกลับไป ยิ่งคิดถึงเรื่องนี้ นางก็ยิ่งโกรธ

เมื่อหนิงอ๋องกลับมาที่จวนในตอนหัวค่ำ นางก็เช็ดน้ำตาและเปิดเผยรอยนิ้วมือทั้งสี่ที่ประทับไว้บนใบหน้าของนางพลางร้องห่มร้องไห้

หนิงอ๋องรู้สึกเกลียดชังชื่อหลงชีชีนี้มาก และเขาก็กำลังจะเข้าพิธีสมรสกับผู้หญิงที่เขารัก เมื่อเขามาได้ยินเหลียงเฟยพูดถึงหลงชีชีในตอนที่ยังอารมณ์ดีอยู่ เขาก็อารมณ์เสียขึ้นมาทันที และด้วยเหตุนี้จึงพาลไม่พอใจเหลียงเฟยไปด้วย "แล้วอยู่ดีๆ เจ้าไปหานางทำไมกัน?"

เมื่อเห็นว่าท่านอ๋องไม่ได้โกรธมากเหมือนเมื่อก่อน แต่กลับดูเหมือนว่าจะไม่พอใจตัวนางแทน นางจึงทำน้ำตาคลอเบ้า แล้วพูดอย่างไม่ได้รับความเป็นธรรมว่า "นางเรียกให้ข้าไปหา หากข้าไม่ไปก็คงจะไม่ดี"

เถี่ยเหิ่นสั่งให้คนยกน้ำชามาให้เขา และถามหยั่งเชิงว่า "วันนี้หท่านอ๋องดูอารมณ์ดีนะพะยะค่ะ"

“ตอนแรกก็ดีอยู่หรอก แต่กลับถูกใครบางคนกวนใจเสียจน…” เขาโบกมือ เพราะไม่ต้องการแม้แต่จะเอ่ยถึงชื่อด้วยซ้ำ แต่จู่ๆ เขาก็นิ่งไปครู่หนึ่ง “เถี่ยเหิ่น ผู้หญิงที่ข้าพบเมื่อคืน นางมีวิชาตัวเบาที่ไม่เลวเลยจริงๆ"

"วิชาตัวเบา? นางใช้วิชาตัวเบาเมื่อไรกัน?" เถี่ยเหิ่นชะงักไปครู่หนึ่ง เขาน่าจะหมายถึงผู้หญิงที่ใบหน้าฟกช้ำดำเขียวผู้นั้นสินะ? แต่ดูเหมือนว่านางไม่ได้เผยฝีมือวิชาตัวเบาออกมานี่นา

“เสด็จพี่ผลักนางลงจากหลังม้า เปิ่นหวางถามเจ้าหน่อย ถ้ามีคนผลักเจ้าแบบนั้น เจ้าจะทำอย่างไรเพื่อให้ตัวเองได้ยืนอย่างมั่นคง?”

เถี่ยเหิ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง "หายใจเข้าแล้วพลิกตัว จากนั้นก็ลงสู่พื้น"

“อืม ไม่เลว ปกติก็ควรทำเช่นนั้น แต่เจ้าลองคิดดูอีกทีซิว่าเมื่อคืนผู้หญิงคนนั้นทำอย่างไร?” หนิงอ๋องถาม

เถี่ยเหิ่นจำได้ว่าตอนที่ผู้หญิงคนนั้นถูกเซ่อเจิ้งหวางผลักลงมาจากหลังม้า ตัวนางก็ลอยไปข้างหลัง แทบจะถือว่าเป็นการขี่ลมแล้วถอยออกไป ในเวลานั้นเขายังนึกว่าเซ่อเจิ้งหวางเป็นคนส่งนางออกไปด้วยพลังของเขา แต่เมื่อลองคิดดูอีกที เซ่อเจิ้งหวางไม่มีทางทำเช่นนั้นแน่นอน

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หมอเทวดา หวางเฟยร้ายร้อยเล่ห์