หนี้รักประธานเจ้าเล่ห์ นิยาย บท 111

ตอนที่ 111 มีอาการแพ้

“ใช่สิ ฉันก็เริ่มรู้สึกคันมากทรมานมากมาตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว” วรินทรใช้มือจับบนฝ่ามือของตัวเอง ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น รู้เพียงแต่เคยไปห้องทดลองน้ำหอม พอกลับมาก็เป็นแบบนี้แล้ว

ดูๆแล้วเธอคงจะใช้น้ำหอมไม่ได้จริงๆโดยธรรมชาติแล้ว

แต่น้ำหอมสามขวดที่ประภาพเคยให้เธอลองใช้ก็ไม่เคนทำให้เธอระคายเคืองแม่แต่น้อย สงสัยว่าทำไมน้ำหอมชนิดนี้ถึงทำให้เธอมีอาการแพ้

วรินทรรู้ตัวมาตลอดว่าถ้าตัวเองได้กลิ่นน้ำหอมแล้วจะคลื่นไส้ แต่กลับไม่รู้ว่าทำไมถึงยังแพ้น้ำหอม

“เป็นอะไรไป” ทาวัตเดินมาที่ข้างๆตัวเธอ ดึงมือของเธอขึ้นมาแล้วเห็นรอยแดงๆ มองๆดูแล้วก็พูดไปอย่างยิ้มๆว่า “น้าลิง เรียกสเลเตอร์มาหน่อย”

“อย่าจับนะ ยิ่งจับผิวหนังยิ่งคันนะ” ทาวัตรู้สึกสงสัย ขณะที่กำลังมองวรินทรที่กำลังลูบฝ่ามือกับผิวคอตัวเอง และพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา

ผิวหน้ากับผิวลำคอขาวๆของเธอก็โดนตัวเธอเองเกาซะแดงขนาดนั้น ถ้ายิ่งไปเกาอีกก็คงจะอักเสบแน่ๆ

วรินทรมองไปที่ทาวัตอย่างรู้สึกผิด อาการคันแบบนี้จะให้ทนอยู่ได้ยังไง? เธอจะไม่ทรมานตายไม่ก่อนหรอ?

“ทาวัต ฉันทรมาน.........” วรินทรสัญญาว่าจะไม่แตะต้องน้ำหอมพวกนั้นอีก ถ้าไม่ไหวจริงก็จะไม่พูดออกมา เพราะผื่นได้ขึ้นไปเต็มตัวแล้ว

อาการคันแบบที่เกาเท่าไหร่ก็ไม่หาย ทำให้วรินทรจะร้องไห้ก็ร้องไม่ออก

ทาวัตมองด้วยความปวดใจ แต่เพื่อไม่อยากให้เธอทำร้ายตัวเอง จึงยังไม่ยอมวางมือ

วรินทรไม่มีทางเลือกอื่น อาการคันที่ใบหน้านั้นทรมานมาก ทำได้แค่ก้มหัวขอร้องกับทาวัต เพื่อขอให้เขาช่วยแก้ไจความทรมานนี้

หลังจากนี้ถ้าเธอเจอน้ำหอมพวกนี้อีกเธอจะเขวี้ยงทิ้งให้หมด

ยกเว้นกล่องที่ประภาพให้มา

ทาวัตก็รู้สึกถึงใบหน้าของวรินทรจากการสัมผัสด้วยมือ ผิวหน้าที่เนียนนุ่มละเมียดละไม ซึ่งทำให้มีความรู้สึกเหมือนถูกดึงเข้าหา

วรินทรแทบจะอกแตกตาย โชคดีที่สเลเตอร์ได้มาถึง หลังจากที่ตรวจอาการของวรินทร อาการก็เป็นแค่แพ้น้ำหอมเท่านั้น แค่ทายาแก้แพ้ก็หายแล้ว

ก่อนที่หมอสเลเตอร์จะไปก็เช็ดเหงื่อไปหลายรอบ เรื่องเล็กแค่นี้ถึงขนาดต้องให้คนไปตามเขามาเหมือนขี่ช้างจับตั๊กแตน เล่นทำเขาตกใจซะแทบจะลืมใส่กางเกง เพราะกลัวว่าคุณชายจะให้คนพาเขาไปทิ้ง

“ตายแน่ๆตายแน่ๆ” วรินทรรู้สึกคันจนนอนพลิกไปมาบนเตียง เธอก็รู้สึกแสบที่ผิว แต่กลัวจะจะทนไม่ไหวแล้วไปเกาจะยิ่งทรมาน

“เอาน้ำหอมพวกนี้ห่อไปทิ้งให้หมด ทิ้งให้ไกลๆเลยนะ” ตอนนี้ทาวัตมองไปที่ขวดน้ำหอมก็รู้สึกไม่สบายใจ ยิ่งผิวหนังที่แดงก่ำของวรินทรที่ทำให้เธอทรมานถึงขนาดนี้ ใจเขาก็เต้นตึกๆ

น้าลิงก็เข้ามาทันที ถือถุงมากางออกเพื่อเก็บน้ำหอมที่อยู่ในห้อง เมื่อเห็นกล่องน้ำหอมที่วางอยู่บนโต๊ะ น้าลิงก็รู้ทันทีว่าเป็นโลโก้ของน้ำหอมยี่ห้อดาวรุ่ง

เพราะเมื่อก่อนเธอเคยซื้อน้ำหอมให้กับคุณแม่ของทาวัต จึงจำยี่ห้อนี้ได้

“คุณชายคะ จะทิ้งอันนี้ด้วยมั๊ย?” น้าลิงรู้ว่าน้ำหอมดาวรุ่งนั้นหายาก จึงถามไปอีกรอบ

ทาวัตได้แต่จ้องมองอย่างเย็นชา ถือยาที่หมอสเลเตอร์มาวางไว้ข้างเตียง “ทิ้งไปด้วย”

“ไม่ได้!” เมื่อวรินทรดห็นน้าลิงกำลังถือถุงที่ใส่ของ ทาวัตก็ยังสั่งให้เขาเอาไปทิ้ง เธอจึงลุกขึ้นจากเตียงรีบไปชิงกล่องๆนั้นกลับมา “นี่คือน้ำหอมที่ใช้ฉีดเสื้อ ทิ้งไม่ได้!”

ทาวัตเห็นสุดที่รักของตัวเองกอดถุงใบนั้นในหน้าอกไว้อย่างแน่น ก็รู้สึกฉุนเฉียวทันที ทำไมสิ่งของของชายคนนั้นถึงสำคัญขนาดนี้

วรินทรเริ่มขยับปาก ด้วยความรู้สึกที่ไม่อยากจะให้ของไปอยู่ในมือเขา จึงหันกลับเดินไปที่ข้างเตียง ขึ้นไปนอนบนเตียง แล้วก็จ้องมองโคมไฟเพดาน

ทาวัตก็อดยิ้มไม่ได้ เธอกำลังอารมณ์เสียกับตัวเองหรอ?

“เก็บของให้เรียบร้อย ช่วยบอกต่อๆไปด้วย เริ่มตั้งแต่วันนี้ไป ห้ามทุกคนในคฤหาสน์ใช้น้ำหอม แล้วอีกอย่าง พยายามอย่าใช้สารให้ความสดชื่นที่เข้มข้นเกินไป” ทาวัตก็เอากล่องให้น้าลิง แล้วถ่ายทอดคำสั่งไป

น้าลิงมองไปที่เตียงแล้วรู้สึกไม่สบายใจ อยากจะไปช่วยเกาแต่กลับทำได้แค่จ้องมองวรินทรอย่างจริงจัง แล้วค่อยจากไป

ทาวัตจึงหันกลับมา หยิบยาทาและสำลี แล้วเดินไปนั่งข้างวรินทร แต่กลับเห็นว่าวรินทรไม่สนใจเขาเลย มัวแต่มองไฟเพดาน

ดูๆแล้วคงจะประทวนอย่างเงียบๆ

“ลุกขึ้นมาทายา ไม่อยากจะหายเร็วๆหรือไง?” ทาวัตดันมือเธอหลายครั้ง เขามองด้วยสายตาอันแหลมคมเห็นว่าบนผิวยิ่งแดงขึ้นเรื่อยๆ ผิวบางส่วนก็แตกแล้ว

วรินทรไม่พูดออกมาแม้แต่ประโยคเดียว มองแต่ไฟเพดาน ราวกับจะพูดว่า ดูคุณสิที่ทำให้ฉันเป็นแบบนี้

ทาวัตก็ยิ้มมุมปาก จึงหยิบสำลีขึ้นมาชุบยา แล้วทาลงไปบนใบหน้าของเธอ เธอกลับรู้ทันแล้วก็หันหน้าหนี

บอสใหญ่ก็หน้าบึ้งลงอย่ารวดเร็ว มองวรินทรด้วยแววตาที่ดำสนิท ที่แฝงไปด้วยความชั่วร้าย เขาค่อยๆเช็ดหน้าของวรินทร พร้อมจ้องไปที่ดวงตาทั้งสองข้างของเธอ ราวกับเป็นน้ำวน “เป็นไร โกรธผมหรอ ห๊ะ?”

“กล้าที่ไหนล่ะ คนตัวเล็กๆอย่างฉันจะกล้าไปโกรธกับท่านประธานได้ยังไง? ฉันยังไม่อยากตายนะ” ในใจของวรินทรก็เต้นรัวๆเมื่อถูกสายตาของทาวัตมองมา ถึงจะพูดว่าไม่ยอมจึงพูดสิ่งที่คิดในใจออกมา

“อ่าฮะ เรื่องทายา ผมอาจจะให้คุณจัดการเองต่อ ถ้าจะไม่ทานะ”

ประโยคหลังถึงไม่พูดวรินทรก็รู้ว่าหมายความว่ายังไง

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนี้รักประธานเจ้าเล่ห์