ตอนที่ 133 ธารีกับทีนาร์
ทีนาร์ยืนขมวดคิ้ว มองดูปกเกศที่เพิ่งโผล่มาด้วยสายตาเย็นชา ชายหนุ่มกรอบหน้าสมดุลชัดหล่อคมเข้ม มาดเท่ อีกทั้งยังดูสุขุม เยือกเย็น เเต่กลับทำให้หัวใจของทีนาร์เต้นเร็วเเรงขึ้นอย่างไร้เหตุผล
เขามาอยู่นี่ได้ไง ?
" แก แกเป็นใครวะ ?" ชายคนนั้นหันมาเห็นปกเกศที่อยู่ๆก็โผล่มา เเละเจ็บแปลบตรงเอวที่ถูกบิดโค้งไปด้านหลัง อาการโมโหเมื่อกี้ บัดนี้กลายเป็นความก้าวร้าว อันธพาล
" แกรู้มั้ยว่าเธอเป็นใคร ?เเตะต้องเธอ ชีวิตแกต้องไม่ได้อยู่เป็นสุขแน่ " ปกเกศพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา เขาบีบมือเเรงขึ้นอีก จนข้อมือของชายคนนั้นเกิดเสียงดัง " กร๊อกกก "
เสียงเหมือนกระดูกที่กำลังถูกบิด
ชายคนนั้นดูเหมือนจะเจ็บปวดมากจนพูดอะไรไม่ออก ได้เเต่จ้องเขม็งมองดูมือตัวเองกำลังโดนบิด เเละยิ่งไปกว่านั้นก็คือ มือที่กำลังโดนบิดอยู่ เป็นมือข้างที่เขาเพิ่งใช้ฉุดกระชากดึงหญิงสาวไปเมื่อกี้นี้
ทีนาร์แอบอมยิ้ม
สายตาที่เธอมองปกเกศที่กำลังบิดไปที่ข้อมือชายคนนั้น ดูเคลิบเคลิ้มหลงใหล พร้อมยิ้มหวานที่มุมปาก
" คุณหนู จะให้จัดการกับไอ้หมอนี่ยังไงดีครับ ?" ปกเกศหันมาทางทีนาร์ซึ่งกำลังอมยิ้มหวานอยู่ เเต่เสียงของเขาก็ยังคงเย็นชาอยู่แบบนั้น เหมือนทองที่ไม่รู้จักหลอมละลาย
ถึงกระนั้น ทีนาร์ก็ยังคงรู้สึกอบอุ่นในหัวใจ
" ปล่อยเขาไป ไปกันเถอะ " ทีนาร์เหลือบไปมองดูชายที่กำลังนอนตัวงออยู่ตรงมุมนั้น เอามือกุมข้อมือตัวเองที่เพิ่งโดนบิดแทบหักไปเมื่อกี้ พลางเลิกคิ้วมองดูเขาด้วยความสะใจ ก่อนจะดึงปกเกศออกไป
ฝ่ามืออุ่นๆนั้น ทำให้รอยยิ้มที่มุมปากของทีนาร์ฉีกกว้างขึ้นอีก
ใช่เเล้ว เธอแอบชอบปกเกศ แอบชอบมานานเเล้วด้วย
ตั้งเเต่ตอนเป็นสาววัยเเรกรุ่นที่เพิ่งจะรู้จักความรัก ก็แอบชอบเขามาจนถึงตอนนี้
เมื่อตอนที่เธออยู่อิตาลี วันๆเธอก็ได้เเต่มองดูรูปถ่ายเพียงใบเดียวของเขาอยู่อย่างนั้น
เเต่ความลับนี้ ก็มีเเต่เธอคนเดียวเท่านั้นที่รู้
ก็เหมือนกับที่เมื่อก่อน ทำไมจู่ๆความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับวรินทรถึงได้ขาดสะบั้นลงได้แบบนั้นล่ะ ก็มีเเค่เธอเท่านั้นที่รู้
ปกเกศอยู่เป็นเพื่อนทีนาร์ที่ผับอยู่ราวๆสองสามชั่วโมง ทีนาร์ดื่มเหล้าเข้าไปจนเริ่มหนักหัว กรึ่มๆ มึนๆเเล้ว ไม่มีทางเลือก ปกเกศคงต้องพาเธอกลับไปที่บ้านธัมรุจินันท์ก่อน รอจนเธอฟื้นเมื่อไหร่ค่อยว่ากัน
————
หลายวันมานี้อยู่แต่ในคฤหาสน์ อาการบาดเจ็บที่ไหล่และภูมิแพ้ของวรินทรดีขึ้นเยอะมากเเล้ว ตามที่สเลเตอร์บอกว่า ไม่ต้องยกของหนักเเละต้องไม่ออกกำลังกายหักโหม ก็คงไม่ทำให้อาการบาดเจ็บกำเริบขึ้นมาอีก
ช่วงนี้ทาวัตเองก็ไม่รู้เป็นอะไร ดูเหมือนจะว่างจัด วรินทรนอนตื่นขึ้นมาทีไรก็มักจะเจอเขานอนอยู่ข้างๆเสมอ
ณ จุดนี้ อาการที่วรินทรเเสดงต่อเขา มันเปลี่ยนจากอาการอกสั่นขวัญแขวน ไปเป็นด้านชาไร้ความรู้สึกไปแล้ว
ต่อต้านขัดขืนไปก็ไร้ประโยชน์ ต่อกรไปก็เสียแรงเปล่าๆ วรินทรคนนี้ไม่ใช่คนประเภทที่ชอบทำอะไรให้เสียเเรงเปล่า พลังเเรงของเธอเอาเก็บไว้กินอาหารอร่อยๆซะยังดีกว่า
เเต่ทว่าทุกๆเช้าพอลืมตาตื่นขึ้นมา ก็ต้องได้เห็นใบหน้าหล่อๆกำลังหลับพริ้มของทาวัตอยู่ทุกวี่วัน ทำให้เธอเริ่มสร้างภาพลวงตาขึ้นมาว่าสองคนรักกัน นอนหลับไปด้วยกัน
มันก็เเค่ภาพลวงตา
ทีนาร์กัดฟันกรอดๆ จ้องไปที่เธอ พอกำลังจะอ้าปากพูด ก็หันไปเห็นทาวัตที่มือหนึ่งกำลังถือโทรศัพท์ อีกมือซุกอยู่ในกระเป๋ากางเกง กำลังเดินมุ่งไปทางพวกเธอ
" พี่ทาวัต !" ทีนาร์ตะโกนเรียกพี่ชายด้วยความดีใจ มองดูพี่ชายที่กำลังเดินเข้ามา เเต่พี่ชายกลับเดินไปนั่งอยู่ข้างๆวรินทร
วรินทรเงยหน้าขึ้นมามองเขาเเวบหนึ่ง ก่อนจะก้มหน้าอ่านนิตยสารต่อ
" ทาวัต " ธารีเริ่มรู้สึกอีดอัดที่ต้องนั่งอยู่ตรงนั้น เธอรู้สึกกังวลว่าจะทำให้ทาวัตไม่พอใจ
ครั้งก่อนทาวัตก็พูดกับเธอชัดเจนเเล้วว่า ถ้าไม่มีธุระอะไรก็ไม่ต้องมาที่คฤหาสน์อีก เเต่ว่าตอนนี้ ……
ทาวัตเห็นว่าธารีมาอยู่ที่นี่ เเววตาก็เริ่มไม่มีความสุขนัก เเต่ก็พยายามไม่แสดงท่าทางออกมา ได้เเต่ขมวดคิ้วก่อนจะพยักหน้าเบาๆ
ธารีรู้สึกอึดอัดจนเริ่มดึงชายกระโปรงตัวเอง ไม่รู้ว่าตัวเองควรจะพูดอะไรในตอนนี้
เมื่อทีนาร์ได้เห็นท่าทางอัดอัดใจของธารี ก็อดไม่ได้ที่จะอธิบายให้พี่ได้ฟัง " พี่ทาวัต ตอนที่ฉันกำลังจะกลับมา พอดีเจอธารีเข้าก็เลยพาเธอกลับมาด้วย พี่คงไม่ว่าฉันใช่มั๊ย ?"
ทาวัตยิ้มแบบไม่มีทางเลือก เหลือบไปมองดูธารีที่นั่งนิ่งเรียบร้อยอยู่ตรงนั้น ก่อนจะพูดกับทีนาร์ว่า " ไม่เป็นไร "
" ดีจังเลย อย่างงี้น้องก็จะได้มีเพื่อนคุย จะได้ไม่ต้องอยู่เบื่อๆเซ็งๆเเล้ว " ทีนาร์กุมมือธารีไว้เเน่น ท่าทางดูเหมือนจะชอบธารีเอามากๆ
ธารีส่งยิ้มหวานให้ทีนาร์ " เป็นเกียรติของธารี ที่ได้มาอยู่เป็นเพื่อนทีนาร์ "
วรินทรหัวเราะเสียงดังอยู่ในใจ เพิ่งจะรู้จักกันไม่ทันไร นี่ถึงขั้นเรียกชื่อเล่นกันเเล้วเหรอเนี่ย เหอๆๆ กลไกในการป้องกันตัวของทีนาร์ก็งั้นๆแหละ
" ถ้างั้นต่อไปเธอก็มาอยู่เป็นเพื่อนฉันที่นี่ทุกวันเลยนะ วันๆเห็นคนหน้าเหยเก เเล้วมันหงุดหงิดรำคาญใจ " ทีนาร์พูดกระแทกแดกดัน สายตาเพ่งเล็งไปทางวรินทร
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนี้รักประธานเจ้าเล่ห์
ก็รู้นี่นาว่าตอนที่หายไปกำลังท้อง ทำไมไม่ถามถึงเด็ก...