ตอนที่ 189 เมื่อกี้เธอ......เหมือนจะล่องลอยไปแล้ว
พอโตมา วรินทรก็พึ่งพาทาวัตมากขึ้น จนกลายเป็นว่าทาวัตกลายเป็นคนทำการบ้านให้เธอ และเธอก็เป็นก็ที่ยกเตียงเขามาและนอนไปโดยปริยาย
ตอนนั้น ก้ไม่ได้รู้สึกว่าทาวัตมีเสน่ห์อะไรขนาดนี้นี่นา?
ทำไมล่ะ?
ทาวัตก็พบว่าวรินทรยืนอยู่ข้างประตูตั้ง จึงอยากจะให้เธอยืนอยู่ตรงนั้นสักพัก แต่ใครจะไปรู้เมื่อเวลาผ่านไป เธอก็ยังไม่เข้ามา จึงหันไปมอง
ที่แท้กำลังยืนเหม่ออยู่
ทาวัตรู้สึกตลก การที่ยืนอยู่ข้างประตูแล้วเหม่อจนลืมเข้ามา นี่มันโง่จริงๆ
วรินทรเหม่อไปสักครู่ แล้วก็รีบดึงสติกลับมา กลับพบว่าทาวัตกำลังจ้องมองมาที่เธอ ดวงตาทั้งสองข้างนั่นเต็มไปด้วยความรู้สึกที่สนุกสนาน ทำให้เธอรู้สึกอาย
เมื่อกี้เธอ......เหมือนจะล่องลอยไปแล้ว?
ยัยบ๊อง จะมาเหม่อลอยอะไรที่นี่?
“เข้ามาสิ” ทาวัตพูดขึ้นมา วางเอกสารไว้ข้างๆ แล้วกวักมือเรียก
บนโต๊ะข้างๆ เต็มไปด้วยเอกสาร ซึ่งเลขานิธูรเป็นคนเอามาจากบริษัท
วรินทรด่าตัวเองในใจว่าตัวเองโง่ พอก้าวเดินเข้ามา เห็นอาหารที่ยังคงอุ่นๆวางอยู่บนโต๊ะ จึงสงสัย เขายังไม่ได้กินข้าวหรอ?
เดี๋ยวก่อน......ดูเหมือนตัวเธอเองก็ยังไม่ได้กินเช่นกัน
“คุณจะกินข้าวมั๊ย?” คิดถึงการที่เขายอมเจ็บเพื่อช่วยกวิน เมื่อสักครู่เธอก็ยังหยิ่งถึงขนาดที่ทิ้งเขาไว้คนเดียว วรินทรยิ่งคิดยิ่งรู้สึกว่าตัวเองขาดทุน ดังนั้นจึงยิ้มออกมาแล้วมองไปที่ทาวัต
ทาวัตก็ถอนหายใจ ยัยนี่ยังจะจำได้มั๊ยว่าตัวเองยังไม่ได้กินข้าว?
เขาไม่พูดอะไร วรินทรก็ได้ตอบรับเขาแล้ว จึงหยิบชามบนโต๊ะขึ้นมา ในชามเป็นโจ๊กสมุนไพร แล้วยังมีข้าวสวยหนึ่งชามและกับข้าวรสจืด ล้วนแต่เป็นอาหารที่มีประโยชน์
วรินทรยังไม่ลืมว่าแขนขวาของเขานั้นบาดเจ็บ จึงใช้ช้อนคนกับข้าวในชาม เพื่อให้โจ๊กหายร้อน ไม่ให้ลวกปาก จึงตักขึ้นมา แล้วป้อนทาวัต
ทาวัตก็ยังคงไม่พูดอะไร แค่ใช้สายตาจ้องมาที่ตาของวรินทร ไม่ขยับ และก้ไม่อ้าปาก
วรินทรก็ถูกเขาจ้องก็รู้สึกทำตัวไม่ถูก แค่ปลายนิ้ว ในใจก็คิดว่าตานี่เป็นอะไรอีก เธอจึงชิมเข้าไปเอง อ้าปากแค่นี้มันยากนักไง?
“คุณทาวัต.....” วรินทรคิดอยากเอ่ยพูด ก็พบว่าสายตาของทาวัตเริ่มเย็นชาเข้าไปอีก จิตใต้สำนึกจึงสั่งให้เปลี่ยนคำพูด “ทาวัต......”
ตามที่คาดไว้ สายตาเขาก็ผ่อนคลายลง
วรินทรก็โล่งอก เหอะๆๆ อย่ามาหยิ่งขนาดนี้ได้มั๊ย?
“ทาวัต กินโจ๊ก” วรินทรได้เอาช้อนไปจ่อปากเขา ใบหน้าเล็กๆมีแต่ความเฝ้ารอ รอให้เขารีบๆกินเข้าไป เธอเมื่อยมือ.....
ทาวัตมองดูธัญพืชที่อยู่ในช้อน ก้มีความรู้สึกที่รังเกียจ แล้วจึงเปิดปากพูดว่า “มันร้อน”
วรินทรก็ถอนหายใจ ชามที่ถืออยู่ในมือก็แทบจะถือไม่ไหวแล้ว เธอจึงแอบมองธัญพืชที่อยู่ในช้อน พึ่งตักมา มันจะร้อนตรงไหน มันก็เย็นลงจนอุ่นๆแล้วนี่
เอาใจยากจริงๆ
ชามนี้ก็ไม่ใหญ่ ปกติทาวัตก็ไม่กินข้าวเยอะ แล้วป้อนให้แบบนี้ไปเรื่อยๆ โจ๊กในชามก็หมด เขาก็มองวรินทรวางชามอย่างรู้สึกผิด
แต่ยังมีเวลาอีกเยอะ ทาวัตก็ไม่รีบ เหมือนกบที่แช่น้ำอุ่น ถึงรีบไปก็ยิ่งแย่
“ทำไมยังมีข้าวอีกล่ะ” วรินทรก็เพิ่งจะมาสงสัยตอนนี้ ทาวัตกินข้าวไม่เยอะ ทำกับข้าวมาเยอะขนาดนี้มันเปลืองนะ ท้องของเธอก็ยังแฟบอยู่นะ
“เตรียมไว้ให้คุณน่ะ” ทาวัตหยิบเอกสารข้างๆมาดู แล้วพูดออกมา
“อ่อ” วรินทรพยักหน้าด้วยความชอบใจ แล้วจึงยกชามข้าวขึ้นมากิน เมื่อเห็นกับข้าว ก็อ้าปากค้างขึ้นมาทันที ทำไมเป็นมังสวิรัติล่ะ?
เธอไม่ชอบกินมังสวิรัติ เธฮชอบกินเนื้ออ่ากินเนื้อ!
“เป็นไร?” ถึงทาวัตจะอ่านเอกสารอยู่ แต่ก็สนใจเธอตลอดเวลา ที่ถามครั้งนี้ก็เพราะเห็นเธอนิ่งไป
“ไม่มีอะไร......” วรินทรจึงกัดตะเกียบตามสัญชาตญาณ ด้วยแววตาที่ไม่เต็มใจนัก สำหรับเธอแล้วการกินมังสวิรัตินั้นมันทรมานมาก
พอทาวัตเห็นกับข่าวบนโต๊ะ ก็รู้สึกแปลกใจ เมื่อสักครู่ไม่ได้คิดอะไร แต่พอดูอีกรอบ ยัยนี่คงจะวีนเพราะไม่ได้กินเนื้อแน่เลย
“ปกเกศ ให้เขาทำกับข้าวมาอีกชุดนึง เอาแบบมีเนื้อสัตว์นะ ” ทาวัตหันไปบอกกับปกเกศที่อยู่นอกประตู
ปกเกศมีหูที่ดีมาก ขนาดอยู่ห่างๆตรงด้านนอกของประตูยังได้ยิน จึงตอบรับด้วยเสียงเข้มๆว่า “ครับ” แล้วก็ไปจัดการทันที
ไม่สามารถให้ทาวัตกินอาหารของโรงแรม จึงให้จ้างพ่อครัวทำมาให้
เมื่อได้ยินที่เขาพูดวรินทรก็ทำตากระพริบ แอบมองใบหน้าของทาวัต ก็พบว่าใบหน้าของเขามีความซีด ถึงจะอ่านเอกสารอยู่ คิ้วของเขาก็ดูไม่เกร็ง ทำให้ตัวเขาดูเป็นคนผ่อนคลายมากขึ้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนี้รักประธานเจ้าเล่ห์
ก็รู้นี่นาว่าตอนที่หายไปกำลังท้อง ทำไมไม่ถามถึงเด็ก...