หนี้รักประธานเจ้าเล่ห์ นิยาย บท 209

ตอนที่ 209 พิพิธภัณฑ์คริสตัล

“ดูเหมือนว่าวรินทรจะยุ่งมากเลย…ทาวัตเธอจะไปไหน” ขณะที่ธารีกำลังพูดในอารมณ์อิจฉา ก็เห็นทาวัตลุกขึ้นมาทันที แล้วเดินออกจากร้านอาหารไปโดยไม่พูดอะไรสักคำ

ธารีกัดฟันด้วยอารมณ์โกรธ แล้วเลื่อนรถเขนตามไปอย่างไม่พอใจ

วรินทรกำลังวิ่งไปตามถนน วิ่งตรงไปยังหน้าประตูคฤหาสน์ ความเร็วของเธอขึ้นถึงระดับสุดขีด แต่เนื่องด้วยบ้านห่างจากประตูคฤหาสน์มีระยะทางไกลเหมือนกัน ไม่ว่าเธอจะวิ่งอย่างไร ระยะทางก็ยังห่างไกลมาก

ในเวลานี้เธออยากจะมีเท้าถึงแปดขา เพื่อว่าจะวิ่งแวปเดียวก็ไปถึงหน้าประตู

ขณะนี้ มีรถบูกัตติ เวย์รอนสีดำคันหนึ่งจอดอยู่ข้างๆเธอ กระจกรถก็ลดลงมา เห็นใบหน้าอันหล่อเหลาของทาวัตโผล่ออกมา เขากระซิบเบาๆว่า “ขึ้นรถ”

วรินทรเดินมาเล็กน้อย ถึงคิดได้ว่าเขากำลังจะพาเธอไปส่ง เธอไม่ได้ปฏิเสธ รีบเปิดประตูรถขึ้นไปนั่ง

“ที่อยู่” เธอกำลังนั่งลง ทาวัตก็เริ่มออกรถ เธอบอกว่า

“พิพิธภัณฑ์คริสตัล” วรินทรคิดแล้วคิดอีก ก็เลยแจ้งสถานที่นี้ไป

เธอจำได้ว่า การประชุมเสนอรายชื่อครั้งที่แล้วก็จัดแถลงในพิพิธภัณฑ์คริสตัล ในครั้งนั้น เธอเกือบเอาชีวิตไม่รอด ทำให้เธอได้รับบาดเจ็บสาหัสที่ขา

ขณะที่ธารีกำลังตามมา ทาวัตก็ได้รับวรินทรออกไปแล้ว ความเร็วของรถคันนี้ออกจากคฤหาสน์ไปอย่างรวดเร็ว หายไปในพริบตา

ฝ่าเมือของเธอจับรถเขนทั้งสองข้างไว้อย่างแน่นหนา เล็บที่ทาด้วยสีแดงยิกเข้าไปแผ่นหนัง ยังเจ็บไม่เท่ากับความเจ็บปวดที่มาจากเบื้องลึกในหัวใจ

เธอคิดใคร่ครวญอยู่นอกบ้านคู่ใหญ่ ถึงค่อยเลื่อนรถเขนเข้าไป

ไม่มีใครทราบว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่

ทักษะการขับรถอันคล่องแคล่วของทาวัต ฝีมือระดับนักแข่ง ขับไปถึงพิพิธภัณฑ์คริสตัลอย่างรวดเร็วตามกำหนดเวลา

“ขอบคุณ” วรินทรถือโทรศัพท์ใว้ในมือ ขอบคุณเขาด้วยใจจริง ทิ้งข้อความไว้แล้วเปิดประตูเข้าไป

“เวลาจบ” เสียงแผวเบาของทาวัตดังขึ้น เบาจนไร้คลื่นเสียง แสงกระพริบในช่องแคบแห่งความมืดเธอมองไม่เห็นแสงสว่างใดๆ

เวลาจบ

ความสงสัยที่แสดงออกบนสายตาของวรินทร เขาหมายความว่าอย่างไรนะ หรือว่า เขาจะรอให้เธอถ่ายทำเสร็จแล้วกลับมารับเธอ

นอกจากเรื่องนี้แล้ว วรินทรคิดไม่ออกเหตุผลอื่นที่สามารถอธิบายความหมายในประโยคที่ทาวัตพูด

“เวลา6โมงเย็น” เธอตอบกลับอย่างนุ่มนวล จากนั้นเห็นสีหน้าของเขาจากกระจกมองหลัง ดูเหมือนไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลมาก

เธอเบินปาก แล้วกัดริมฝีปากล่างเล็กน้อย จากนั้นกรอกตาไปมา “ฉันไปก่อนนะ” เธอระหว่างทางระวังตัวด้วยนะ

เขินอายมาก

นี่เป็นความคิดเดียวของวรินทร

หลังจากลงรถ แล้วปิดประตูรถ เธอไม่ได้รีบเดินออกจากจุดตรงนั้น แต่หันไปโบกมือลาให้กับทาวัตที่นั่งอยู่ฝั่งคนขับรถ ใบหน้ามีลอยยิ้มหวานเล็กน้อย

ทาวัตเห็นลอยยิ้มหวานของวรินทรนอกหน้าต่างรถ ดูเหมือนว่าเสพติดอย่างไรไม่รู้ ริมฝีปากก็โค้งขึ้นอมยิ้มเล็กน้อย พอเขายิ้มกลับ ก็รีบขับรถออกจากที่นี่ทันที

สายตาของเขาจดจ่ออยู่กับกระจกมองหลัง สามารถสะท้อนลอยยิ้มของวรินทรออกมาได้ รถที่ขับมาตามแรงขับเคลื่อน ยิ่งอยู่ก็ยิ่งห่างไกล

วรินทรหยุดโบกมืออันเล็กๆของเธอ แล้วมองไปยังทาวัตที่กำลังขับรถออกห่างไปทุกทีดูเหมือนว่าไม่ค่อยพอใจเล็กน้อย เขาไม่ได้พูดอะไรสักคำ ไม่ได้เอ่ยสักคำกับเรื่องที่เกิดในคืนนั้น

“ทำไมหรือ รีบไปเปลี่ยนเสื้อผ้าสิ อีกเดี๋ยวก็เริ่มถ่ายทำแล้ว” ผู้กำกับเดินเข้ามา เห็นสีหน้าของวรินทรแปลกๆเลยเข้าไปถาม จากนั้นให้เขาสองคนรีบไปเปลี่ยนเสื้อผ้า

ประภาพมองตาผู้กำกับ สีหน้าแสดงออกค่อยข้างหนักแน่น “ผู้กำกับครับ วรินทรกลัวความสูง ขอเปลี่ยนฉากในการถ่ายทำได้ไหม”

“อะไรนะ” สายตาของผู้กำกับถึงกับโตกลมเป็นมัน เสียงหนักแน่นขึ้นมาทันที ทำให้พนักงานพวกนั้นหันมามองทันที “คุณรู้ไหมว่าบริษัทเสียเงินและแรงงานกับฉากนี้ไปเท่าไร นึกอย่างเปลี่ยนก็เปลี่ยน คุณนึกว่านี่อยู่ในบ้านใช่ไหม”

ประภาพขมวดคิ้วเล็กน้อย เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเขา ดังนั้นเขาไม่มีสิทธิออกความคิดเห็น ยิ่งไปกว่านั้นผู้กำกับคนนี้ประธานเป็นผู้เลือกด้วยตัวเอง แม้ว่าจะเป็นเขา ก็ยังต้องเห็นแก่หน้าเหมือนกัน

“ถ้าหากไม่อยากถ่ายทำ พวกเราสามารถหาคนมาเปลี่ยนได้ จะให้เปลี่ยนฉาก ฝันไปเถอะ” ผู้กำกับพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่รับการต่อรอง จากนั้นก็เดินออกไป

ประภาพยังคิดจะพูดอะไรอีก แต่วรินทรห้ามไว้ ใบหน้าอันเรียวเล็กถึงแม้ยังซีดอยู่ แต่คงความสามารถของเธออยู่ สายตาเธอยังเป็นที่ถึงดูดของผู้คน

เธอจะไม่ทำให้CRอับอายขายหน้า ถ้าหากถ่ายทำถึงครึ่งทางแล้วเปลี่ยนคน มันจะเป็นเรื่องที่น่าอับอายขายหน้ามาก

เธอไม่อยากให้เขาทำเสียชื่อเสียง

หัวใจยังเต้นเร็วเหมือนเดิม เสียงหัวใจเต้นเหมือนกำลังตีกลอง สงบนิ่งไม่ลง นิ้วมือและขาทั้งสองข้างยังรู้สึกสั่น

“ถ้าหากไม่ได้จริงๆพวกเราก็จะไม่ถ่ายทำ คุณอย่าดื้อรั้นเลย” ประภาพขมวดคิ้วขึ้นมาทันที เขาเข้าใจนิสัยของวรินทรว่าพูดคำไหนคำนั้น เรื่องที่ตัดสินใจทำแล้วจะไม่คืนคำแน่

แต่เขาก็ไม่ใช่ไม่เคนเห็นถึงการกลัวความสูงของเธอ ถ้าหากขึ้นไปบนนั้นจริงๆ นึกเสียใจทีหลังก็สายไปเสียแล้ว

“ฉันไม่ได้ดื้อรั้น ฉันทำได้จริงๆ” เธอทำตัวสบายๆแล้วยิ้มเบาๆ ไม่กล้าไปดูริมดาดฟ้า “อย่างนั้นฉันไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนนะ” หยิบเสื้อผ้าแล้ว เดินไปยังห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า

ประภาพไม่รู้จะทำอย่างไร หยิบเสื้อผ้าแล้วเดินไปห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าอีกด้านหนึ่ง

ไม่นานนัก วรินก็เปลี่ยนชุดผ้าโปร่งสีน้ำเงินทั้งชุดออกมา ชุดที่ตัดขึ้นไม่เป็นระเบียบเหมาะสมกับรูปร่างอันสง่างามของเธอมาก รูปร่างของเธอสวยมาก อวบไปยังด้านข้าง ไม่ผอมมากจนเกินไป กำลังดี

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนี้รักประธานเจ้าเล่ห์