ตอนที่ 251 พ่อของลูกพี่
โอ้แม่เจ้า ทำไมถึงเป็นพ่อชองลูกพี่เธอหล่ะ?!
เรื่องนี้ทำให้เธอลำบากใจมาก ทรัพย์สินพวกนั้นจะตกเป็นของกวินทั้งหมด และพ่อของเขากลับมาซื้อของของลูก เธอยังต้องขายมันไปในราคาสูงลิ่ว นี้มันเรื่องอะไรกันเนี่ย?
เอรู้สึกว่าสถานการณ์นี้อึดอัดมาก มุมปากขยับหลายที แล้วถอดแว่นดำออก เผยใบหน้าที่งดงามที่สุด สายตามีความจริงจัง ไม่กล้าสะเพร่าแม้แต่นิด
นี้เป็นพ่อของลูกพี่เธอนะ ถ้ามีอะไรผิดพลาดลูกพี่รู้เข้าต้องมาคิดบัญชีกับพวกเขาอีก
“สวัสดีค่ะ” เอถอดแว่นดำออกมาวางบนโต๊ะ ทักทายคนตรงหน้าด้วยรอยยิ้ม
ทาวัตเงยหน้าขึ้น มองสำรวจเธอโดยไม่พูดอะไร สายตานิ่งเฉย แล้วตอบกลับน้ำเสียงเย็นชา “สวัสดี”
“คุณคือคนที่อยากซื้อ “โลก” เหรอคะ?” เอายังคงพูดด้วยความมีมารยาท แต่กลับชื่นชอบท่าทางของทาวัต ใบหน้าของเธอที่ไม่ว่าใครเห็นก็ต้องใจสั้น ขนาดผู้ชายที่เย็นชาอย่างเอฟยังหลงเสน่ห์เธอในบางครั้ง คิดไม่ถึงเลยว่าชายคนนี้จะไม่แม้แต่ตกตะลึง
อย่างไรก็ตาม เอก็ไม่กล้าคิดอะไรก้บทาวัต คิดแค่ว่ารีบๆขายของให้จบเรื่องไป เงินของพ่อลูกพี่จะว่ายังไงก็ไม่กล้ารับ
“ใช่ครับ ได้เองของมาด้วยไหม” ทาวัตพยักหน้าเล็กน้อย ยกแก้วกาแฟตรงหน้าขึ้นมาจิบทีหนึ่ง ท่าทีสีหน้านิ่งๆ แต่เต็มไปด้วยความรู้สึกสวยงาม
เอหยิบถุงออกจากกระเป๋า ในถุงมีกล่องสีดำที่ดประณีต เธอเปิดกล่องออก เผชิญหน้ากับทาวัต “นี่ก็คือ “โลก” บนโลกนี้มีชิ้นเดียว มันไม่เคยผ่านการดัดแปลกใดๆ รูปทรงเล็กกะทัดรัดและเบามากเมื่อสวมใส่จะแทบไม่มีน้ำหนักเลย สะดวกในการพกพา
ในกล่องสีดำมีสร้อยที่ทำมาจากหินภูเขาไฟวางอยู่ ตามธรรมชาติของมัน
นี้เป็นสร้อยที่เคยดังมากมาก่อนในโลก เขาว่ากันว่าคนที่ได้ครอบครองสิ้งนี้แล้วมอบให้กับคนที่รักก็เท่ากับว่าการเอาชะตาชีวิตของเธอและตัวเองผูกเข้าด้วยกัน จะไม่จากกันอีก
แน่นอนว่าทาวัตไม่เชื่อเรื่องพวกนี้ เขารู้ว่า คนที่สวมใส่ “โลก”เป็นคนสุดท้ายคือทมยันตีของบ้านวงศ์ตระกูล มันหายสาบสูญไปตั้งแต่สิ้นบ้านวงศ์ตระกูล
“คุณเรียกราคามาเถอะ” ทาวัตวางสร้อยกลับไปที่เดิม จ้อมมองเอ
เอรู้สึกประหลาดใจ ผู้คนมากมายที่ล้มเลิกไปเพราะราคาและเงื่อนไขที่เธอเสนอ พ่อของลูกพี่ไม่เหมือนพวกนั้น ชายคนนี้มีความตั้งใจจะสร้อยเส้นนี้จริงๆ
ถ้าหากว่ามี ถึงเธออยากคิดเงินเขา ก็ไม่กล้า
ถ้าหากไม่มี ก็ว่าไปอีกอย่าง
“เรื่องราคานี้ก็……”เอยกมือขึ้นมาจับผมที่ยาวที่ลอนของตัวเอง กวักตาไปมาด้วยความลังเล “ฉันต่้องการหุ้น10%ของบริษัท CR”
และนี้ก็เป็นเหตุผลที่คนพวกนั้นทำไมถึงล้มเลิกไป
หุ้น10% คิดเป็นค่าเงินก็ถือว่าเยอะทีเดียว พูดได้ว่าเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่คนหนึ่งได้เลย
“ได้” ทาวัตนิ่งไปสักครู่ แต่ก็ตอบตกลง
อะไร?
เอมองเขาจนลูกกะตาตัวเองจะถล่นออกมาอยู่แล้ว อะไรเนี่ย หุ้นเลยนะ เธอฟังไม่ผิดใช่ไหม?
แต่คิดดูแล้ว ครึ่งค่อนประเทศนี้ก็เป็นของเขา หุ้นแค่นี้คงไม่อยู่ในสายตาเขา เหมือนจะน้อยไป
แต่ว่า CR เป็นธุรกิจหลักของบ้านธัมรุจินันท์ สถานที่เป็นหัวใจหลัก ถ้ามีหุ้นของCR10%
ก็เท่ากับว่ากำส่วนหนึ่งของประเทศนี้ไว้ในมือแล้ว
ทาวัตขมวดคิ้ว ไม่ได้รับกล่องมา แต่พูดว่า “พรุ่งนี้ผมจะให้คนเอาหนังสือโอนหุ้นมาให้คุณ”
เอได้ยินเช่นนี้ประหลาดใจมาก คุณไม่ต้องมาทำให้เราลำบากใจเลย ฉันตั้งใจจะมอบมันให้คุณ ให้ฟรีๆ!
“ไม่ต้องแล้วค่ะ สร้อยเส้นนี้พวกเรามอบให้คุณ หลังจากนี้ยังต้องการการสนับสนุนของคุณอีก” ตอนนี้เอแทบจะอยากบีบคอตัวเองตาย ไม่ควรพูดเรื่องหุ้นบ้าบออะไรนั้นกับทาวัตจริงๆ เธอไม่คิดว่าเขาจะตกลงจริงๆ
ที่นี้เอาไง เธอตายแน่ๆ เธอหลอกพ่อของลูกพี่ ที่สำคัญยังไม่ใช่น้อยๆ
“ทำไม?” ทาวัตเงยหน้าขึ้น สายตามองไปทางเอ มีความไม่พอใจ
ในเมื่อตกลงกันแล้วว่าใช้หุ้นมาแลก ก็ต้องทำตามที่พูด ตอนนี้เธอมาเปลี่ยนใจที่หลังหมายความว่าไง?
“คือ…..” เอไม่รู้จะพูดยังไง เธอคงพูดไม่ได้ว่า “ลูกชายคุณเป็นเจ้าของร้านเรา คุณเป็นพ่อของเขา ของของเขาก็เป็นของของคุณ”
โง่มากจริงๆ
ตอนที่เอกำลังไม่รู้จะทำอย่างไง เผชิญหน้ากับสายตาที่แหลมคมของทาวัต เอฟก็โทรเข้ามาพอดี
ถ้าเป็นเมื่อก่อน รับสายเอฟที ต้องรอให้สายมันดังจนเธอพอใจถึงจะรับ แต่วันนี้ดังแค่ทีเดียวก็รีบรับเลย “ฮะโหล่ ฉันเอง”
“เธอ…..ทำไมเร็วขนาดนี้ เธอเป็นไรไป?” เอฟได้ยินน้ำเสียงตื่นตะลึงของเอ มีความไม่น่าเชื่อนิดๆ
ความเร็วในการรับสาย เร็วจนจะเทียบเท่าความเร็วของจรวดแล้ว !
“ขอประทานโทษนะคะฉันขอไปรับโทรศัพท์ก่อน” เอป้องโทรศัพท์เอาไว้ เห็นว่าเขาพยักหน้าแล้วจึงรีบเดินออกไปข้างนอก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนี้รักประธานเจ้าเล่ห์
ก็รู้นี่นาว่าตอนที่หายไปกำลังท้อง ทำไมไม่ถามถึงเด็ก...