ตอนที่ 312 เธอให้ฉันนี่นะ ไปทำกับข้าว
"นั่นคือสิ่งที่มีค่าที่สุดในห้องหรอ” ทาวัตชี้ไปที่ที่เขาเคยคิดจะเปิดดู นั่นคือประตูที่ถูกปิดอย่างแน่นสนิท ในตอนนั้นวรินทรได้นำเอาสิ่งที่มีค่าของเธอไปเก็บไว้ไม่ใช่น้อยเลย โดยปิดไว้อย่างมิดชิดแม้เบาะแสสักนิดก็ไม่มีใครรู้ ราวดังกลับว่ามันเป็นที่ของเธอโดยคนเดียวเท่านั้น
ถ้าหากวันนั้นไม่ใช่ว่า เธอยอมให้ทาวัตมาส่ง และทาวัตก็ยังดันที่จะอยู่ดูแลเธอต่อ ก็คงจะไม่ต้องพลาดท่าเสียทีให้กับผู้ชายทื่อๆอย่างเขา
ในสายตาของทาวัตบ่งบอกว่ามันเป็นเหตุสุดวิสัย มองไปยังวรินทรที่นั่งพิงอยู่บนโซฟา เรื่องราวเหล่านั้น ควรจะพูดให้กระจ่างชัดเจนตั้งแต่แรกน่าจะดีกว่า ไม่เช่นนั้นมันก็จะเป็นแผลในใจอยู่เช่นนี้ และนับวันมันก็จะยิ่งบาดลึกลงไปใหญ่
จะว่าเขาเฝ้าภาวนารอให้ถึงวันนี้เลยก็ว่าได้ ถ้าเกิดเขาบอกความจริงเหล่านี้กับวรินทรในก่อนหน้านี้ เกรงว่าในก้นบึ้งของหัวใจก็คงจะทุกทรมาน ต่อความรักของเขา และอาจจะกลับไปเหมือนเดิมยากก็เป็นได้
"ก่อนอื่น เราทำกับข้าวให้เสร็จกันก่อนเถอะ” วรินทรเอ่ยขึ้นพร้อมใช้รีโมทในมือชี้ไปยังกองถุงผักที่อยู่บนโต๊ะ ทาวัตยิ้มงงๆและตอบกลับลอยๆไปว่า "เธอจะให้ฉันนี่นะไปทำกับข้าว”
"ก็ใช่ไง ถ้าไม่ใช่คุณแล้วจะเป็นใครล่ะถามได้” วรินทรค้อนเสียงต่ำ ต้องโทษศัตรูหัวใจที่จ้องแต่จะทำร้ายจนทำให้เธอกินข้าวไม่ลง แล้วจะเป็นใครทำไปได้ล่ะถ้าไม่ใช่คุณ
ทาวัตขบมุมปากเบาๆ สุดท้ายถ้าคิดถึงสิ่งที่ไม่สบายที่จะเกิดขึ้นแล้ว มันก็เป็นวิธีที่ประนีประนอมที่สุดแล้ว จึงหอบถุงเหล่านั้นและยอมหายเข้าไปในห้องครัวเอง
"เอ้ย คุณอย่าเผาห้องครัวฉันก็แล้วกัน ถ้าไม่ไหวก็เรียกฉันละกัน” วรินทรนึกถึงครั้งก่อนที่ทาวิตทำกับข้าว โอ้สวรรค์ ผัดข้าวใส่ไข่ในตอนนั้นมันมาได้ไงน้า
เอาไข่ทั้งฟองยัดใส่ลงไปในหม้อหุงข้าวยัดรวมกันกับข้าว ก็ยังเป็นข้าวเปลือกอยู่ แต่สุดท้ายไข่กับระเบิดเฉยเลย ก็ระเบิดไง
วรินทรรู้สึกไม่มั่นใจใดๆทั้งสิ้นกับฝีมือการทำกับข้าวอันไม่ได้ของทาวัต อย่าให้เขาเผาที่นี้ก็เป็นพอ เอ๊ะไม่ใช่ เธอหวังเพียงแค่อย่าเอาไข่ที่พึ่งซื้อมา มาระเบิดเล่นทั้งหมดก็พอ....
ทาวัตอยู่ในครัวเงียบไร้เสียงใดๆ วรินทรยิ่งกลุ้มใจใหญ่ ทนตัวเองให้นั่งอยู่ต่อไปไม่ได้ จึงเข้าไปดูในห้องครัวด้วยความเป็นห่วง
เธอรู้สึกเป็นกังวล พี่ไข่ฟองโตๆของเธอจะถูกทาวัตทำระเบิดเล่นอีกไหมเนี้ย
"ทาวัต คุณเป็นตายร้ายดียังไงทำไมเงียบไป”
ไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆแม้แต่น้อย ทำให้เธอเริ่มกลัวขึ้นมาจริงๆอยากวิ่งเข้าไปดู แต่ก็ยิ่งกังวลในหายนะที่กำลังจะมาถึง
เธอไม่มั่นใจในฝีมือทำอาหารของทาวัตแม้แต่น้อย หากไม่ใช่เพราะทุกข์มานาน บวกกับอยากสั่งสอนเขา คงไม่ให้เขาได้เข้ามาเหยียบเข้าห้องครัวแม้แต่ครึ่งก้าว
"คุณเอาไข่ทั้งลูกเข้าไปหุงในหม้อหุงข้าวอีกแล้วใช่ไหม คุณอย่าอยากทำข้าวผัดใส่ไข่แบบนั้นอีกเป็นอันขาดนะ” ตอนนี้รายการทีวีที่วรินทรชอบดูเริ่มฉายขึ้น แต่ตอนนี้ในใจเธอกังวลแต่ทาวัตจะระเบิดครัวอีก ไม่ได้มีกระจิตรกระใจที่จะดูเลยแม้แต่นิด
"ถ้าไม่ไหวก็บอกไม่ไหวอ่ะ เดี่ยวฉันไปทำเอง” วรินทรตัดสินยืนขึ้นแล้วใจวางรีโมทลง
แต่ในครัวกลับมีเสียงที่ราบเรียบตะโกนเตือนออกมา "เธอนั่งอยู่นั่นแหละ ดูทีวีของเธอไป อย่ากล้าลองที่จะเข้ามาเป็นอันขาด” วรินทรตกใจรีบกลับไปนั่งที่เดิมทันที ดวงตาดำกลมฉ่ำ มองไปยังผนังที่กั้นระหว่างกันอย่างตกใจ
เขารู้ได้ไงว่าเธอลุกขึ้นมาแล้ว มีตาหลังรึไง
มองถังขยะที่เต็มไปด้วยซองขนมของตัวเอง ในที่สุดใบหน้าของทาวัตก็เผยให้เห็นรอยยิ้มอย่างพอใจขึ้นจนได้ ใช้มือขยี้หัวของวริทรเบาๆ " อย่าดื้อน่า มันฝรั่งมันไม่มีประโยชน์ นี่รีบมากินข้าวกันดีกว่า”
"กินข้าวจ๊ะกินข้าว อย่าหากินกับคนตายก็พอ......แล้วมาหยิกฉันทำไมเนี้ย!” วรินทรพึงพูดประชดไปยังไม่ขาดคำก็ถูกทาวัตหยิกที่แก้มไข่ปอกของเธอ และพามาที่โต๊ะทานข้าว
เพื่อการโชว์ฝีมือทำอาหารครั้งนี้ ทาวัตถึงกับตั้งใจไปเรียนทำอาหารกับเชฟมา ครั้งนี้จะไม่ทำให้หญิงสาวรู้สึกประทับใจสุดๆไปเลยเชียวรึ
วรินทรก็รู้สึกตื้นตันใจ แต่ตื้นตันใจเพราะจะไม่ได้กินไข่ระเบิดและข้าวเปลือกหุงอีกแล้ววววว
แต่เมื่อตอนที่กุ้งเทมปุระบอลเข้าปากคำนั้น เธอรู้สึกราวกลับฟองสบู่ที่ลอยอยู่ในใจเธอ ได้แตกจนหมดสิ้นแล้ว
"ทาวัต กุ้งเทมปุระบอลของคุณ ใส่เครื่องปรุงอะไรผิดไปรึเปล่า?” วรินทร ค่อยๆวางกุ้งกลมๆที่เธอพึ่งกัดไปคำหนึงวางลงจานข้างๆแล้วถามขึ้น
"มีอะไรรึปล่า?” ทาวัตมองมายังเธอ และหยิบกุ้งเทมปุระบอลกัดเข้าปากหนึ่งคำ สีหน้าชะงักไปครู่หนึ่ง หวาน มันหวานเกินไปแล้วววววว
"คุณไม่ใช่ใส่น้ำตาลของฉันจนหมดครัวแล้วใช่ไหม?” วรินทรถามด้วยเสียงอ่อย มือที่ถือตะเกียบเริ่มสั่นเล็กน้อย
โอ้สวรรค์ จะให้เธอเชื้อในฝีมือการทำอาหารของเขาได้อย่างไรกัน
ตอนนี้ใบหน้าของทาวัตเต็มไปด้วยความรู้สึกที่ยากคาดเดา กระแอ่มเบาๆ รีบยกจานกุ้งบอลออกไป พร้อมเอ่ยว่า "ครั้งนี้มันเป็นเหตุสุดวิสัยจริงๆ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนี้รักประธานเจ้าเล่ห์
ก็รู้นี่นาว่าตอนที่หายไปกำลังท้อง ทำไมไม่ถามถึงเด็ก...