ตอนที่ 323 สามีของฉันเก่งที่สุดเลย
"พ่อ แม่ ของฉันเขาอยากจะเจอคุณ” หลังจากทาวัตผู้ที่ยืนข้างๆวรินทรได้หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู ก็พูดเช่นนั้น
วรินทรตกใจเล็กน้อย เนื่องจาก 2 วันที่ผ่านมาเธอยุ่งอยู่กับเรื่องงานในวันนี้ จนไม่มีเวลากลับไปที่คฤหาสน์ และทิโนทัยกับชนิศาโทรมาไม่บอกว่าอยากจะเจอเธอกับกวิน และไม่ถามเรื่องต่างๆของพวกเขาอีกด้วย ดังนั้นจึงทำให้เธอรู้สึกประหลาดใจมาก
"คนที่พวกเขาอยากเจอมากที่สุดก็คงเป็นกวิน” สายตาของวรินทรค่อยๆเปลี่ยนไปมองที่เวที T และพูดออกมาอย่างน้อยใจเล็กน้อย
"ผมบอกพวกเขาไปแล้วว่า ช่วงนี้คุณยุ่งมาก ถ้าอยากจะเจอคุณก็ต้องรอพรุ่งนี้ คุณถึงจะเคลียร์งานเสร็จ และว่างไปหาพวกเขา” ทาวัตยิ้มอย่างอ่อนนุ่ม และกอดเอวเธอจากด้านหลัง แล้ววางคางไว้บนไหล่ของเธอ
"ถึงว่าละ ว่าทำไมสองวันนี้ถึงเงียบขนาดนี้ ไม่โทรหา ไม่ขึ้นมาถามด้วย สามีของฉันนี่เก่งที่สุดเลย” วรินทรอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา และหันไปหาเขาอยู่ในตำแหน่งคางพอดีแล้วก็ ... "จ๊วบๆๆๆ” ....... จูบเขา.....
"สามี” ทาวัตรู้สึกดีใจ มีความสุขมากๆที่ได้ยินคำๆนั้นจากเธอ เขายิ้มพอใจกับคำๆนั้นมากยิ้มจนตาดวงนั้นเล็กแถบมองอะไรไม่ชัดเลย และก็ก้มลงจูบปากสีแดงเข้มๆก่ำๆ คล้ายสีของเชอร์รี่โดยไม่แคร์สายตาของผู้คนในงานเลย
"อือออออ” วรินทรเขินจนตีหน้าอกเขา แล้วผลักเขาออก หลังจากนั้นเธอไม่อยากให้เขาเห็นว่าเธอเขินจนหน้าแดงเลยหลบอยู่ในเสื้อคลุมของเขา
ในเวลานั้นแสงไฟทั้งหมดส่องไปทางเวทีการเดินแบบ และสายตาของทุกคนมองไปทางนางแบบ จึงไม่มีใครสังเกตเห็นการกระทำของพวกเขาเมื่อครู่นี้เลย
"นี่คุณอยากตายรึไงเนี้ยะ ?” ทาวัตดึงเธอออกจากหน้าอกเขา แล้วมองใบหน้าเล็กๆที่แดงก่ำที่เขินจนพูดอะไรแบบนั้นออกมา
จริงๆแล้วผิวหน้าของผู้หญิงคนนี้ค่อยข้างจะหนามากๆ แต่ทุกครั้งที่เขาจูบเธอ ใบหน้าของเธอก็เปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำทันที และกลายเป็นผิวหน้าบางไปเลยด้วย
เพราะเป็นแบบนี้ เขากลับยิ่งชอบแกล้งเธอ
"ใครๆ ใครจูบคุณเนี้ยะ ไม่เห็นเหรอว่าคนเยอะขนาดไหนเนี้ยะ?” วรินทรทั้งเขินและโกรธจึงเอื้อมมืออกไปแล้วใช้แรงที่มีอยู่จับเอวของเขาไว้ ซึ่งถ้าหากมีคนเห็นว่าเธอออกไปก็ต้องใส่หน้ากากป้องกันฝุ่นแล้วแหละ
"พวกเขาไม่เห็นหรอก” ทาวัตห่อหน้าแดงๆก่ำๆของเธอ โดยใช้เสื้อคลุมเธอคลุมเอาไว้ จึงทำให้ไม่มีใครสังเกตเห็น
"…….” ถึงตาของวรินทรแล้วถ้าสินค้าตัวนี้เอาขึ้นไปบนเวทีจนเกิดเรื่องอะไรแบบนั้น ...."ก็คิดสะว่าผู้ชมด้านล่างนั้นคือลูกฟักทอง” เป็นความสามารถเฉพาะตัว ?
อีกไม่นานก็ถึงเวลาการแสดงแฟชั่นโชว์เดินแบบรอบสุดท้ายแล้ว ยิ่งใกล้ถึงก็ยิ่งกดดัน แต่แน่นอนว่าจะต้องทำให้ดี สวยงาม เริ่ด กว่าโชว์ก่อนหน้านี้ และต้องดึงดูดผู้ชมให้ได้ด้วยถึงจะเรียกว่าประสบความสำเร็จการจัดโชว์ในครั้งนี้
ผ่านไป 15 นาทีก็ถึงเวลาแสดง วรินทรจึงมองไปทางเวที และแสงไฟก็ค่อยๆมืดลงเรื่อยๆ
ถึงแม้ว่าเสื้อผ้าเธอจะเป็นคนออกแบบแล้วเธอก็เคยเห็นชุดที่สำเร็จรูปนี้มาแล้วด้วย แถมยังมีนางแบบสวมชุดที่เธอออกแบบมาเดินแบบด้วย
แต่ทุกครั้งเธออดไม่ได้ที่จะรู้สึกตื่นเต้นและดีใจ
นางแบบคนแรกที่เดินออกมาคือทวิติยาซึ่งทำให้บรรยากาศในงานลุกเป็นไฟขึ้นมาเลย
ด้านบนเพดานของเวทีเริ่มมีขนนกสีขาวเหมือนดั่งหิมะค่อยๆลอยลงมา และมีแสงไฟที่ส่องแสงสว่าง จึงทำให้ดูสวยและงดงามดั่งเกล็ดหิมะเลย
ทวิติยาสวมชุดกระโปรงสั้นสีขาวดำที่ทำให้ดูดึงดูดและโดดเด่น แล้วใส่เสื้อหนาวที่ทำจากขนเป็ดสีขาวคลุมไว้ด้านนอก แถมยังมีเกล็ดหิมะใหญ่โตประดับด้านหลังชุด ราวกลับเป็นราชินีหิมะแห่งเมืองหิมะเลย
เสื้อผ้าพวกนี้จะถูกจัดวางอยู่ภายใต้ความดูแลของร้าน CR เพราะว่านักออกแบบคือคนละคนกัน ดังนั้นจำนวนของเสื้อผ้าก็จะไม่เท่ากัน เพราะจำนวนเสื้อผ้าแต่ละตัวขึ้นอยู่กับความสามารถและชื่อเสียงของนักออกแบบแต่ละคนด้วย
แต่ตั้งแต่ตอนนั้นจนถึงปัจจุบันวรินทรคือคนเดียวที่สามารถอยู่ในกลุ่มการออกแบบของ CR แม้สิทธิ์ในการออกแบบชุดแต่ละชุด เสื้อผ้าแต่ละตัวจะมีอย่างจำกัด
อย่างไรก็ตามหลังจากจบงานการแสดงแฟชั่นโชว์แล้ว เสื้อผ้าเหล่านี้จะนำมาวางไว้บนเวที เพื่อให้แขกผู้มีเกียรติทุกท่านได้ประมูลราคา ใครที่ให้ราคาสูงสุดก็เป็นผู้ที่ได้ครอบครองชุดดังกล่าวไป
"ความคิดเห็นของธรรศครั้งนี้ไม่เลวเลยนะ แต่พูดก็พูดเถอะ ฉันจะได้ส่วนแบ่งเท่าไหร่ล่ะ ?” สายตาของวรินทรเปล่งประกาย ราวกับว่าเห็นเงินติดปีกบินมาหาเธอเป็นจำนวนมากอย่างนั้นแหละ
"ทุกสิ่งทุกอย่างของผมทั้งหมดเป็นของคุณ คุณยังจะไปสนใจเงินจำนวนน้อยๆๆนั่นทำไม” หลังจากได้ยินภรรยาของตัวเองพูดถึงความรวยของผู้ชายคนอื่น บอสทาวัตจึงใช้น้ำเสียงที่ไม่พอใจพูดไปเบาๆ พร้อมหันไปมองทางธรรศด้วย
เขาค่อยๆโน้มตัว ใกล้ๆกับใบหน้าของเธอ แล้วน้ำสร้อยคอเก็บไว้ในเสื้อของเธอ
"จำไว้นะว่า ไม่ว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้น ก็ห้ามถอดสร้อยเส้นนี้ออกอีก” เขากระซิบเบาๆ ราวกับเป็นเสียงนกร้อง เพราะเสียงเบามาก
วรินทรพยักหน้า เหมือนจะเข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้าง แต่ก็จำคำพูดของเขาได้
ทาวัตยิ้มมุมปากเล็กน้อย แล้วหันหน้าไปหอมแก้มของเธอ "ดีมาก”
"……”วรินทรเหมือนจะเอามือมาปิดหน้า แต่มือของเธอถูกเขาจับไว้แน่น จึงทำได้แค่ก้มหน้าเพื่อปกปิดหน้าแดงก่ำๆนั้นเอาไว้
การประมูลในรอบที่สามเริ่มขึ้นแล้ว ซึ่งเป็นการประมูลเสื้อผ้าที่วรินทรเป็นคนออกแบบ มีทั้งหมด 15 ชุด
ชุดแรกคือชุดที่ทวิติยาเป็นคนใส่เดินแบบเมื่อสักครู่ การเริ่มต้นการประมูลราคาอยู่ที่ 400,000 ซึ่งราคาสูงกว่าชุดก่อนหน้านี้ และชุดทั้ง 15 ชุดนี้อยู่ระหว่าง 200,000 ถึง 400,000
แต่ว่าภายในงานจัดการแสดงนี้ไม่จำเป็นต้องเป็นตระกูลที่มีทั้งเงินและอิทธิพล บุคคลธรรมดาก็สามารถซื้อในราคานี้ได้
ทันใดนั้น มีเสียงๆหนึ่งดังขึ้น จนทำให้ต้องหยุดการประมูลลงก่อน
"ฉันรู้แล้ว !” เป็นเสียงผู้ชายคนหนึ่ง ได้ยินแล้วรู้สึกคุ้นๆด้วย "ฉันคิดว่าเสื้อผ้าเหล่านี้ไม่คุ้มกับราคา หรือว่าบริษัทของพวกคุณจะจงใจขึ้นราคาเพื่อหลอกลวงผู้บริโภคเหรอ ?”
แท้จริงแล้วคือ ปทิต
วรินทรคิดทบทวนเรื่องราวอยู่สักพัก เพราะครั้งก่อนก็ไม่ได้ถูกทาวัตฟาดด้วย แล้วครั้งนี้ก็มาที่นี้เพื่อเอะอะโวยวายอีก
มีผู้คนในงานที่ซักถามข้อสงสัยอยู่บ้าง เพราะเนื่องจากก่อนหน้านี้การประมูลเสื้อผ้าอยู่ระหว่าง 100,000ถึง 200,000 รอบที่สองราคาก็พอๆกัน แต่รอบที่สามทำไมเพิ่มขึ้นเยอะขนาดนี้ และ CR ก็ไม่น่าจะทำเรื่องอะไรแบบนี้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนี้รักประธานเจ้าเล่ห์
ก็รู้นี่นาว่าตอนที่หายไปกำลังท้อง ทำไมไม่ถามถึงเด็ก...