บทที่187 มีดพันหมื่นเล่ม
ในตอนนี้ สำหรับเหล่าชายผู้มีอำนาจ ในใจพวกเขามีแต่ความโกรธ ความโกรธที่ยากจะอธิบาย
หานปิงหานคือนางฟ้าที่ไม่อาจเอื้อม สมบูรณ์แบบไร้ที่ติในสายตาพวกเขา พวกเขากระทั่งยกให้หานปิงหานเป็นสิ่งต้องห้ามของพวกเขา จะปล่อยให้เด็กแปลกหน้าเข้ามายุ่งได้ยังไง
อีกอย่าง ยังใช้ท่าพิชิตที่มีความเอาชนะอย่างมากกับหานปิงหาน
โดยไม่รู้ตัว พวกเขาใช้ความเคยชินมองว่าฉากนี้ลู่เสี้ยงหยางคว้าหานปิงหานไปแล้ว คว้าผู้หญิงของชายมีอำนาจเหล่านี้ไปแล้ว!
ต้องตาย!
แกมันต้องตาย!
เหล่าชายผู้มีอำนาจต่างจ้องไปที่ลู่เสี้ยงหยางอย่างโหดเหี้ยม ราวกับต้องการให้เขาถูกมีดหมื่นพันเล่มทิ่มแทงทุกๆนาที
เหอจุ้นเหลียงเองก็เป็นคนมีแผนการ นอกจากความโกรธแล้ว เขายังมีความสุขลับๆในใจ
ในอดีตหานปิงหานอาศัยว่าตนเองเป็นคุณหนูใหญ่ตระกูลหาน มีความหยิ่งผยอง ชายมีอำนาจอย่างเขามาตามจีบหานปิงหาน หานปิงหานเอาแต่เพิกเฉย
ในคืนนี้ ลู่เสี้ยงหยางทำให้หานปิงหานต้องพบเจอกับความอัปยศแบบนี้ เขากระโดดออกมาสั่งสอนลู่เสี้ยงหยางแทนหานปิงหาน แน่นอนว่าจะต้องหลงเหลือความประทับใจที่ยากจะลบล้างในใจหานปิงหาน
คิดมาถึงตรงนี้ เหอจุ้นเหลียงก็เกือบจะยิ้มออกมาด้วยความตื่นเต้น ลู่เสี้ยงหยางช่วยเบาแรงเขาได้จริงๆ
โดยไม่มีความลังเลใดๆ เขาตบไปที่โต๊ะ มองไปที่ลู่เสี้ยงหยางแล้วพูด “ไอ้หนู ปล่อยคุณหาน แล้วก็ก้มหัวขอโทษคุณหานหลังจากนี้ชีวิตของแกในคุก ก็อาจจะดีขึ้นหน่อย”
เขาตัดสินใจได้แล้ว ว่าจะส่งลู่เสี้ยงหยางเข้าคุก สำนึกในความผิด
มือของลู่เสี้ยงหยางยังคงกดอยู่บนหัวของหานปิงหาน ทำให้หานปิงหานทั้งดูจนตรอกและอัปยศ
หลังจากนั้น ลู่เสี้ยงหยางก็หันไปมองเหอจุ้นเหลียง แล้วพูดนิ่งๆ “คิดว่าคุกของปินเหอเป็นของบ้านแกหรอ? อยากจะส่งฉันเข้าไป ก็ส่งฉันเข้าไปเลย”
เหอจุ้นเหลียงหัวเราะ แล้วพูดอย่างภาคภูมิใจ “ถ้าแกไม่เชื่อ จะเสี่ยงโชคดูก็ได้ แกไม่ใช่คนแรก และไม่ใช่คนสุดท้ายที่จะได้สวัสดิการแบบนี้”
ก่อนหน้านี้ก็มีคนไม่น้อยที่ทำให้เหอจุ้นเหลียงขุ่นเคือง ถ้าไม่ถูกเขาต่อยตีต่อหน้า ลับหลังก็ถูกส่งเข้าคุก สุดท้ายก็ไม่มีวันได้ลืมตาอ้าปาก
การแสดงออกบนใบหน้าของลู่เสี้ยงหยางนั้นเย็นชาและเฉยเมยอย่างไม่เคยมีมาก่อน พูดเน้นย้ำทีละคำ “สังคมนี้มันมีคนพาลอย่างแกเยอะเกินไป สังคมมันถึงได้ดำมืด ไม่ยุติธรรมแบบนี้”
เหอจุ้นเหลียงยังคงมีท่าทีมีชัย แม้แต่น้ำเสียงก็หยิ่งผยอง “นี่มันคือความจริง คนมีอำนาจอย่างพวกฉัน ถึงคราวจะต้องควบคุมชีวิตต่ำต้อยของพวกแก พูดตามจริง ในสายตาฉัน ชีวิตแกยังไม่มีค่าเท่าหมาที่ฉันเลี้ยงเลย แกเข้าใจไหม?”
ได้ยินคำนี้ ตัวของลู่เสี้ยงหยางก็แผ่ออร่าฆ่าฟันหนาทึบขึ้นเรื่อยๆ
สังคมนี้ต้องการความยุติธรรม ความเป็นธรรม ความรู้สึกผิดชอบชั่วดี
ถอนหายใจหนึ่งเฮือก แล้วลู่เสี้ยงหยางก็พูดขึ้น “คนมีอำนาจที่คิดว่าตัวเองสูงส่งกว่าคนอื่นอย่างพวกแก เพลิดเพลินอยู่กับความสุข พวกแกควรรู้ไว้ ว่าสิ่งที่พวกแกครอบครองอยู่ตอนนี้ หรือเงินทุนที่พวกแกหยิบเอามาเหยียบย่ำคนธรรมดาได้ตามใจ มันสร้างอยู่บน ตัวของคนที่ต่อสู้เพื่อความปลอดภัยของชาติอย่างลับๆตั้งกี่คน พวกแกมีคุณสมบัติอะไรที่จะได้เสวยสุขกับโลกที่เจริญรุ่งเรือง?”
คำพูดนี้แข็งแกร่งมีพลัง เป็นถ้อยคำที่สวยงาม
น่าเสียดายที่คนที่มีความชอบธรรมในที่นี้มีน้อย ไม่อย่างนั้นเมื่อฟังคำพูดของลู่เสี้ยงหยางแล้ว จะต้องเกิดจิตวิญญาณที่กล้าแกร่ง แล้วปรบมือให้แน่นอน
ชายผู้มีอำนาจหลายคนหัวเราะ ไอ้ลู่เสี้ยงหยางนี้คิดว่าตัวเองเป็นผู้กอบกู้โลกหรอ? พูดให้ตัวเองสูงส่งซะขนาดนั้น
เหอจุ้นเหลียงยิ้มเย้ยหยัน แล้วพูดต่อ “ช่างน่าเศร้า แกไม่รู้จักใบหน้าที่แท้จริงของโลกนี้ ในสายตาผู้ดีมั่งคั่งอย่างพวกฉัน ชีวิตที่ต่ำต้อยของพวกแกก็เหมือนกับหญ้า มีอะไรควรค่าแก่ความสงสาร เอาเถอะ พูดไร้สาระให้น้อยหน่อย รีบปล่อยคุณหานได้แล้ว”
ที่ทำให้คนแปลกใจคือ ลู่เสี้ยงหยางยอมปล่อยหานปิงหานไปจริงๆ
นี่ทำให้คนมากมายคิดว่า ลู่เสี้ยงหยางกลัวแล้ว เดี๋ยวก็จะขอประณีประนอม
แต่การเปลี่ยนแปลงก็เกิดขึ้นในตอนนี้
เหอจุ้นเหลียงเจ็บจนตัวสั่นตั้งนานแล้ว เหงื่อเย็นบนหน้าผากก็ไหลลงมา จะพูดอะไรได้อีก
“ไอ้สวะ ถ้าไม่มีพื้นฐานครอบครัวของแกมาสนับสนุน แกก็เป็นแค่ขี้หมา” ลู่เสี้ยงหยางถีบทีเดียวทำเอาเหอจุ้นเหลียงล้มลงไปกับพื้น ดิ้นรนราวกับหมาตาย
จากนั้นก็มองไปที่หานปิงหานอีกครั้ง แล้วพูดเบาๆ “ตอนนี้แกยังคิดว่าตัวเองมีเงินทุนที่น่าภูมิใจอีกไหม? เมื่อกี้ฉันพูดแล้ว แกมันก็แค่กะหรี่ เห็นด้วยกับคำนี้ไหม?”
หานปิงหานหน้าเขียวม่วง เธอไม่คาดคิดว่า ลู่เสี้ยงหยางจะกล้าหาญมากขนาดนี้ ไม่เกรงกลัวต่ออำนาจ กล้าลงมือฆ่าอย่างโจ่งแจ้งแบบนี้
แต่สภาพจิตใจเธอดีมาก ปั้นหน้ายิ้มแล้วพูด “แกอาจจะยังไม่รู้ สถานะของตระกูลเหอในปินเหอ แล้วเหอจุ้นเหลียงก็เป็นที่เคารพนับถือมากที่สุดในตระกูลเหอ วันนี้แกทำผิดต่อตระกูลเหอ บวกกับตระกูลหานอีก แล้วยังชายผู้มีอำนาจทั้งล็อบบี้ แกมีซักสิบชีวิตก็ชดใช้ไม่ได้”
พูดจบเธอก็ยิ้มอย่างโหดเหี้ยม ลู่เสี้ยงหยางยังคงตกอยู่ในแผนของเธอ
ลู่เสี้ยงหยางโบกมือ แล้วพูดอย่างเมินเฉย “หานปิงหานนะหานปิงหาน จู่ๆฉันก็เปลี่ยนความคิดเห็นที่มีต่อแกแล้ว ก่อนหน้านี้ฉันคิดว่าแกฉลาดนิดหน่อย แต่ตอนนี้ดูเหมือน แกจะโง่เหมือนหมู แกคิดว่า ฉันจะมองเห็นพวกผู้รากมากดีอย่างที่แกพูดพวกนี้ในสายตาหรอ? ดูท่า แกยังเพ้อฝันอยู่ ถ้าอย่างนั้น แกลองออกคำสั่งซักหน่อย ดูซิว่าพวกคนมีอำนาจพวกนี้ มีซักคนไหมที่กล้าออกมายืนพูดแทนแก”
หานปิงหานโกรธจนแทบอ้วกเป็นเลือด ไอคิวและทักษะการวางแผนของเธอเป็นสิ่งที่เธอภาคภูมิใจที่สุด แต่ตอนนี้กลับถูกลู่เสี้ยงหยางย่ำยีไร้ค่า
แต่ถึงอย่างไร เธอก็ไม่เชื่อคำพูดของลู่เสี้ยงหยางแม้แต่น้อย คิดว่าเหล่าชายมีอำนาจที่อยู่ที่นี่ จะต้องมีใครซักคนอยากคุกเข่าประจบประแจงเธอ สายตาของเธอมองไปที่ชายผู้มีอำนาจทั้งหลายโดยไม่รู้ตัว
แต่ว่าคราวนี้ เหล่าชายผู้มีอำนาจที่แต่เดิมหยิ่งผยองทั้งหลายกลับหดคอลง สีหน้าแสดงความหวาดกลัวอย่างมาก ความหมายคือไม่กล้าก้าวออกมาเลยแม้แต่น้อย
ตูม!
หัวใจของหานปิงหานสูบฉีดอย่างหนัก ราวกับว่าถูกชนด้วยค้อนขนาดใหญ่ที่ไร้รูปร่าง
ลู่เสี้ยงหยางมันช่าง—ใช้พลังของคนเหยียบย่ำพวกผู้ลากมากดีทั้งหมด
ความไม่พอใจ ความอัปยศ ความโกรธแค้น ถูกความต้องการเอาชนะท่วมไปทั้งหัวใจของหานปิงหาน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนุ่มเศรษฐีลึกลับ