หนุ่มเศรษฐีลึกลับ นิยาย บท 19

บทที่ 19 อคติ

เมื่อได้ยินคำพูดของผู้ช่วย หวังเสว่ก็นิ่งอึ้ง ลู่เสี้ยงหยางเพิ่งขึ้นไปแลกตัวประกันลงมาไม่ใช่เหรอ? แล้วทำไมตอนนี้คนร้ายถึงต้องตบหน้าตัวเองด้วยล่ะ

“ไม่ได้ล้อเล่นใช่ไหม?” หวังเสว่รู้สึกเหลือเชื่อ คิดว่าผู้ช่วยต้องกำลังล้อเล่นแน่ๆ

“หัวหน้าครับ ในสถานการณ์อย่างนี้ ผมจะไปกล้าล้อเล่นได้ยังไงล่ะครับ มันเป็นเรื่องจริง จางติ่งเทียนกำลังนั่งคุกเข่าอยู่บนพื้น แล้วก็ตบหน้าตัวเองเหมือนกำลังสารภาพบาปอะไรบางอย่างอยู่” ผู้ช่วยพูดออกมาอย่างซื่อๆ

“งั้นไป ขึ้นไปดู” หวังเสว่กวักมือ แล้วเดินบุกขึ้นไปเป็นคนแรก

ตำรวจคนอื่นๆทยอยตามขึ้นไป

เป็นอย่างที่ผู้ช่วยพูดเอาไว้ ตอนที่หวังเสว่และเหล่าตำรวจมาถึงห้องนอนบนชั้นสอง แค่มองผ่านหน้าต่างกระจกเข้าไปก็เห็นเหตุการณ์ข้างใน

จางติ่งเทียนคุกเข่าอยู่บนพื้น ร้องไห้น้ำหูน้ำตาไหล พร้อมทั้งตบหน้าตัวเองซ้ายทีขวาที

“ผมผิดไปแล้ว ผิดไปแล้วจริงๆ คุณชายลู่”

“นี่มันอะไรวะเนี่ย?!”

ภาพนั้นทำให้หวังเสว่และตำรวจทุกคนเบิกตาอ้าปากค้าง ในหัวขาวโพลนไปหมด

ลู่เสี้ยงหยางใช้วิชามารอะไรกัน? ถึงทำให้คนร้ายอย่างจางติ่งเทียนคุกเข่าสารภาพบาปได้!

คนของตระกูลเย่ได้ยินว่าจางติ่งเทียนนั่งคุกเข่าสารภาพบาป ก็รู้สึกเหลือเชื่อเช่นเดียวกัน แต่ละคนต่างมองหน้ากันไปมา

เย่หยุนเทาที่เก่งเรื่องประจบสอพลอ ก็ยิ้มแล้วพูดออกมาว่า “เพราะคุณงามความดีและบารมีของคุณย่าแน่ๆ จางติ่งเทียนถึงได้ทนฝืนไม่ไหว และเริ่มรู้สึกผิด”

“ใช่ๆ แม่เยี่ยมสุดๆไปเลย”

“คุณย่านี่ถึงจะแก่แต่แจ๋วจริงๆ”

คนของตระกูลเย่พูดเยินยออย่างหน้าไม่อาย

ท่านย่าชอบอยู่สูงและชอบได้หน้า แม้จะรู้สึกว่าที่หลานชายพูดมาไม่น่าจะเป็นไปได้ แต่กระนั้นก็ยังรับคำเยินยอเหล่านั้นเอาไว้อย่างหน้าด้านๆ

ภายในห้องนอนชั้นสอง

ลู่เสี้ยงหยางมองจางติ่งเทียนตบหน้าตัวเองอยู่นานพอสมควร จากนั้นถึงได้พูดว่า “เอาล่ะ พอได้แล้ว เห็นแก่ที่นายรู้สึกผิดจริงๆ เรื่องนี้ฉันไม่เอาความกับนายก็ได้”

ตอนที่เพิ่งเข้ามาแลกตัวเย่สวนกับหลิวจิ้งออกไป ลู่เสี้ยงหยางก็ได้เปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของเขาให้จางติ่งเทียนได้รับรู้ ทีแรกจางติ่งเทียนไม่เชื่อ ลู่เสี้ยงหยางจึงต้องหยิบหยกประจำตัวของสายเลือดตระกูลลู่ออกมาให้จางติ่งเทียนดู

จางติ่งเทียนกลัวจนตัวสั่น รีบคุกเข่าลงคำนับกับพื้นเพื่อขออภัย เขารู้แล้ว ว่าที่แท้ก็เป็นลู่เสี้ยงหยางนี่เองที่ทำให้เขาไม่เหลืออะไร

“เข้าไปปรับปรุงตัวสักพักนะ ถ้าออกมาแล้วนายทำตัวดี นายก็จะสามารถกลับมาทำงานที่หย่งหยวนกรุ๊ปต่อได้ และต่อไปนี้ฉันหวังว่านายจะซื่อสัตย์ให้ได้เท่าหมาด้วยล่ะ”

“ครับ.....ครับ....ครับ....นายท่าน ต่อไปนี้ผมจะเป็นหมาที่ซื่อสัตย์ สั่งให้ผมไปกัดใครผมก็จะไปกัดมันตามที่คุณบอก” จางติ่งเทียนคำนับหัวกระแทกพื้น จนหน้าผากเริ่มมีเลือดไหลออกมา พร้อมกับพูดออกมาอย่างจริงใจ

ขอแค่ได้กลับไปทำงานที่หย่งหยวนกรุ๊ป ให้ทำอะไรเขาก็ยอมทั้งนั้น

“อืม” ลู่เสี้ยงหยางพยักหน้า ไม่ได้พูดอะไรออกมาอีก และในตอนนี้เอง ที่ตำรวจบุกเข้ามา แล้วจับกุมจางติ่งเทียนเอาไว้

ลู่เสี้ยงหยางหมุนตัวเตรียมจะเดินออกไป แต่พอเดินมาถึงหน้าประตูก็เจอหวังเสว่

“คุณทำได้ยังไง?” หวังเสว่ถามพร้อมกับมองลู่เสี้ยงหยางอย่างประหลาดใจ หมอนี่เป็นแค่คนไม่เอาไหนในตระกูลเย่ไม่ใช่เหรอ แต่ทำไมเธอไม่เห็นจะรู้สึกว่าเขาเปล่าประโยชน์เลยสักนิด กลับกันเธอคิดว่าเขามันเสือซ่อนลายชัดๆ

ลู่เสี้ยงหยางยิ้มแล้วพูดว่า “ผมก็แค่เล่าเรื่องราวของพระเยซูและยูดาให้เขาฟังน่ะครับ พอฟังจบเขาก็เลยสารภาพบาป”

“........”หวังเสว่เดดแอร์ รู้สึกว่ามันไม่ใช่อย่างที่พูดแน่ๆ เธอคิดจะถามต่อ แต่ก็พบว่าลู่เสี้ยงหยางเดินผ่านเธอออกไปข้างนอกแล้ว

หวังเสว่อยากรีบกลับไปสอบปากคำจางติ่งเทียนที่สถานีตำรวจ จะได้ไม่ต้องไปตามวอแวลู่เสี้ยงหยางให้มากนัก เลยพาทีมตำรวจจากไปอย่างรวดเร็ว

ด้านนอก คนของตระกูลเย่ยังคงเยินยอท่านย่าอยู่ จนถึงตอนนี้ถึงได้เริ่มซาลงบ้างแล้ว

จางเทียนเฉิงที่ยืนอยู่ข้างๆไม่ได้จากไปไหน เรื่องปิ่นปักผมอันนั้น เขายังไม่มีโอกาสได้พูดออกไปเลย มันทำให้เขาอึดอัดไปหมด ตอนนี้พอเห็นท่านย่ากำลังดีใจ เขาจึงตัดสินใจพูดออกไป

“ท่านย่า มีเรื่องหนึ่งที่ผมยังไม่ได้บอกคุณ ไม่รู้ว่าคุณจะอยากฟังหรือเปล่า” จางเทียนเฉิงกลืนน้ำลายลงคอ แล้วเอ่ยพูดออกมา

“เรื่องอะไร? ตาจาง คุณพูดมาเถอะ” ท่านย่ากำลังอารมณ์ดี จึงพยักหน้าให้

“ใช่ ก็แค่โชคเข้าข้าง บังเอิญซื้อโดนของโบราณ มีอะไรน่าชื่นชม”

“ฮ่าๆ แม้แต่ตัวเขาเองก็ไม่น่าจะรู้ว่านี่คือของโบราณนะ ไม่อย่างนั้น คนจนๆอย่างเขา จะกล้าซื้อคุณย่าได้ยังไง”

“ใช่ๆ ครอบครัวของพวกนั้นคงเสียดายตายแล้วมั้ง ฮ่าๆๆ”

ได้ยินที่คนอื่นเหยียดหยาม ความรู้สึกเหมือนได้เชิดหน้าชูตาของหลิวจิ้งก็พลันหายไปวับไปทันที จากนั้นก็มองไปทางลู่เสี้ยงหยางอย่างไม่ได้ดั่งใจ

ไม่รู้ว่าตัวเองฟลุ๊กได้ของโบราณราคาห้าสิบล้านมาแล้วยังให้คนอื่นไปแล้วอีกเนี่ยนะ

จางเทียนเฉิงสูดลมหายใจเข้าลึกๆ มองไปทางลู่เสี้ยงหยางแล้วถามว่า “นายรู้จักของโบราณไหม? หรือว่าเป็นอย่างที่พวกเขาพูดว่านายแค่โชคดีได้มาเท่านั้น”

แค่ลู่เสี้ยงหยางได้เห็นหน้าใบหน้าเหยียดหยามของคนตระกูลเย่ก็รู้สึกขยะแขยงแล้ว ดังนั้นจึงพูดออกไปพอเป็นพิธีว่า “ได้มาเพราะโชคช่วยครับ””

พรูด!

เมื่อเขาพูดออกมา คนของตระกูลเย่ก็หลุดหัวเราะออกมาเสียงดัง

ท่านย่าแอบรู้สึกผิดหวังอยู่ชั่วขณะ ตั้งใจให้ของขวัญราคาแพงกับบังเอิญโชคเข้าข้าง มันคนละเรื่องกันเลย

แปะๆ!

จู่ๆท่านย่าก็ตบมือขึ้นมา มองไปทางจางเทียนเฉิงแล้วพูดว่า “คุณมองผิดแล้วล่ะ นี่ไม่ใช่ของโบราณ มันก็แค่ของข้างทาง”

ในเมื่อลู่เสี้ยงหยางแค่โชคดีบังเอิญเจอ งั้นเธอก็ไม่จำเป็นต้องยอมรับลู่เสี้ยงหยาง

จางเทียนเฉิงนิ่งไป ไม่นานก็เข้าใจเจตนาของท่านย่า

ท่านย่าดูถูกลู่เสี้ยงหยาง ถึงแม้ลู่เสี้ยงหยางจะบังเอิญมอบของขวัญเป็นโบราณวัตถุให้ก็ตาม แต่เธอก็ยังไม่ยอมรับว่าของขวัญของลู่เสี้ยงหยางมีค่ามากกว่าของขวัญของเย่หยุนเทา!

นี่มันอคติชัดๆ!

“เอ่อ ขอโทษแล้วกัน ผมคงตาถั่วไปเอง!” จางเทียนเฉิงหัวเราะเจื่อนๆออกมา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนุ่มเศรษฐีลึกลับ