บทที่ 339 คิดจะทำเรื่องชั่วอีกแล้ว
เวลาค่อยๆ ผ่านไป และการปฐมพยาบาลของลู่เสี้ยงหยางคือการแข่งกับทุกวินาที
หลายคนไม่ได้มองโลกในแง่ดีและถอนหายใจพูดกับลู่เสี้ยงหยาง
“ดูเหมือนว่าพวกเราทุกคนจะต้องเดือดร้อนเพราะไอ้ลูกเขยไร้ประโยชน์คนนี้แล้วสินะ”
“แมร่งเอ๊ย! ปลาเน่าตัวเดียวเหม็นทั้งบ่อ”
“เหอะ สมเป็นเศษสวะจริงๆ”
เมื่อได้ยินเสียงเยาะเย้ยเหล่านี้ ลู่เสี้ยงหยางก็รู้สึกขำในใจ จากนั้นเงยหน้าขึ้นแล้วพูดกับฟ้านเจี้ยนจงและพี่น้องของเขา “ผมกำลังทำการรักษาอยู่ และผมก็เกลียดเสียงรบกวนของพวกแมลงวันมากที่สุด ถ้าอารมณ์ผมไม่ดี มันอาจทำให้เกิดความผิดพลาดในการปฐมพยาบาลได้”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ พี่น้องทั้งสามที่มีจิตใจหนักหน่วงอยู่แล้วก็เกิดความโกรธขึ้นมาทันที จากนั้นพวกเขาก็เดินเข้าไปตบหน้ากลุ่มคนที่พูดจาเสียดสีเมื่อครู่นี้
ผัวะๆ ๆ
ทันใดนั้น เสียงตบหน้าอันคมชัดก็ดังขึ้น
ทุกคนที่ถูกตบได้แต่ปิดหน้าและรู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมาก แมร่งเอ๊ย ปล่อยมันไปก่อน ไอ้ลูกเขยกระจอก เดี๋ยวมันจะถูกฆ่าก่อนถ้ารักษายายคนนั้นไม่ได้
และแล้วทุกอย่างก็ไม่ได้เป็นไปตามความตั้งใจของพวกเขา สิบนาทีต่อมา อาการของยายคนนั้นก็เริ่มดีขึ้น
เนื่องจากความเจ็บปวดอย่างรุนแรงก่อนหน้านี้ กล้ามเนื้อที่บิดเข้าหากันก็ค่อยๆ คลี่คลายลง การหายใจก็ค่อยๆ กลับมาคงที่อีกครั้ง
ลู่เสี้ยงหยางยิ้มเบาๆ จากนั้นเก็บเข็มเงินกลับมาใส่ที่เดิมแล้วพูดว่า “ตอนนี้อาการดีขึ้นและพ้นขีดอันตรายแล้วล่ะ”
สีหน้ายายคนนั้นเต็มไปด้วยความขอบคุณ จากนั้นเธอก็พยายามลุกขึ้นเพื่อคุกเข่าขอบคุณลู่เสี้ยงหยาง
แต่ลู่เสี้ยงหยางก็รีบห้ามเธอไว้แล้วพูดอย่างอ่อนโยน “คุณยายครับ การรักษาคนเป็นอาชีพของผมอยู่แล้ว คุณยายไม่จำเป็นต้องทำขนาดนี้ก็ได้ครับ”
ลูกชายทั้งสามก็รีบพูดขึ้นว่า “แม่ไม่ต้องสุภาพกับไอ้เด็กคนนี้ก็ได้ ถ้าวันนี้มันรักษาแม่ไม่ได้ คนบนรถทุกคนก็ต้องฝังไปพร้อมกับแม่อยู่แล้ว”
ยายถอนหายใจและส่ายหัวอย่างละอายใจ แม้ลูกชายทั้งสามของเธอจะกตัญญูและดีต่อเธอมาก แต่พวกเขาก็ทำสิ่งเลวร้ายมามากมายตั้งแต่เด็ก ซึ่งเธอเองก็รู้สึกผิดที่ไม่ได้อบรมสั่งสอนลูกชายของเธอให้ดี
ในเวลาเดียวกัน
คนอื่นๆ ในรถต่างก็พากันมองไปที่ลู่เสี้ยงหยางด้วยความเหลือเชื่อ
แค่ลูกเขยกระจอกคนหนึ่งกลับรักษาโรคหัวใจขาดเลือดของยายคนนั้นได้
ในทางกลับกัน หมออัจฉริยะอย่างโจวซวิ่นกลับทำไม่ได้ เมื่อเทียบกับลู่เสี้ยงหยางแล้วเขาก็คือหมอต้มตุ๋นนี่เอง
โจวซวิ่นรู้สึกร้อนไปทั้งตัว เขาอดไม่ได้ที่จะมุดรูหนีไปให้ไกล อาการของกู้ชิวส่วยที่ติดพิษก่อนหน้านี้ ความจริงแล้วเขาไม่มีปัญญาที่จะรักษาเลย เพียงแต่เขาใช้ผลงานของลู่เสี้ยงหยางมาหลอกทุกๆ คน เพื่อเขาจะได้เป็นที่ยกย่องและเป็นหมออัจฉริยะของทุกคน
แต่ในวันนี้ความจริงก็ได้ปรากฏต่อหน้าทุกคนว่าลู่เสี้ยงหยางต่างหากที่เป็นหมออัจฉริยะตัวจริง
“หืม......นี่......มัน.......” เย่สวนตกใจจนพูดไม่ออก เธอไม่คิดเลยว่าลู่เสี้ยงหยางจะมีความสามารถทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยมขนาดนี้
หวังเสว่พยายามขยี้ตาเพราะคิดว่าตัวเองฝันไป แต่เมื่อรู้ว่านี่เป็นความจริงแล้ว เธอก็ตกตะลึงอย่างที่สุด
ส่วนกู้ชิวส่วยนั้นได้แต่มองไปที่ลู่เสี้ยงหยางอย่างหลงใหล ตอนนี้ร่างกายที่งดงามของเธอแข็งทื่อไปสักพักแล้ว สรุปว่าคนที่ช่วยชีวิตเธอคือลู่เสี้ยงหยางจริงๆ
ลู่เสี้ยงหยางต่างหากที่เป็นหมออัจฉริยะ!
ซุนยีเฉินรู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมาก เขาไม่คิดเลยว่าจะปล่อยให้ลู่เสี้ยงหยางโชว์พาวได้สำเร็จอีกแล้ว แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังพูดอย่างปากแข็งว่า “มันก็แค่แมวนำโชคเท่านั้น”
ดังนั้นเขาจึงทำได้แค่อดทนและรอคอยจังหวะที่ดีที่สุด
ในเวลาเดียวกัน สายตาของฟ้านเจี้ยนจงก็จ้องมองไปที่หวังเสว่ ทันใดนั้นเปลวไฟแห่งความปรารถนาในทั่วร่างกายของเขาก็เริ่มลุกโชน
ฮ่าๆ หุ่นของสาวสวยคนนี้แซ่บจริงๆ เวลาเอาเธอต้องฟินอย่างแน่นอน
“เธอ มานี่” ฟ้านเจี้ยนจงถึงกับกลืนน้ำลายและเล็งปืนไปขู่หวังเสว่
แม้หวังเสว่จะกลัวอยู่บ้าง แต่ลึกๆ ในใจเธอรู้สึกดีมากกว่า เพราะเมื่อได้เข้าใกล้คนร้าย เธอก็จะมีโอกาสจัดการกับพวกเขาได้ง่ายขึ้น
ดังนั้น เธอจึงลุกยืนขึ้นแล้วเดินเข้าไปหาฟ้านเจี้ยนจง
หลังจากนั้นไม่นาน หวังเสว่และเย่สวนต่างก็เดินเข้าไปยืนอยู่ข้างๆ ฟ้านเจี้ยนจงกับฟ้านเจี้ยนหมิง
ทุกคนเห็นเพียงชายสองพี่น้องใช้นิ้วแตะที่ตัวของหวังเสว่และเย่สวนเบาๆ แต่กลับทำให้เธอทั้งสองขยับตัวไม่ได้อีก
นี่เป็นวิชาจี้จุดเฉพาะในศิลปะการต่อสู้
“ฮ่าๆ” ฟ้านเจี้ยนจงและฟ้านเจี้ยนหมิงต่างก็หัวเราะอย่างได้ใจ จากนั้นทั้งสองก็อุ้มหวังเสว่และเย่สวนขึ้นมาแล้วลงจากรถทันที
ในขณะนี้ ตำแหน่งของรถบัสจอดอยู่กลางภูเขาที่ค่อนข้างโล่งและริมทางที่เต็มไปด้วยพุ่มไม้อันหนาแน่น
หลังจากฟ้านเจี้ยนจงและฟ้านเจี้ยนหมิงลงจากรถ ทั้งสองก็หายเข้าไปในพุ่มไม้อย่างรวดเร็ว
เมื่อเห็นว่าลูกชายของเธอกำลังจะทำชั่วอีกครั้ง ยายแก่ก็โกรธมาก แต่ทำอะไรไม่ได้
ฟ้านเจี้ยนหัวส่ายหัวแล้วถือปืนเดินไปมาบนรถและพูดข่มขู่ว่า “ถ้าทุกคนทำตัวดีๆ ก็อาจจะมีโอกาสรอดออกไปจากที่นี่ได้ แต่แน่นอน ถ้าใครคิดตุกติกผมจะไม่ลังเลที่จะเป่าหัวคุณ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนุ่มเศรษฐีลึกลับ