หนุ่มเศรษฐีลึกลับ นิยาย บท 381

บทที่ 381 ยาล้างตระกูลมีปัญหา

ถัดมา ภายใต้สายตาทั้งอิจฉาทั้งหมั่นไส้ของทุกคน ลู่เสี้ยงหยางก็เอาเค้กที่อยู่ในมือกลืนลงคอไปอย่างตะกละตะกลาม

กงหยู่หนิงเห็นลู่เสี้ยงหยางกินอย่างหอมอร่อยขนาดนี้ บนใบหน้าก็มีสีแดงลามไปถึงลำคอ สีผิวที่ขาวผ่องของเธอตอนนี้ถูกแต่งแต้มด้วยสีแดงเฉกเช่นชาดสีแดงที่อยู่ด้านบนของหยกอุ่นชั้นดี ดูแล้วมันช่างดึงดูดเสียจริง

ตึกตัก!

ดวงตาของลู่เสี้ยงที่หยางมองดูแสงส่องสว่างวาววับและกลืนน้ำลายอย่างควบคุมตัวเองไม่ได้ ในสมองมีความคิดหลายอย่างผุดขึ้นมาอย่างไม่ขาดสาย

แม่งเอ๊ย เรื่องดีๆยกให้เจ้าเขยแต่งเข้าบ้านคนนี้ไปครองจนหมดแล้ว

และสายตาของหลายคนต่างจ้องลู่เสี้ยงหยางอย่างไม่ละสายตา ถ้าหากสายตาสามารถฆ่าคนได้ เขาถูกฆ่าหลายร้อยครั้งไปเรียบร้อยแล้ว

“เชี่ยเอ๊ย ไอ้โง่นี่” ฉินหยุนเฟยโมโหถึงขีดสุด เทพธิดาที่ตนเองถวิลหาแม้ในตอนหลับฝันกลับถูกเจ้าเขยแต่งคนนี้ทำให้แปดเปื้อนไปเสียแล้ว

ฮึบ!

เขาสูดหายใจลึกสองสามครั้ง ความอึดอัดในใจถึงได้สงบลง

“ให้ตายเถอะ ดูเหมือนไม่ใช่ช่วงเวลาที่ดีที่จะทำให้เจ้าเขยแต่งคนนี้ต้องอับอาย เขายังไม่รู้ถึงศักยภาพที่ตัวเองมีจริงๆ” ฉินหยุนเฟยคิดในใจ

ช่วงเวลาต่อมา เขาไม่ได้เหลือบมองไปที่ลู่เสี้ยงหยางอีก แต่สายตาตกอยู่บนตัวของจูหยู่เจิน เขาหัวเราะพร้อมกับเอ่ยว่า : “อาจารย์ วันนี้เป็นวันเกิดของคุณ พวกเราทุกคนเตรียมของขวัญเล็กๆน้อยๆสำหรับคุณ หวังว่าคุณจะชอบมันนะครับ”

จูหยู่เจินรู้สึกซาบซึ้งใจพร้อมกับส่ายหน้าพลางเอ่ยว่า : “ของขวัญไม่ใช่สิ่งจำเป็นเลย แค่ฉันได้รับน้ำใจของพวกคุณทุกคน ฉันก็มีความสุขมากแล้วล่ะ”

หวังเจี้ยนหัวเราะชอบใจและเป็นคนแรกที่ลุกขึ้นยืนแล้วพูดว่า : “คุณครู ของขวัญยังจำเป็นสิครับ พวกเราเตรียมไว้แล้ว คุณจะต้องรับไว้นะครับ”

เขาหยิบกล่องของขวัญอันสวยหรูออกมาจากกระเป๋าหลังจากที่พูดจบแล้วเปิดกล่องของขวัญออก และมองเห็นกำไลข้อมือวางอยู่ภายใน กำไลข้อมือเป็นประกายสดใสสวยงาม มองแวบเดียวก็รู้ว่าไม่ใช่ของปลอม

หวังเจี้ยนส่งมันไปและวางไว้ตรงหน้าของจูหยู่เจินอย่างระมัดระวัง

มีหวังเจี้ยนเป็นผู้นำแล้ว นักเรียนคนอื่นต่างทยอยมอบของขวัญที่ตนเองเตรียมมา

ในชั้นเรียนมีทายาทรุ่นที่สองอยู่ไม่น้อย ของขวัญที่พวกเขามอบให้อย่างถูกที่สุดก็ราคามากกว่าหมื่นเหรียญแล้ว

เพื่อการเสแสร้งแล้ว ฉินหยุนเฟยจึงเป็นคนมอบของขวัญคนสุดท้าย และของขวัญที่เขามอบให้คือยาเม็ดหนึ่ง

ยาเม็ดนี้ขนาดเท่ากับหัวแม่มือและเป็นสีแดงทั้งเม็ด นอกจากนี้ยังมีเส้นอยู่ด้านบนสองสามขีดและมีกลิ่นยาที่รุนแรงแผ่ออกมาจากด้านบน

จูหยู่เจินที่เพิ่งจะมองเห็นเม็ดยานี้ก็เกิดความประหลาดใจขึ้นมาและร้องเสียงหลงว่า : “นี่คือยาล้างกระดูกงั้นเหรอ?”

ในใจฉินหยุนเฟยรู้สึกภาคภูมิใจ เขาพยักหน้าแล้วพูดว่า “ตามนั้นเลยครับ เป็นยาล้างกระดูกของจริง คุณมีดวงตาที่เฉียบแหลมจริงๆ มองแวบเดียวก็ดูออกแล้ว”

อู้!

จูหยู่เจินตื่นเต้นมากจนหายใจแทบไม่ออก ดวงตาจับจ้องที่ยาล้างกระดูก ยังไงก็ไม่สามารถขยับได้

เธอย่อมรู้ถึงความทรงพลังของยาล้างกระดูกอยู่แล้ว

ยาล้างกระดูกเป็นยาระดับสาม มีเพียงนักกลั่นยาระดับสามชั้นยอดหรือเป็นนักกลั่นยาที่มีระดับสามขึ้นไปเท่านั้นถึงจะกลั่นออกมาได้ นักบู๊ใช้ยาล้างกระดูกเพียงครั้งเดียว มันจะสามารถขจัดสิ่งสกปรกในร่างกายออกไปได้ สำหรับนักบู๊แล้วมีผลเหมือนกับเกิดใหม่

ตอนนี้ความแข็งแกร่งของจูหยู่เจินอยู่ช่วงเริ่มต้นของนักบู๊ระดับแปดขั้นหลาง ถ้าหากผ่านการชำระล้างด้วยยาล้างกระดูก ไม่แน่อาจจะทะลุไปถึงช่วงกลางของนักบู๊ระดับแปดขั้นหลางได้

สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่า ยาล้างกระดูกมีความสำคัญต่อจูหยู่เจินเพียงใด

ในเวลาเดียวกัน เกือบทุกคนในห้องส่วนตัวล้วนแต่ตกตะลึงจนพูดไม่ออก ดวงตาลุกเป็นไฟขณะที่มองดูยาล้างกระดูก จากการเรียนวิชากลั่นยา พวกเขาได้รู้ถึงประสิทธิภาพและมูลค่าของยาล้างกระดูกแล้ว

ลู่เสี้ยงหยางคิดไตร่ตรองเรื่องนี้อีกเล็กน้อย และคิดว่ามีความเป็นไปได้เพียงอย่างเดียว ยาล้างกระดูกเม็ดนี้อาจจะผ่านการกลั่นออกมาเป็นระยะเวลานานเกินไปจึงได้เปลี่ยนสภาพไปเสียแล้ว

ยาและอาหารต่างก็เหมือนกัน สิ่งที่เหมือนกันคือระยะเวลาในการเก็บรักษา ไม่สามารถที่จะเก็บไว้ได้โดยไม่มีกำหนด

แต่ว่าเนื่องจากคุณสมบัติเฉพาะของยา จึงไม่มีปัญหาที่จะเก็บรักษาไว้หลายสิบปีหรือเกินร้อยปี

ในตอนที่ลู่เสี้ยงกำลังคิดเรื่องนี้อยู่ในใจพอดี หวังเจี้ยนมองไปทางเขาและพูดอย่างเหยียดหยามว่า : “ลู่เสี้ยงหยาง คืนนี้พวกเราทุกคนมอบของขวัญให้กับคุณครูแล้ว ขาดแค่นายคนเดียวที่ยังไม่ได้ให้ ไม่รู้ว่านายเตรียมของขวัญอะไรมาให้งั้นเหรอ?”

โดยไม่รอให้ลู่เสี้ยงหยางพูด ไป๋หมิ่นหมิ่นรับช่วงต่อและพูดตามมาว่า : “ลู่เสี้ยงหยาง ขยะที่นายเจอในกองขยะ ไม่จำเป็นต้องเอาออกมาให้อับอายขายขี้หน้าหรอกนะ”

“ฮ่าๆๆ” พอได้ยินคำพูดนี้ หลายๆคนต่างพากันหัวเราะขึ้นมา

นั่นสินะ เศษสวะที่เกาะผู้หญิงกินคนหนึ่งจะเอาของขวัญอะไรมาให้ได้ล่ะ?

ฉินหยุนเฟยเหลือบมองไปทางลู่เสี้ยงหยางอย่างยั่วยุ และดูเหมือนเขามั่นใจว่าลู่เสี้ยงหยางอยู่ในกำมือของเขาเรียบร้อยแล้วจึงยิ้มกริ่มแล้วพูดว่า : “ลู่เสี้ยงหยาง ของขวัญที่นายจะมอบให้ เป็นกากยาที่ไม่อาจเทียบเท่ากับยาล้างกระดูกที่ฉันมอบให้อย่างแน่นอน แต่ก็ไม่เป็นไรหรอก ของขวัญแม้ด้อยค่าแต่มากด้วยน้ำใจ ถึงแม้ว่ามันจะเป็นขยะที่อยู่ในกองขยะ แต่นายเองก็หยิบมานับว่าตั้งใจแล้ว ตอนนี้หยิบออกมาให้ทุกคนดูเถอะ”

ฮ่าๆ ในเวลานี้ถ้าไม่กดขี่ไอ้โง่ลู่เสี้ยงหยางคนนี้เอาไว้ แล้วจะรอถึงเมื่อไหร่ล่ะ?

ช่วงเวลานี้ หลายๆคนมองไปที่ลู่เสี้ยงหยาง ใบหน้าเต็มไปด้วยการแสดงออกถึงการขบคิดใคร่ครวญ

พวกเขาอยากเห็นว่า เจ้าเศษสวะที่เกาะผู้หญิงกินจะหยิบของขวัญอะไรออกมา

จูหยู่เจินไม่มีความเชื่อมั่นในเรื่องนี้เลยและรอไม่ไหวที่จะกินยาล้างกระดูก

ยาล้างกระดูกนี้ล่อลวงใจเธอมากเกินไปแล้วจริงๆ

แต่เมื่อยาล้างกระดูกเพิ่งจะมาถึงริมฝีปาก ทันใดนั้นลู่เสี้ยงหยางก็พูดว่า : “อาจารย์รอก่อนครับ ยางล้างกระดูกนี้มีปัญหา คุณทานไม่ได้นะครับ”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนุ่มเศรษฐีลึกลับ