หนุ่มเศรษฐีลึกลับ นิยาย บท 390

บทที่ 390 คางคกขึ้นวอ

ต่อจากนั้น ทุกคนในตระกูลเย่กับถังจวิ้นและพวกคนอื่นๆก็กลัวจนไม่กล้าหายใจออกมาและร่างกายก็สั่นสะท้านอย่างควบคุมไม่ได้

พวกเขาไม่เคยคาดคิดมาก่อนเลยว่า เย่หยุนเทาจะกล้าหาญมากขนาดนี้ กล้าที่จะยึดครองห้องส่วนตัวเย็นวี่เจียงหนาน

ถ้าหากเจ้าของร้านอาหารรอยเอิลเบอร์หนึ่งโกรธขึ้นมาแล้วต้องการระบายความโกรธใส่พวกเขา ถ้าอย่างนั้นพวกเขาก็กลายเป็นพวกหน้าโง่ไปแล้วจริงๆ

และที่นอนอยู่บนพื้น คือเย่หยุนเทาที่ถูกตีปางตายและมีความรู้สึกอยากตายขึ้นมาแล้ว ถ้าหากรู้ว่าสิ่งต่างจะถูกเปิดเผยอย่างรวดเร็วขนาดนี้ เขาก็จะไม่เสแร้งเลย และเขาจะจัดงานในพื้นที่ธรรมดาอย่างสงบเสงี่ยมและเจียมตัว

แต่ขณะที่คิดอยู่ในใจ ปากของเขาก็กรีดร้องขอความเมตตาไม่หยุด

โจวข่ายพยายามยุติเรื่องนี้โดยเร็วที่สุดเพราะท้ายที่สุดแล้วเจ้านายของพวกเขายังรอใช้ห้องส่วนตัวนี้

เขายื่นมือออกไปและโบกในทันทีทันใดพร้อมกับพูดว่า : “เอาล่ะ พวกนายถอยออกมาก่อน”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ชายร่างใหญ่หลายคนที่กำลังรุมเตะเย่หยุนเทาก็ถอยออกมาทีละคน

เย่หยุนเทาที่ได้รับการปลดปล่อยรีบพูดประจบประแจงเหมือนหมาพันธุ์ปั๊กกับโจวข่ายว่า : “ขอบคุณประธานโจว ขอบคุณประธานโจว จากนี้ผมไม่กล้าอีกแล้ว ขอบคุณที่วันนี้คุณอดทนและเข้าใจ ให้อภัยหมาอย่างผม…”

“โอเค หยุดพูดไร้สาระได้แล้ว” ยังพูดประโยคไม่จบประโยค โจวข่ายก็ขัดจังหวะเขา จากนั้นเขาก็กวาดตามองคนที่อยู่ในห้องและพูดอย่างไร้ซึ่งความอดทนเป็นอย่างยิ่งว่า "ให้เวลาพวกคุณหนึ่งนาที จะต้องออกไป ไม่อย่างนั้นแล้ว พวกคุณเองก็รู้ผลที่ตามมา”

ทันทีที่พูดคำนี้ออกมา คนทั้งหลายในตระกูลเย่และพวกเขาถังจวิ้นก็พยักหน้าซ้ำๆ พยักหน้าพร้อมกับโค้งคำนับและพูดว่า : “ครับๆๆ ประธานโจว พวกเราจะรีบออกไปแล้วครับ”

ในใจรู้สึกโชคดีอย่างยิ่ง โชคดีที่โจวข่ายไม่มาทะเลาะกับคนที่ด้อยกว่าเช่นพวกเขา ไม่อย่างนั้นแล้ว คนเหล่านี้ของตระกูลเย่คงจะได้รับบทเรียนน่าดูชมเลยล่ะ

ท่าย่าตัวสั่นไปทั้งตัว ขณะที่เดินนำไปข้างหน้าและออกไปด้านนอกของห้องส่วนตัวอย่างเร่งรีบ

เย่เชี่ยนและเย่ซวงรีบเข้าไปช่วยเหลือเย่หยุนเทา

โอหยางรั่วสุ่ยมีใบหน้าบึ้งตึงอย่างมาก ไม่มีใครในตระกูลเย่ที่เชื่อถือได้เลยสักคน เดิมทีวันนี้จะต้องเป็นงานเลี้ยงต้อนรับตนเอง แต่กลับกลายเป็นสถานการณ์แบบนี้เสียได้

ในใจที่เพิ่งจะเกิดร่องรอยความอยากรู้อยากเห็นต่อเย่หยุนเทาก็อันตรธานหายไปแล้ว ดูเหมือนว่าเย่หยุนเทาก็ยังคงเป็นขยะเหมือนเช่นเคย นอกจากชอบเสแสร้งแล้วก็ไม่มีความสามารถอะไร

สำหรับลู่เสี้ยงหยาง ไร้ประโยชน์ยิ่งกว่า ไม่ต้องพูดถึงการเป็นแมงดาแล้วก็ยังชอบพูดโม้อีกด้วย

เย่สวนเองก็รู้สึกกระอักกระอ่วนใจเช่นกัน เธอยื่นมาดึงแขนเสื้อลู่เสี้ยงหยางแล้วกระซิบว่า “พวกเรารีบไปกันเถอะ”

แต่ลู่เสี้ยงหยางยังคงยืนนิ่งไม่รู้สึกรู้สาอยู่ที่เดิม เขายิ้มกริ่มให้เย่สวนแล้วพูดว่า : “ไป ไปไหนล่ะ? ยังไม่ได้กินข้าวเลยนะ”

….นี่มันเวลาไหนแล้ว? ยังคิดจะกินข้าวอยู่อีก?

เย่สวนกังวลมากจนไม่ไหวแล้ว เธอรีบพูดว่า “หยุดสร้างปัญหาได้แล้ว พวกเราไม่ได้จองห้องส่วนตัวนี้ จะกินอะไรล่ะ?”

ลู่เสี้ยงหยางส่ายหัวและพูดด้วยใบหน้าที่จริงจังว่า : “ใครบอกว่าห้องส่วนตัวนี้ไม่ใช่ของพวกเรา? ห้องนี้ผมจองเอาไว้แล้ว”

อะไรนะ? เขาจองห้องส่วนตัวนี้?!

คนของตระกูลเย่ทั้งหมด กับถังจวิ้นและพวกคนอื่นๆที่กำลังเดินออกไปข้างนอกห้องร่างกายก็สั่นสะท้านอย่างรุนแรงราวกับโดนฟ้าและเกือบจะล้มลงไปบนพื้น ในใจหวาดกลัวอย่างหาที่เปรียบมิได้

จนถึงตอนนี้ เจ้าหมอนี่ก็ยังจะตอแหล คนอย่างเย่หยุนเทายังจัดการเรื่องต่างๆไม่ได้ แล้วลูกคนเขยแต่งเข้าบ้านคนนี้มีความสามารถอะไรที่จะจัดการได้? ถ้าหากทำให้โจวข่ายโกรธ วันนี้พวกเขาทุกคนอย่าได้คิดออกไปจากที่นี่เลย

เย่หยุนเทาที่หวาดผวาจนเหมือนตายมากกว่าอยู่ได้กระโดดลุกขึ้นมาแล้วชี้หน้าด่าลู่เสี้ยงหยางว่า : “ลู่เสี้ยงหยาง ไอ้เย็ดแมร่งเอ๊ย แกไม่มองดูฐานะของตัวเองบ้างเลย คิดว่าตัวเองเป็นใครกัน ถึงได้กล้าพูดพล่ามออกมา กูนี่แหละจะฆ่าแกเอง แกเชื่อหรือเปล่า? แม่งเอ๊ย พูดอะไรโง่ๆ”

“ถูกต้อง เจ้าหมอนี่มันไม่รู้จักคิดเอาเสียเลย เป็นคนหน้าโง่อย่างสิ้นเชิง”

“แม่งเอ๊ย ยังจะกล้าพูดพล่ามอยู่อีก ต่อจากนี้ไสหัวออกไปจากตระกูลเย่ของพวกเราเลยนะ”

“คุณ ประธานโจว คุณอย่าใส่ใจคำพูดของเจ้าหมอนี่อย่างเด็ดขาดเลยนะ เจ้าหมอนี่ก็เป็นแค่ลูกเขยที่ไร้ประโยชน์ เขาไม่รู้เรื่องอะไรเลย แน่นอนว่าถ้าหากคุณต้องการสั่งสอนเขา พวกเราก็จะยกมือเห็นด้วยทั้งสองข้างเลย”

“นี่…นี่…นี่มันเรื่องอะไรกัน?” ท่านย่าที่มีสีหน้าเลวร้ายราวกับกินขี้สุนัข ยื่นมือออกมาปิดตรงหัวใจ รู้สึกว่าหัวใจควบคุมไม่ได้จนจวนเจียนระเบิดแล้ว

“เชี่ยไรเนี่ย ไอ้หน้าโง่นี่ เป็นไปได้ยังไง?” เย่หยุนเทาตกใจจนขาทั้งสองข้างอ่อนแล้วคุกเข่าลงไป และมีเหงื่อออกท่วมทั้งตัวอย่างหนัก

“เอ๋?” เย่ซวงและเย่เชี่ยนตกใจจนอ้าปกาค้าง ร่างบอบบางสั่นสะท้านจนถึงขีดสุด จนแทบจะฉี่รดกางเกง

“แม่มึง สถานการณ์อะไรเนี่ย?” โอหยางรั่วสุ่ยและเย่สวนต่างมองหน้ากันและกันรู้สึกว่าภายในสมองนั้นว่างเปล่า

ลู่เสี้ยงหยางเพิ่งจะบอกว่าเขาจองห้องส่วนตัวนี้ไว้แล้ว ก็คิดเพียงแต่ว่าลู่เสี้ยงหยางคุยโม้โอ้อวดเท่านั้น แต่คาดไม่ถึงเลยว่าจะเป็นเรื่องจริง

กลุ่มคนร่างกำยำและพวกของถังจวิ้นที่อยู่รอบๆเหล่านี้ยิ่งขยี้ตาไม่หยุด นี่เป็นฉากที่น่าตกใจที่สุดที่เคยเห็นมาในช่วงชีวิตของพวกเขา หัวหน้าของพวกเขาก็เป็นผู้มีอิทธิพลในเมืองปินเหอเช่นกัน แต่กลับสุภาพกับลูกเขยที่แต่งเข้าบ้านเช่นนี้

ในเวลานี้ ลู่เสี้ยงหยางยิ้มด้วยความพึงพอใจอย่างมากกับทักษะการแสดงของโจวข่ายแล้วเอ่ยว่า : “แทบจะรอไม่ไหวแล้ว พวกคุณรีบเสริฟอาหารเถอะ”

“ได้เลยครับ คุณลู่ ผมจะไปจัดให้ทันทีเลย” โจวข่ายพยักหน้า เมื่อกวักมือแล้วรีบร้อนพาลูกน้องออกจากห้องส่วนตัวไป

และในเวลานี้เช่นกัน ทุกคนในตระกูลเย่และพวกของถังจวิ้นถึงได้มีสติกลับคืนมา และเต็มไปด้วยความหวาดกลัวเมื่อมองดูลู่เสี้ยงหยาง

ลู่เสี้ยงอย่างไม่ได้สนใจพวกเขาเหล่านี้แล้วพูดกับเย่สวนและโอหยางรั่วสุ่ยว่า : “นั่งลงเถอะ เดี๋ยวพวกเราจะได้กินข้าวกันแล้ว”

หญิงสาวทั้งสองคนพยักหน้าเหมือนเครื่องจักรแล้วถึงได้นั่งลง

ท่านย่ากับถังจวิ้นและพวกเขาเหล่านี้ยังไม่ได้จากไป โดยยังคงยืนอยู่ที่ประตูห้องส่วนตัว

ลู่เสี้ยงหยางโบกมือไปที่พวกเขาโดยตรงแล้วพูดว่า : “ไปได้แล้วครับ เดี๋ยวเรากินอะไรดีๆแล้วจะใช้มือถือถ่ายรูปให้พวกคุณนะครับ ให้พวกคุณโพสต์ลงMoments จะได้เสแสร้งได้ด้วย”

“…” ทุกคนล้วนแต่ เย็ดแม่ง! แล้วอยากจะบีบคอลู่เสี้ยงหยางให้ตายจนแทบทนไม่ไหว ไอ้คางคกขึ้นวอ มันเริ่มได้ใจอีกแล้ว

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนุ่มเศรษฐีลึกลับ