บทที่ 461 เอาของผู้อื่นมาเป็นของตน
ก่อนหน้านี้ คนหัวโล้นหน้าเหลืองเหมือนทองคนนี้ บนใบหน้าราวกับชุบด้วยทองชั้นหนึ่ง
แต่ว่าในขณะนี้ สีทองชั้นนี้ค่อยๆ หายไป ไม่นานจากนั้น ก็กลับคืนสู่ใบหน้าของคนปกติ
จากนั้น ตามมาด้วยเสียงปริแตกจากในร่างของเขา ร่างกายถึงกับค่อยๆ ยืดสูงขึ้น เดิมทีมีแค่หนึ่งเมตรแปดกว่าๆ แต่ไม่นานก็เกือบจะถึงสองเมตรแล้ว
แม้แต่กล้ามเนื้อบนร่างก็หนาขึ้นรอบหนึ่ง ฉากนี้มองดูแล้วสั่นสะเทือนจิตใจผู้คน เหมือนกับหอคอยที่ตั้งตรง
ลู่เสี้ยงหยางในใจตื่นเต้นอย่างที่สุด เขารู้ว่า ยันต์ของเขาเกิดผลแล้ว กำลังทำให้หุ่นเชิดแห่งเทพสงครามตัวนี้คืนชีพ
ใช้เวลาแค่สิบนาทีอย่างที่คิดไว้ ชายหัวโล้นร่างใหญ่เดิมทีดวงตาว่างเปล่าพลันเปลี่ยนเป็นเต็มไปด้วยสีสัน หมุนศีรษะอย่างทื่อๆ หลังจากมองไปที่ลู่เสี้ยงหยาง เอ่ยกล่าวอย่างเคารพ "ทำความเคารพเจ้านาย"
"ฮ่าๆ สำเร็จแล้ว" ลู่เสี้ยงหยางตื่นเต้นจนแทบจะหัวเราะออกมา เพราะหุ่นเชิดแห่งเทพสงครามตัวนี้โครงสร้างร่างกายพิเศษ ฟันแทงไม่เข้า รวมกับพลังที่ยิ่งใหญ่แล้ว กำลังของเขาสามารถเทียบได้กับนักบู๊ระดับแปด ครั้งนี้พาเขาไปที่ตระกูลหานแห่งไห่ตง โอกาสชนะก็ไม่น้อย
หลังจากสำรวจดูหุ่นเชิดแห่งเทพสงครามตัวนี้หลายรอบ ลู่เสี้ยงหยางก็ออกคำสั่งกับชายหัวโล้นร่างใหญ่ "เถ่ซาน นายไปข้างนอก หาสถานที่มิดชิดหลบซ่อนตัว"
เถ่ซานนี้เป็นชื่อของหุ่นเชิดแห่งเทพสงครามตัวนี้ เมื่อครู่ที่ลู่เสี้ยงหยางซ่อมแซมวิธีการควบคุมการต่อสู้ ก็รู้แล้ว
"รับทราบ เจ้านาย" เถ่ซานตอบกลับทื่อๆ ก้าวยาวๆ ออกไปจากบ้านพัก หลังจากเข้าไปในพุ่มดอกไม้ที่มิดชิดแล้ว ก็ไม่ขยับอีก
……
เช่นนี้ เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว พริบตาเดียวก็เป็นเช้าของวันต่อมา หลังจากที่ลู่เสี้ยงหยางและเย่สวนแยกย้ายกัน ก็พาเถ่ซานไปจากบ้านพักหลงซาน
ลู่เสี้ยงหยางเตรียมที่จะไปตระกูลหานแห่งไห่ตง
ไห่ตงและปินเหอระยะทางไม่นับว่าไกล นั่งรถบัสค่อนข้างสะดวก ดังนั้นลู่เสี้ยงหยางจึงไปที่สถานีขนส่ง
แน่นอนว่า ลู่เสี้ยงหยางสามารถเลือกที่จะขับรถยนต์ด้วยตัวเองได้ แต่เพราะว่าเถ่ซานค่อนข้างสูงใหญ่ จึงไม่สามารถยัดเข้าไปในรถคันเล็กๆได้ ดังนั้นลู่เสี้ยงหยางจึงทำได้เพียงยอมแพ้
ยี่สิบนาทีต่อมา ถึงสถานีขนส่งซื้อตั๋ว ตามหมายเลขบนตั๋ว ลู่เสี้ยงหยางเจอที่นั่งของตัวเองแล้วนั่งลงไป
ไม่นาน ก็มีสองสาวงามขึ้นมาบนรถ
หนึ่งในนั้นเป็นสาวงามร่างสูง ผมยาวสยายคลุมไหล่ ใบหน้าก็ไม่ต้องพูดเยอะ เป็นรูปโฉมที่งดงามร่ำลือกันทั่วทั้งเมือง เรือนร่างชดช้อยห่อหุ้มด้วยชุดสีขาวมีกระแสความเย็นชาทะลุออกมาสายหนึ่ง ราวกับว่าสามารถผลักดันผู้คนให้ไกลออกไปหลายพันลี้
สาวงามอีกคนหนึ่งมีรูปโฉมที่งดงานเช่นเดียวกัน มัดผมหางม้าที่ดูอ่อนวัยมีชีวิตชีวา ทั้งตัวสวมใส่ชุดออกกำลังกายพร้อมทั้งรองเท้าผ้าใบข้อสูงเข้าชุด ทำให้กลิ่นอายมีชีวิตชีวาปะทะออกมา
พร้อมกับตอนที่สองสาวเพิ่งจะขึ้นมาบนรถ สายตาของผู้ชายไม่น้อยต่างก็ตกลงบนร่างของพวกเธอ ใบหน้าระงับความชื่นชมชอบใจเอาไว้ไม่อยู่
ลู่เสี้ยงหยางแม้ในใจจะไม่ได้มีความคิดทางด้านนั้น แต่ก็มองพวกเธอมากขึ้นหลายสายตา
อีกทั้งที่บังเอิญก็คือ ที่นั่งของพวกเธออยู่ที่ด้านข้างของลู่เสี้ยงหยาง
ที่ทำให้ลู่เสี้ยงหยางค่อนข้างแปลกใจก็คือ เพิ่งจะนั่งลง สาวงามที่มัดผมหางม้าคนนั้นก็เริ่มพูดกับตนเอง
มองออกว่าเธอเป็นคนที่เป็นกันเอง ไม่ว่าใครก็สนิทสนมด้วย
ลู่เสี้ยงหยางยิ้ม ตอบกลับง่ายๆ
ส่วนสาวงามผู้เย็นชาอีกคน ตลอดทางไม่แม้แต่จะมองลู่เสี้ยงหยางสักครั้ง เพียงแค่พิงพนักพิงหลังหลับตาพักผ่อน แต่ใบหน้าที่งดงามกลับมีความกลัดกลุ้มเอ่อล้นออกมา
"......" คำพูดนี้พูดออกมา ลู่เสี้ยงหยางหน้าดำคล้ำทันที หานเชียนเชียนงี่เง่าสับสนคนนี้ กำลังบอกว่าตนเองเป็นคนเลวหรือ?
เฉินซวงซวงเองก็ชะงัก ฟังคำพูดของเพื่อนสนิท ก็เพิ่งจะนึกถึงการตัดสินใจเมื่อครู่ของตนเอง ใจร้อนไปหน่อยจริงๆ จึงเก็บโทรศัพท์ไปเงียบๆ ไม่เพิ่มช่องทางการติดต่อของลู่เสี้ยงหยางอีก
สิบนาทีต่อมา
รถบัสคันใหญ่จอดที่ด้านข้างชานชาลา มีชายอันธพาล ย้อมผมแดง เจาะหูคนหนึ่งขึ้นมาจากด้านล่าง
ชายคนนี้เพิ่งจะขึ้นมาบนรถ สีหน้าของคนขับก็เปลี่ยนเป็นค่อนข้างหวาดกลัว รีบยื่นบุหรี่มวนหนึ่งไปให้ ยิ้มแหยเอ่ยว่า "เฮียเปียว ช่วงนี้ไปรวยมาจากไหน? ไม่เจอกันนานเลย"
ชายที่ถูกเรียกว่าเฮียเปียว มือเดียวตบบุหรี่ที่คนขับรถยื่นมาให้ลอยไป พูดขึ้น "พูดไร้สาระอะไร รีบขับรถ"
"ได้ๆ เฮียเปียว" คนขับรถแม้ในใจจะไปพอใจ แต่ก็ไม่กล้าที่จะแสดงออกมา รีบร้อนออกรถ
คนบนรถไม่น้อยต่างก็รู้จักชื่อของเฮียเปียวคนนี้ พากันตกใจจนกลายเป็นก้อนกลม
เฮียเปียวสายตากวาดมองบนรถ ไม่นานก็ตกลงบนร่างของเฉินซวงซวงและหานเชียนเชียน
ทันใดนั้น ดวงตาของเขาก็สว่างวาบขึ้น ลำคอขยับขึ้นลง กลืนน้ำลายไปอึกหนึ่ง ใต้ท้องน้อยก็มีไฟที่ไม่อาจควบคุมได้ลุกไหม้ขึ้นมา
คนที่มั่วสุมอยู่ในสังคมไปวันๆ จนชินแล้วแบบเขา ทำเรื่องอะไรไม่คิดถึงผลที่ตามมา ทำตามอำเภอใจ กำเริบเสิบสาน
ตอนนี้ความคิดของเขาเรียบง่ายมาก อยากจะเอาสาวงามชั้นหนึ่งสองคนนี้มาเป็นของตัวเอง ลิ้มลองสักรอบ ฮ่าๆ
คิดไปก็เดินเข้าไปหา มาถึงข้างกายของลู่เสี้ยงหยาง มองจากด้านบนลงไปหาลู่เสี้ยงหยาง พูดอย่างเยียบเย็นว่า "เด็กน้อย ไสหัวไปอีกด้าน ที่นั่งนี้ฉันต้องการแล้ว"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนุ่มเศรษฐีลึกลับ