หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์ นิยาย บท 1220

“ข้าเห็นเขาแล้วขนลุกไปหมด เจ้าอย่าไปทำให้เขาโกรธเชียว ดูท่าไม่น่าจะใช่คนดี…” ผู้หญิงลังเล ใจคอไม่ค่อยสบาย นางรู้สึกว่าสายตาที่ผู้ชายคนนั้นมองเด็ก เหมือนมองคนตาย เย็นชาและไร้ความรู้สึก

“ผู้หญิงจะไปรู้อะไร ผมยาวแต่ความรู้สั้น เราสองคนจะนับว่าเป็นอะไรล่ะ?”

ทั้งสองทะเลาะกันสองสามประโยค แล้วก็ไม่รู้ว่าเดินมาได้นานเท่าไหร่ ดูเหมือนว่ารถเกวียนวัวจะเช่ามา พอถึงกลางทางก็คืนไป

เขาอุ้มซ่านซ่านเดินฝ่าความมืดไปอีกนาน จนในที่สุดก็เห็นหมู่บ้าน

ท้องฟ้าใกล้จะสว่างแล้ว ทั้งสองคนกลับบ้านทางด้านหลังเขา โดยไม่ทำให้ใครตื่นตัว

พอเข้าบ้านก็โยนซ่านซ่านลงบนพื้น

“ข้าจะตายเพราะความกระหายอยู่แล้ว…” ชายคนนั้นหยิบกระบวยที่ข้างฝาขึ้นมาดื่มอึกใหญ่ไปสองอึก

“ไอ้หนู นับว่าเจ้ายังรู้จักว่าง่าย ไม่งั้นลิ้นเจ้าคงไม่เหลือแล้วล่ะ” ชายคนนั้นใช้แขนเสื้อเช็ดปากอย่างไม่ใส่ใจ แล้วพยักเพยิดไปทางผู้หญิง

“เอาไปขังไว้ในห้องใต้ดิน”

“เจ้าเด็กนี่ ตราบใดที่ไม่พูด คิดว่าคงขายได้สักแปดสิบตำลึง” ถ้าไม่พูด ก็ดูไม่ออกว่าโง่

ซ่านซ่านไม่ร้องไห้ ไม่โวยวาย แต่ขมวดคิ้วแล้วพูดว่า “ข้า ราคาห้าร้อย!” เขาชี้ไปที่ตัวเอง

ชายคนนั้นชะงักไปครู่หนึ่ง ก่อนที่จะหัวเราะลั่นกับผู้หญิง

“เขายังกล้าขึ้นราคาตัวเองอีกด้วย…” ทั้งสองคนรู้สึกว่ามันน่าสนใจมาก

“ช่างเถอะ เจ้าเด็กนี่มันปัญญาอ่อน ไม่ต้องขังเขาแล้ว รีบทำกับข้าวสักสองอย่าง อยากให้อดตายหรือไง?! รีบไปเลย!!” ชายคนนั้นจ้องมองผู้หญิงอย่างดุร้าย ผู้หญิงก็รีบหันหลังเข้าครัว แล้วจุดไฟเตา

ซ่านซ่านไม่ได้หนี แต่ยังพิงกำแพงมองไปรอบ ๆ โดยไม่แสดงความกลัวเลยสักนิด

ไม่นาน ผู้หญิงก็ยกชามเนื้อและผักออกมาสองชาม

ชายคนนั้นดื่มเหล้าเล็กน้อย กินเนื้อและฮัมเพลงในปาก

“เจ้าพูดถูก เด็กคนนี้ค่อนข้างกล้าหาญ ถ้าอีกฝ่ายไม่ให้ราคาสูง เราก็เก็บไว้เอง…” ชายคนนั้นดื่มไปสองแก้วแล้วก็เริ่มมึนเมา เดินโซเซไปที่ห้องโดยมีกลิ่นเหล้าคลุ้งไปทั่วตัว……

ในขณะที่เรอ เขาก็พูดว่า “ให้อาหาร เอือก... เจ้าเด็กนั่นสักหน่อย อย่า อย่าให้อดตาย…”

“ขาย ขายแพง...”

ไม่นาน ก็มีเสียงกรนดังสนั่นหวั่นไหวในห้อง

ผู้หญิงคนนั้นสบถขณะที่นางกำลังตักน้ำ แล้วหยิบหมั่นโถวเก่า ๆ ออกมาจากตู้แล้วเดินเข้าไปในห้องเก็บฟืน

ไม่รู้ว่าซ่านซ่านไปหมอบอยู่ห้องเก็บฟืนตั้งแต่เมื่อไหร่ ผู้หญิงคนนั้นก็ไม่ได้สนใจอะไร

ใครจะไประวังเด็กที่อายุประมาณหนึ่งขวบ และยังโง่เขลาเช่นนี้กันล่ะ?

ผู้หญิงคนนั้นย้ายกองฟืนออกไป พบว่าข้างกำแพงมีประตูลับอยู่ เมื่อเปิดประตูออก เผยให้เห็นประตูเหล็กที่มีลูกกรงขนาดเท่ากับนิ้วมืออยู่ด้านใน

ที่แท้ก็มีประตูสองชั้น

ผู้หญิงคนนั้นง่วงจนหาวออกมา แต่ก็กลัวว่าซ่านซ่านจะหนีไป นางจึงผลักเขาลงไปในหลุมใต้ดิน

แล้วปิดประตูสองบานอย่างแน่นหนา หลังจากนั้น ซ่านซ่านก็ไม่ได้ยินเสียงอะไรจากโลกภายนอกอีก

ในจมูกมีกลิ่นเหม็นตุ ๆ ซ่านซ่านไม่ค่อยคุ้นชินนัก

เขาเอามือปิดจมูก ภายในหลุมใต้ดินมืดสนิท ไม่มีแสงสว่างเลย หลังจากผู้หญิงคนนั้นไปแล้ว เสียงสะอื้นที่ถูกกักเก็บก็ดังมาจากภายในหลุมใต้ดิน…

“ท่านพ่อท่านแม่ ข้าอยากกลับบ้าน... ฮือ ๆ ๆ...”

“ข้าไม่อยากอยู่ที่นี่ ข้าอยากกลับบ้าน ข้าอยากกลับบ้าน...”

“ข้าหิวเหลือเกิน…”

“เจ็บจังเลย เจ็บไปทั้งตัว... ใครก็ได้ช่วยข้าที ฮือๆๆๆ…” เสียงร้องไห้ปนความกลัวดังขึ้นเป็นระลอก ให้พลังแก่ซ่านซ่านไม่ขาดสาย

ดูเหมือนว่าจะมีเด็กผู้ชายคนหนึ่งพูดด้วยน้ำเสียงสุขุมว่า “หยุดร้องไห้เร็วเข้า เก็บแรงไว้ก่อน เมื่อครู่นี้ใครได้รับบาดเจ็บหรือไม่? กระดูกหักไหม?”

แววตาของซ่านซ่าน ไม่ถูกจำกัดด้วยความมืดเลยแม้แต่น้อย

ในห้องใต้ดินมีเด็กประมาณหกหรือเจ็ดคน ทุกคนล้วนตัวใหญ่กว่าเขา

มีเด็กชายอายุแปดหรือเก้าขวบ กำลังคลำหาเด็กที่บาดเจ็บและลากเขาไปที่มุมเพื่อไม่ให้ใครเหยียบ

“เมื่อครู่ผู้หญิงใจร้ายคนนั้นเหมือนจะส่งน้องชายอีกคนมา... น้องชาย เจ้าอยู่ไหนหรือ? เจ้าไม่ต้องกลัวนะ…” เด็กชายคลำหาไปรอบๆ บนพื้นอย่างระมัดระวัง กลัวว่าจะไปเหยียบซ่านซ่านเข้า

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์