“ได้ยินว่านับตั้งแต่เจ้าสืบทอดบัลลังก์ ก็โหดเหี้ยมทารุณ?” ลู่เจาเจาถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น
ราชาหนุ่มขมวดคิ้วแน่น ใบหน้าเผยความน้อยใจ “มิใช่ ล้วนเป็นเพียงข่าวลือผิดๆ จากโลกภายนอก เราเป็นผู้มีจิตใจกว้างขวางที่สุด หากเจ้าไม่เชื่อก็ถามขุนนางดูเถิด?”
ตงหลิงอ๋องกวาดตามองขุนนาง
เหล่าขุนนางบุ่นและบู๊ต่างสั่นสะท้านกันทั้งกาย พยักหน้ารับรัวๆ
“ถูกต้อง ฝ่าบาทจิตใจมีเมตตายิ่งนัก เพื่อให้เหล่าขุนนางสบายใจ ไม่เคยพรากพวกเราจากครอบครัวเลย ไม่เคยทำให้พวกเรารู้สึกเหงาแม้แต่น้อย” เมื่อเหล่าขุนนางเข้ามาอยู่ในเส้นทางนี้ ล้วนเดินทางไปพร้อมกับเก้าชั่วโคตรของตระกูลตน โดยไม่ขาดตกบกพร่อง
ไม่ขาดผู้ใดไปแม้แต่คนเดียว
ฝ่าบาท คิดเผื่อพวกเราไว้มากจริงๆ
“ไม่อยากเชื่อเลยว่าเจ้าจะเป็นฮ่องเต้ที่ดี…”
“ข่าวลือช่างทำร้ายคนเสียจริง ” ลู่เจาเจาตบไหล่เซวียนจี้ชวน ใบหน้าเล็กๆ เต็มไปด้วยความรู้สึกประทับใจ
เซวียนจี้ชวนยิ้มอย่างมีเลศนัย รับคำชมของนาง ไม่รู้สึกร้อนตัวเลยแม้แต่นิด
เหล่าขุนนางบุ่นและบู๊ยิ้มออกมาอย่างไร้คำพูด เพียงหนึ่งก้านธูปก่อนหน้านี้ เขาเพิ่งตัดศีรษะของเสด็จอาหนุ่มด้วยด้วยมือตัวเอง นี่คือสายเลือดสุดท้ายของตระกูลเซวียนที่ยังเหลืออยู่บนโลก...
กล่าวอย่างไม่น่าฟังเสียหน่อย หากเซวียนจี้ชวนตายไปโดยไม่ทิ้งบุตรหรือธิดาไว้สักคน ตระกูลเซวียนก็จะขาดผู้สืบสกุล
แต่ว่า เขาเป็นคนเสียสติ มีหรือไม่มีผู้สืบสกุลก็มิได้สำคัญสำหรับเขา
เซวียนจี้ชวนอุ้มเจาเจาเข้าตำหนัก วางลงบนบัลลังก์มังกร
ลู่เจาเจามองซ้ายมองขวา ไม่กี่อึดใจ ห้องเครื่องก็นำน้ำชาและอาหารว่างนานาชนิดเข้ามา ล้วนเป็นของที่เด็กๆ ชอบ เซวียนจี้ชวนถึงขั้นยิ้มน้อยๆ ป้อนนางด้วยตนเอง
แม่ทัพมั่วหลบตัวในมุม พยายามซ่อนตัวให้มิดชิดที่สุด
ตงหลิงอ๋องมองเขาอย่างเย็นชา แววตามีความโหดเหี้ยมซัดกระหน่ำ เขากล้าวางอุบายต่อเจาเจา!!
เกือบทำให้ตนเผยตัวตนที่แท้จริงต่อหน้าเจาเจา!
สมควรตายจริงๆ !
เขาไม่ต้องการให้เจาเจารู้ว่าเขาโหดเหี้ยมอำมหิต เขาไม่ต้องการให้เจาเจาคิดว่า ในปีนั้นนางได้ช่วยชีวิตปีศาจที่มือเปื้อนเลือดไว้ เขาอาจเผชิญหน้ากับผู้คนใต้หล้าอย่างไร้ความหวั่นเกรง กลัวเพียงสายตาผิดหวังของลู่เจาเจาเท่านั้น
“แม่ทัพมั่ว... เจ้าจากบ้านมาตั้งแต่เด็ก บิดามารดาแก่ชราของเจ้าเสียชีวิตด้วยโรคภัยไข้เจ็บในบ้านเกิด ในใจจะต้องรู้สึกละอายมากเลยใช่หรือไม่?"
แม่ทัพมั่วคุกเข่าเบื้องหน้าตำหนัก หอบหายใจหนักอึ้ง เหงื่อเย็นไหลลงจากหน้าผาก
“ตอนนี้ เราอนุญาตให้เจ้าเกษียณแล้วกลับสู่บ้านเกิด เคียงข้างหลุมศพของบิดามารดาทั้งสอง”
“ถือเสียว่าเป็นการตอบแทนความกตัญญูของเจ้า”
“นางสนมในจวนของเจ้าคงไม่อาจห่างเจ้า เช่นนั้นก็ไปด้วยกันเถิด” เขามองแม่ทัพมั่วด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน แม่ทัพมั่วเป็นดั่งดาบแหลมของอัครมหาเสนาบดีเจิ้ง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์
ทำไมตัดเหรียญไปแล้วแต่ตอนไม่ปลดล็อคคะ ขึ้น error แต่หักเหรียญติดแจ้งปัญหาก็ไม่ได้...
ทำไมช่วงนี้ error บ่อยจังเลยคะ...
เติมเหรียญแล้วทำไมถึงปลดล็อคไม่ได้คะ...
ทำไมปลดล็อคไม่ได้คะ...
บท 613 ไม่ลงแล้วหรือค่ะ...
ไม่ลงต่อแล้วเหรอคะ...
อ่านบทที่ 613 กันที่ไหนคะ...
รอค่ะ แต่ช้าจัง สนุก รอค่ะ...
รอตอนต่อไปค่าา...
สนุกมากค่ะ รอตอนต่อไปอยู่ค่ะ...