หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์ นิยาย บท 13

[แย่งวันรับขวัญเดือนจากนางเอกมาได้ ดีใจ ดีใจ] เสี่ยวเจาเจาโบกกำปั้นน้อยๆ พลางส่งเสียงร้องอ้อแอ้

สวี่ซื่อเหลือบมองนางด้วยรอยยิ้ม นังหนูนี่อาจจะเล็กเกินไป เสียงในใจของนางจึงได้ยินบ้าง ไม่ได้ยินบ้าง

สวี่ซื่อเองก็ไม่ได้คาดหวังมากนัก อนาคตยังอีกยาวไกล แค่สามารถรับรู้อนาคตได้บ้าง ก็เป็นประโยชน์มากเหลือล้นแล้ว

ทว่า คมดาบที่จ่อคออยู่ตลอดเวลา ทำให้นางรู้สึกไม่ปลอดภัย

“วันนี้คนเยอะมาก คอยดูเจาเจาให้ดีล่ะ” สวี่ซื่อกำชับ

นับตั้งแต่วันที่เจาเจาเกิดก็มีคนทำร้ายนางแล้ว สวี่ซื่อจึงให้อิ้งเสวี่ยและเจวี๋ยซย่าคอยอยู่ข้างๆ ตลอดเวลาไม่ให้ห่างแม้แต่ก้าวเดียว

“เจ้าค่ะ ฮูหยิน”

“ฮูหยิน นายหญิงใหญ่ส่งคนมาเชิญฮูหยินออกไปที่ลานหน้าจวนเจ้าค่ะ แขกเหรื่อเริ่มทยอยมากันแล้ว” เติงจือรายงานที่หน้าประตู

ว่าไปแล้ว แม้จวนจงหย่งโหวจะเป็นบรรดาศักดิ์ที่สืบทอดต่อมา แต่นั่นก็เพราะคุณูปการจากท่านโหวรุ่นก่อนที่ติดตามฮ่องเต้ผู้ก่อตั้งราชวงศ์

ตระกูลลู่เดิมเป็นแค่ครอบครัวชาวนา แม้จะย้ายเข้าเมืองหลวงและได้รับแต่งตั้งเป็นขุนนาง แต่ก็ยังไม่เป็นที่ยอมรับของบรรดาชนชั้นสูงในเมืองหลวง

ตระกูลลู่แต่งสวี่ซื่อเข้าตระกูล นางเป็นคนฉลาดปราดเปรื่องมีความสามารถรอบด้าน มีนางคอยสั่งสอนดูแลลูกหลานตระกูลลู่ ทำให้จวนจงหย่งโหวค่อยๆ เป็นที่รู้จักในสังคม

ในตอนนั้น เพื่อแต่งงานกับสวี่ซื่อแล้ว ลู่หย่วนเจ๋อต้องคุกเข่าอยู่หน้าประตูบ้านตระกูลสวี่ถึงสามวันสามคืน กว่าจะได้ภริยาที่เพียบพร้อมคนนี้สมใจ

“นายหญิงใหญ่นี่ก็จริงๆ เลย คุณหนูเจาเจาครบเดือนแล้ว ยังไม่เคยแวะมาหาเลยสักครั้ง” เจวี๋ยซย่าเบ้ปากรำพึงรำพันด้วยความไม่พอใจ

“เอาล่ะ คำพูดพวกนี้ ออกจากสวนทิงเฟิงไปแล้ว ก็อย่าพูดอีก” สวี่ซื่อเหลือบมองอย่างเข้มงวด

เจวี๋ยซย่าก้มศีรษะรับคำทันที

สวี่ซื่อเดินตรงออกไปยังลานด้านหน้า บัดนี้ มีแขกเหรื่อมาถึงเป็นจำนวนมากแล้ว และหนึ่งในนั้นก็คือองค์หญิงใหญ่

ตลอดหลายปีที่ผ่านมา สวี่ซื่อทุ่มเทพร่ำสอนนางอย่างดีที่สุด

สวี่ซื่อตบมือของลู่หว่านอี้เบาๆ แต่แล้วจู่ๆ ก็ได้ยินนางเอ่ยถามขึ้นว่า “ทำไมพี่ใหญ่ยังไม่มาอีกล่ะ วันนี้เป็นงานเลี้ยงรับขวัญเดือนหลานสาวข้านะ ถ้ามาไม่ทันฤกษ์ ข้าไม่ยกโทษให้เขาแน่” ลู่หว่านอี้บึนปากท่าทีไม่สบอารมณ์

สวี่ซื่อยิ้มและไม่พูดอะไร

นางเพียงต้อนรับแขกเหรื่ออยู่หน้าจวน ก่อนจะทยอยพาเข้าไปในห้องโถงเพื่อทักทายนายหญิงใหญ่

นายหญิงใหญ่มาจากชนบท แม้จะอาศัยอยู่ในเมืองหลวงมานานหลายสิบปี แต่กิริยาท่าทางหรือมารยาท จะเทียบเท่าบรรดาฮูหยินที่ถูกหล่อหลอมมาตั้งแต่อยู่ในครรภ์มารดาได้อย่างไร

“ท่านแม่” สวี่ซื่อหายใจเข้าลึกๆ หลุบสายตาลงเล็กน้อย แล้วทำความเคารพที่หน้าห้องโถง

ยามนี้ นายหญิงใหญ่ภายใต้อาภรณ์สีเข้มนั่งอยู่บนเก้าอี้สูงด้านหน้า

“รีบประคองพี่สะใภ้ของเจ้าสิ สุขภาพของข้านี่ ไม่ไหวเอาเสียเลย ช่วงที่เจ้าอยู่เดือน ข้าก็ไม่กล้าไปเยี่ยม กลัวจะทำให้เจ้าติดโรคไปด้วย”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์