หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์ นิยาย บท 1300

ราษฎรตงหลิงคงทั้งเกรงกลัวและเคารพเขาไม่น้อย!

โรคระบาดครั้งนี้ถูกควบคุมได้อย่างรวดเร็ว

เพราะเซวียนจี้ชวนเป็นฮ่องเต้องค์เดียวของตงหลิง ไม่มีทายาทและไม่มีสายเลือดราชวงศ์คนอื่นๆ

หากมีสิ่งใดเกิดขึ้นกับเขา ตงหลิงจะต้องถึงจุดจบอย่างแน่นอน

เพลานี้หมอหลวงได้เรียนรู้วิชาหลายๆ อย่าง หลังจะทุ่มเทแรงกายแรงใจทั้งคืนวัน พวกเขาก็ค่อยๆ ควบคุมโรคระบาดได้

หลังจากเหตุการณ์นี้จบไป ชื่อเสียงของเซวียนจี้ชวนในหมู่ราษฎรจึงพัฒนาไปในทางที่ดีขึ้น

ลู่เจาเจาจึงแอบถอนหายใจด้วยความโล่งอก “ภัยพิบัติธรรมชาติผ่านไป โรคระบาดก็มาแทน ราษฎรคงยากลำบากมากเหลือเกิน”

ในตอนกลางดึก ลู่เจาเจาจับจ้องเซิ่งเหอและซิงหุยตามปกติ ถั่วสีทองพลันหล่นลงข้างกาย ก่อนเดินกลับห้องพร้อมเช็ดน้ำตา

แม่นางน้อยผล็อยหลับไปทั้งๆ ที่มีน้ำตาเอ่อคลอบนหางตาอย่างนั้น

ในความพร่าเบลอ ดูเหมือนนางจะปรากฏตัวในความว่างเปล่าแห่งหนึ่ง

นางกำลังฝันอีกแล้ว

นางฝันว่าตนเองปั้นหุ่นเชิดดินขึ้นมาอีกหลายตัว หุ่นเชิดดินเหล่านั้นถูกปั้นอย่างประณีตสวยงาม แต่นางรู้สึกเหนื่อยล้ามาแล้ว จึงนำเถาวัลย์ขึ้นมาตวัดสร้างลวดลาย...

หุ่นเชิดดินมากลายล้มลงกับพื้นและกลายร่าง แต่หน้าตาของพวกมันกลับดู...ธรรมดายิ่งนัก

หุ่นเชิดดินที่เพิ่มมากขึ้น เสียงร้องก็ยิ่งดังและไม่สงบสุขเช่นเดินอีกต่อไป

และค้นพบว่าพวกเขาไม่อาจอยู่เหนือความต้องการอย่างเดียวกับนางได้

พวกเขาต้องกิน ป่วยและส่งเสียงดัง ทำให้นางรู้สึกรำคาญเต็มทน

“ต้องมีฝนตกฟ้าร้อง...”

“ต้องมีสี่ฤดูกาล ดวงจันทร์ ดวงอาทิตย์และดวงดาว...”

“ต้องการเติบโตของสรรพชีวิต พวกเขาจึงจะมีชีวิตรอด” นางพึมพำเบาๆ ทันทีที่กล่าวจบ ทุกสิ่งในโลกก็แปรเปลี่ยนไป

ทั้งสายลม หยาดฝน เสียงฟ้าร้องกึกก้องพลันตอบสนอง

กลางคืนแทนที่กลางวัน ฤดูใบไม้ผลิ ฤดูร้อน ฤดูใบไม้ร่วง ฤดูหนาว สี่ฤดูหมุนเวียนเปลี่ยนไป

วุ่นวายเหลือเกิน วุ่นวายจนนางรู้สึกรำคาญ

นางคว้าดินขึ้นมาปั้นอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ราวกับมีพลังศักดิ์สิทธิ์บางอย่างแฝงอยู่ ลู่เจาเจาตั้งใจดูอย่างไม่กะพริบตา

จึงเห็นว่าในมือของนางเปล่งประกายสีทองจางๆ ก่อนที่นางจะก้มลงเป่าเบาๆ หุ่นเชิดดินก็หล่นลงกับพื้นทันที

เมื่อเห็นสีทองประกายเจิดจ้าจึงรู้ว่านั่นคือเทพเจ้า!

วินาทีที่เสด็จลงมาเมฆดำก็ปกคลุมท้องฟ้าและมีเสียงฟ้าร้องดังกึกก้องขึ้นอีกครั้ง

นี่คือเทพเจ้าองค์แรกที่ถือกำเนิดระหว่างฟ้าดิน

“ตั้งแต่นี้ไป เจ้าดูแลพวกเขาก็แล้วกัน” เด็กสาวโบกมืออย่างเกียจคร้าน เทพเจ้าจึงถอยออกไปทันที

นางนอนพักผ่อนริมน้ำ สองเท้าขาวแช่อยู่ในน้ำอย่างเพลิดเพลินใจ

ลู่เจาเจาเงยหน้าขึ้น เห็นเพียงพื้นที่กว้างใหญ่รกร้าง ไม่มีดอกไม้ ไม่มีผีเสื้อบิน ไม่มีเสียงนกร้องหรือจักจั่น

เว้นแต่กลุ่มมนุษย์ที่แออัดเหล่านี้ มีเพียงโลกอันแห้งแล้ง

ลู่เจาเจาเฝ้าดูการเปลี่ยนแปลงทั้งหมดที่อยู่ตรงหน้า พร้อมกับจ้องมองท่าทางปั้นหุ่นเชิดดินในมือของอีกฝ่ายโดยไม่กะพริบตา

ตอนที่ถูกล็อก
คุณจะสามารถอ่านตอนนี้ได้ฟรีในอีก:--:--:--:--

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์