พยาบาลเมื่อกี้ เธอไม่วางใจเบญญาจริงๆ พอกริ่งได้ร้อง เธอก็ได้ออกตัวไปเอารถเข็นยาแล้วก็ไปหา ในหัวนั้นก็ได้จินตนาการมากมาย แต่ว่าเธอคิดไม่ถึงว่าพอเปิดประตู ก็เห็นมือที่เต็มไปด้วยเลือดของเบญญา
เดิมห้องที่เรียบร้อยได้รกไปหมด พื้นได้เต็มด้วยกระดาษ สายให้ทำเกลือก็ได้พันกันอยู่ข้างเตียง ถุงน้ำเกลือได้ถูกโยนแล้วไหลออกมาบนพื้น
แต่สิ่งที่สะดุดตามากที่สุดนั้นก็เป็นมือที่เป็นแผลของเบญญา หลังมือได้เต็มไปด้วยเลือด ผ้าปูก็ด้วย
“นี่...นี่มันเกิดอะไรขึ้น? เขารังแกคุณ?” พยาบาลมองมือเบญญา แล้วก็มองดวงตาที่แดงก่ำของเธอ เหมือนว่าต้องดูแลความรู้สึกของเธอการพูดก็ได้ระวังขึ้น
เบญญาส่ายหน้า น้ำเสียงนั้นก็ได้แหบเพราะร้องไห้ “ฉันทำเอง”
พยาบาลจะเชื่อได้ยังไงล่ะ
เขาได้เอาก้านสำลีแล้วก็ยาฆ่าเชื้อออกมาจากรถเข็น ค่อยๆ ยกมือซ้ายของเบญญาขึ้นมา เลือดเริ่มแห้งแล้วต้องทำความสะอาดให้เรียบร้อย
ที่ที่เข็มแทงนั้นกำลังมีเลือดไหลไม่หยุด แผลไม่ได้ใหญ่มาก แต่ว่าตรงนั้นได้แทงนานไป รูที่เข็มแทงนั้นเลือดอาจจะไม่หยุดช่วงขณะ
“อาจจะเจ็บหน่อยนะคะ คุณทนหน่อยนะ”
“อืม” เบญญาตอบกลับเบาๆ ตานั้นได้มองไปที่เพดานอย่างเหม่อลอย ช่วงที่เจ็บที่สุดได้ผ่านมาแล้วแค่นี้ไม่นับอะไร
พยาบาลก็ได้เอาเข็มออกมา มองมีซ้ายที่เต็มไปด้วยบาดแผล มือนี้เจาะไม่ได้แล้ว
พยาบาลถาม “เจาะมือซ้ายได้ไหมคะ”
เบญญาถาม “ฉันยังต้องให้น้ำเกลืออีกนานเท่าไหร่?”
พยาบาลก็ได้พลิกเอกสาร พลิกไปสามแผ่น นับไปสักพัก “เกรงว่าต้องสิบวันถึงครึ่งเดือนค่ะ”
ทำไมนานขนาดนี้? เบญญาขมวดคิ้ว ก็ไม่รู้ว่าอาทิตย์หน้าเธอยังสามารถที่จะไปฟังคำพิจารณาคดีได้ไหม เธอถอนหายใจ “เจอะเถอะ”
พยาบาลมีทักษะเจาะไม่ได้เจ็บเท่าไหร่ เป็นเข็มให้น้ำเกลือเหมือนเดิม แต่แค่ถ้าเจาะมือขวานั้นไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่
เปลี่ยนยาให้เบญญาเสร็จ พยาบาลก็ได้เปลี่ยนผ้าห่มให้เธออย่างเอาใจใส่ จากนั้นก็ได้เก็บกระดาษบนพื้นให้เรียบร้อย เธอมองผลตรวจปลอมนี้ ถามเบญญา “สามีของคุณกลับไปแล้วเหรอคะ?”
เบญญาเม้มปากที่แห้ง พยักหน้า
ไม่มีอีกแล้ว ตอนที่เธอสลบไปในสี่สิบหกชั่วโมงนั้นมรุเดชได้เฝ้าเธออยู่ตลอด เหมือนว่าเธอกำลังฝัน ไม่มีความกล้าที่จะเชื่อ
อีกห้าวันก็เป็นวันฟังศาลพิจารณาคดีอีกรอบของสาวิน ห้าวันนี้สาวินไม่โผล่หน้ามาอีกเลย
คนที่เบญญาเจอมากที่สุดนอกจากพยาบาลที่ดูแลเธอก็ครรชิต
ครรชิตทำงานในโรงพยาบาล ส่วนมากก็ยุ่งอยู่ตลอด แต่ว่าพอว่างก็จะมาที่ห้องคนไข้มาอยู่เป็นเพื่อนเธอแล้วรบเร้าให้เธอนั้นทำลูคีเมีย
เบญญาเป็นคนที่กลัวเจ็บมากๆ แล้วก็สำออยด้วย สำออยจนพอได้ยินว่าต้องฉีดยาก็จะร้องโอ๊ย ยิ่งไม่ต้องเอ่ยถึงเรื่องที่จะให้เธอไปทำลูคีเมียที่เจ็บเหมือนขูดเนื้อเข้ากระดูกเลย
ตามคาด พอเบญญาได้ยินว่าไปทำลูคีเมียก็ส่ายหน้า
“ไม่ทำลูคีเมีย” ลูคีเมียนั้นสามารถที่จะยื้อชีวิตเป็นผลดีต่อการรักษา แต่ว่าเธอได้ยอมแพ้แล้ว เห็นครรชิตอยากที่จะรบเร้าอีก เบญญาก็ได้พูดออกไปตรงๆ ว่า “ทำลูคีเมียมันทำให้ผมร่วง ฉันไม่อยากเห็นว่าตัวเองหัวล้านในตอนที่มีชีวิตอยู่นะ นั้นมันทรมานกว่าตายซะอีก”
“นี่มันเวลาไหนแล้วยังคิดเรื่องหัวล้าน?” ครรชิตส่ายหน้าอย่างช่วยไม่ได้ แม้ว่าสีหน้ายังลังเลแต่ว่าไม่ได้เครียดเหมือนก่อนหน้า
“นายก็รู้ว่าปกติฉันช่วยแต่งหน้าแต่งตัว” เบญญายิ้ม ท่าทางแบบขอไปทีมากๆ “อีกอย่างนายก็รู้ว่าฉันเป็นคนกลัวเจ็บมากๆ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ห้วงอาวรณ์ คืนสู่วันวาน