วันพุธ
มรุเดชมารับเบญญาเพื่อฟังการพิจารณาคดี
พักรักษาตัวที่โรงพยาบาลมาหนึ่งอาทิตย์ ตอนนี้เบญญาสามารถนั่งได้แล้ว กระเพาะก็ไม่เจ็บปวดเหมือนเมื่อก่อน แต่ร่างกายก็ยังออกแรงไม่ได้เยอะอยู่ดี
รู้ว่าเบญญากําลังจะขึ้นศาลพยาบาลก็เตรียมรถเข็น แขวนยาไว้บนเสา เบญญาเห็นถุงสองถุงที่เต็มไปด้วยยา ก็รู้สึกเจ็บมือเลยทันที
" วันนี้ฉันไม่เจาะน้ำเกลือแล้วได้ไหม? มันไม่สะดวกถ้าฉันที่จะไปศาล..."
"ไม่หรอกค่ะ” พยาบาลขัดคำพูดของเธอ “คุณหมอชิตบอกเองค่ะว่าจะหยุดยาไม่ได้ พอคุณฟังพิจารณาคดีเสร็จก็ต้องกลับมาพักที่โรงพยาบาลต่อค่ะ”
เบญญามองไปที่ทางเดินสักพัก “ครรชิตล่ะ?”
พยาบาลบอกเธอ "ตอนนี้ไปตรวจตามห้องอยู่ค่ะ จริงด้วย คุณหมอชิตฝากให้ฉันมาบอกคุณอีกว่า ถ้าไม่ยอมให้น้ำเกลือดีๆ ก็ไม่ให้ออกจากโรงพยาบาล" "
ยังทำยังไงได้อีก? คำที่ครรชิตพูดออกมาไม่มีทางที่จะเอากลับคืนได้แน่ บวกกับนิสัยที่เหมือนแม่แบบนั้น ถ้าเธอกล้าที่จะไม่เชื่อฟังละก็เกรงว่าจะถูกเขามักเธอไว้กับเตียงคนไข้แล้วก็ฟังเขาบ่นแน่ๆ
เบญญาทำได้แค่พยักหน้าอย่างไม่มีทางเลือก มองพยาบาลให้น้ำเกลือเธอ
โทรศัพท์ได้สั่นไปสองที มือซ้ายของเบญญาได้เอาออกมาดูสักพัก เป็นข้อความของมรุเดช เขาได้อยู่ที่หน้าโรงพยาบาลแล้ว
“ไปทำเรื่องออกมาโรงพยาบาลชั่วคราวเถอะ” เบญญาก็ได้ชี้ไปที่ลิ้นชักที่หัวเตียง “เอกสารอยู่ในนั้นหมด”
พยาบาลได้เอาถุงแล้วก็เอาเอกสารต่างๆ ยัดเข้าไปข้างใน จากนั้นได้เข็นเบญญาไปจ่ายเงินที่เคาร์เตอร์
โรงพยาบาลในเมืองมีคนไข้เยอะมาก กลัวว่าจะมีคนชนเธอเขา พยาบาลก็ได้เข็นเบญญาไปอยู่ที่มุมที่ไม่ค่อยมีคน
“คุณเบญญาคุณรออยู่ตรงนี้ก่อนนะคะ เดี๋ยวฉันไปจัดการเรื่องเอกสาร”
เบญญาพยักหน้า “รบกวนเธอด้วย”
พยาบาลเดินออกไป เบญญาก็ได้เอาโทรศัพท์ออกมาแล้วก็ตอบข้อความของมรุเดช บอกเขาถึงตำแหน่งของเธอ พึ่งกดส่งไปก็ได้มีสายโทรเข้า
เธอคิดว่ามรุเดชเป็นคนโทรมา แต่ว่าเบอร์ที่โชว์เป็นเบอร์แปลก
เบญญาลังเลสักพัก ก็ได้รับสาย “ฮะโหล?”
ในโทรศัพท์ได้มีเสียงมากมายดังขึ้น ไม่มีคนตอบเธอ เบญญาคิดว่าเป็นคนโทรผิด ตอนที่เธอกำลังวาง ในนั้นก็ได้มีเสียงของสาวินดังขึ้น
เธอร้อนรนจนตัวได้เต็มไปด้วยเหงื่อ ตาที่เต็มไปด้วยน้ำตานั้นก็ได้ไหลอาบใบหน้าไม่หยุด เธอได้สะอึกเพราะร้องไห้ พูดร้องวอนเสียงอ่อน
“ถ้าพวกแกเข้ามาอีกฉันก็จะกระโดดลงไปจากตรงนี้!” เสียงที่ดังของสาวินก็เหมือนกับฟ้าที่ผ่าลงมา
ไม่รอให้เบญญาพูด ในนั้นก็ได้ส่งเสียงกรีดร้องเพราะตกใจออกมา แทบที่จะทำให้แก้วหูแตก
จากนั้น เบญญาก็ได้ยินเสียงเหมือนก้อนหินตกกับพื้นดัง เหมือนเสียงฟ้าร้อง ดังมาก ทำให้คนที่ฟังนั้นมีอาการหยุดหายใจและหัวใจหยุดเต้น
อยู่ๆ ล้อมๆ ก็ได้เงียบลง ความสิ้นหวังอย่างถึงขีดสุดนั้นก็ได้ครอบงำไปรอบๆ
สมองของเบญญาในตอนนี้โล่งมาก เธอขยับริมฝีปากที่สั่น ค่อยๆ พูดออกไปเบาๆ ว่า “พ่อคะ?”
ไม่มีคนตอบเธอ
ตอนนี้เบญญาคิดอะไรไม่ออก ก็ได้ลองเรียกไปอีกหลายรอบ เธอเอาโทรศัพท์ลง หน้าจอได้ดับแล้ว สายตัดไปตั้งแต่ตอนไหนเธอก็ไม่รู้ เธอก็ได้รีบโทรไป ยังไม่ทันรอคนรับสาย ที่ได้รับมาคือเสียงแจ้งเตือนที่เย็นชา
“ขอโทษค่ะ ไม่สามารถติดต่อเลขหมายปลายทางได้ในขณะนี้...”
น้ำตาของเบญญาก็ได้ไหลตกไปที่หน้าจอโทรศัพท์ ทำให้จอลาย เธอได้ยื่นมือไปเช็ด ไม่ว่ายังไงก็เช็ดไม่สะอาดสักที ก็เหมือนกับเบอร์นั้นไม่ว่าเธอโทรยังไงก็ไม่ติดแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ห้วงอาวรณ์ คืนสู่วันวาน