เช้าวันต่อมา... กรุงเทพฯ.
โสภีดูพาดหัวข่าวใหญ่ของหนังสือพิมพ์เรื่องที่ปริณประกาศแต่งงานผ่านทาง IG ไปเมื่อคืนอย่างรู้สึกอึ้งและเจ็บใจ
“แม่ดูอะไรอยู่เหรอคะ” มาริกาที่เพิ่งจะตื่นนอนถามขึ้นเมื่อเห็นมารดาทำหน้าช็อกโลกขณะอ่านหนังสือพิมพ์
“เอ่อ...” โสภีอึกอัก ไม่รู้ว่าสมควรจะบอกข่าวนี้กับบุตรสาวหรือไม่
“มีอะไรคะ” มาริกาถามย้ำอีกครั้ง สังหรณ์ใจแปลกๆ ว่าจะไม่ใช่ข่าวดีนัก
โสภีถอนหายใจยาว ก่อนจะกลั้นใจบอกบุตรสาวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ “ปริณประกาศแต่งงานกับนังนั่นผ่านไอจีเมื่อคืน”
“ไม่จริง!” มาริการีบเดินไปหยิบมือถือที่กำลังชาร์จมาเปิดดูทันที แล้วเธอก็ได้เห็นภาพความหวาน ที่ตอกย้ำความพ่ายแพ้ของเธออย่างเจ็บแสบด้วยแหวนเพชรเม็ดโตวงนั้น วงที่เธอแอบฝันว่าจะได้ครอบครอง
“กรี๊ดดด ฮือๆๆ” หญิงสาวกรีดร้องและปล่อยโฮออกมาอย่างเก็บไม่อยู่ รับไม่ได้กับความชัดเจนที่ปริณแสดงออกกับอลิชา
“มิ้ง!” โสภีรีบเข้าไปหากอดบุตรสาวอย่างสงสาร
“ฮือๆๆ นี่หนูต้องแพ้นังอลิซมันจริงๆ งั้นเหรอแม่ ฮือๆๆ” มาริกาถามพร้อมกับกำมือแน่นจนสั่นไปทั้งตัว
“แม่จะไม่ยอมให้มันได้เป็นเจ้าวสาว แม่สัญญา!” โสภีให้คำมั่น เพราะเธอก็เจ็บปวดไม่แพ้บุตรสาว จึงเริ่มคิดหาวิธีขัดขวางไม่ให้อลิชาได้แต่งงานกับปริณอย่างจริงๆ จังๆ
เวลา 08 : 40 น. บ้านภิพัฒน์หัสดิน...
ประวิตรที่เดินลงมาจากชั้นสองก็เห็นมารดานั่งอยู่ที่โซฟาด้วยสีหน้าสดชื่นแจ่มใสกว่าทุกๆ วัน ขณะที่เด็กในบ้านพากันยกอาหารออกมาวางร่วมสิบกว่าเมนู
“วันนี้คุณแม่ตื่นเช้าจังเลยนะครับ”
“ก็วันนี้บ้านเรามีแขก” ปานทิพย์หันไปตอบบุตรชายอย่างเสียไม่ได้
“ใครจะมาเหรอครับ?” ประวิตรขมวดคิ้วถามอย่างสงสัย
“ก็ครอบครัวของพันเอกปริณน่ะสิ เขาจะมาทานอาหารเช้าที่นี่ แล้วก็คุยเรื่องกำหนดการต่างๆ” ปานทิพย์ยกยิ้มที่มุมปาก รู้สึกดีใจที่จะได้เจอหน้าหลานสาวและว่าที่หลานเขย
“เอ่อ...ใครบอกคุณแม่เหรอครับ” ประวิตรแสร้งถามทั้งที่รู้ดีว่าใคร แต่ก็อยากจะได้คำยืนยันอีกครั้ง
“ก็อลิซน่ะสิ โทรมาบอกเมื่อคืน แล้วนี่เราจะออกไปไหน?”
“อ้อ! เปล่าครับ ไม่ได้ไปไหน” คนที่กำลังจะออกไปทำธุระข้างนอกรีบส่ายหน้าเบาๆ แล้วหย่อนก้นลงนั่งที่เก้าอี้ด้วยท่าทีสบายๆ
“ดีเลย งั้นเดี๋ยวอยู่คุยเรื่องรายละเอียดของงานด้วยกัน”
“เอ่อ... ผมว่า...” ประวิตรเริ่มสับสน ใจหนึ่งก็อยากอยู่แต่อีกใจหนึ่งก็กลัวว่าบุตรสาวจะยังไม่หายโกรธ เรื่องที่ตนทำเกินกว่าเหตุไปเพราะอารมณ์ชั่ววูบ หลังจากฟังความข้างเดียวมากไป
“ลูกสาวคนเดียวของแกจะแต่งงานนะตาวิตร ช่วยทำหน้าที่พ่อที่ดีหน่อยสิ!” ปานทิพย์เอ่ยเหน็บก่อนจะหันไปมองที่ประตูทางเข้าบ้าน อย่างรู้สึกตื่นเต้นกับการรอคอย
“ครับคุณแม่” ประวิตรเอ่ยพร้อมกับยิ้มบางๆ ออกมา แล้วหันไปมองที่ประตูรั้ว อย่างร่วมลุ้นไปกับมารดา
“อ๊ะ! นั่นไง มากันแล้ว เรารีบออกไปต้อนรับกันเถอะ” ปานทิพย์เอ่ยขึ้นเมื่อเห็นรถแล่นเข้ามาจอด
“ครับ” ประวิตรรีบลุกขึ้นแล้วพยุงมารดาเดินออกไปที่ด้านนอก
“สวัสดีค่ะคุณพ่อ คุณย่า” อลิชายกมือไหว้บิดาก่อนจะเข้าไปสวมกอดผู้เป็นย่าด้วยความคิดถึง
“สวัสดีครับ” ปริณยกมือไหว้ผู้ใหญ่ทั้งสองด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
“แหม! ว่าที่หลานเขยย่าหล่อเชียวนะ” ปานทิพย์เอ่ยแซว พร้อมกับชำเลืองมองชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่ตรงหน้าอย่างสำรวจ
“ขอบใจจ้ะ” ปานทิพย์ฉีกยิ้มให้คนหล่อใจดี ก่อนจะลงมือตักอาหารชิ้นนั้นขึ้นมาทาน
“วันเสาร์พ่อว่างเหรอคะ” อลิชาหันไปเอ่ยกระซิบถามบิดาที่นั่งอยู่ข้างๆ ด้วยสีหน้าไม่มั่นใจ
“ว่างสิ! พ่อว่าง” ประวิตรตอบพร้อมกับส่งยิ้มบางๆ ไปให้บุตรสาว ขณะที่ความรู้สึกภายในใจตีตื้นขึ้นมาจนแน่นหน้าอก เมื่อเห็นร่องรอยจางๆ บนใบหน้าจิ้มลิ้มนั้นใกล้ๆ พลันน้ำตาก็พานจะไหลออกมาเสียให้ได้
หลังจากที่ทานข้าวเสร็จ ปริณก็เอ่ยขอตัวพาอลิชาไปดูการ์ดงานแต่งด้วยกัน โดยปล่อยผู้ใหญ่พูดคุยกันถึงเรื่องรายละเอียดของงานต่อ
เชียงใหม่... ไร่ไคเลอร์ 07 : 18 น.
ไลน์! ไลน์! ไลน์!
อีเดนงัวเงียตื่นเพราะเสียงข้อความที่ดังขึ้นติดๆ กัน รีบควานหามือถือที่วางอยู่บนหัวเตียง ก่อนจะกดเปิดอ่านข้อความของบอดี้การ์ดที่พักอยู่ท้ายไร่ แล้วคลี่ยิ้มบางๆ ออกมาเมื่อเห็นรูปเห็ดโคน ปลาช่อนและหน่อไม้ ที่รอให้ไปเก็บมาทำอาหาร
“รียา! รียา!” ชายหนุ่มเขย่าร่างบางเบาๆ สองสามครั้ง เพื่อให้รู้สึกตัว แต่ทว่าสาวเจ้ากลับนอนนิ่งไม่ตอบรับใดๆ
“พระเจ้า...นี่เป็นเพราะเราใช่ไหมเนี่ย” อีเดนส่ายหน้าเบาๆ อย่างรู้สึกผิดที่เมื่อคืนเขาเอาแต่ใจ ก่อกวนเธอด้วยรสสวาทจนเกือบถึงเช้าทำให้สาวเจ้าหลับลึกอย่างที่เห็น
“รียา” อีเดนเรียกอีกครั้งพร้อมกับซุกหน้าลงไปที่ซอกคอระหง ใช้หนวดเคราที่เพิ่งขึ้นใหม่ถูกเบาๆ ที่เนื้อนวลไปมาอย่างหยอกเย้า
“อื้อ...” มารียาครางตอบ ก่อนจะผลักใบหน้าของอีกฝ่ายออกอย่างรู้สึกรำคาญ
“การ์ดของผมไลน์มาบอกว่าเจอเห็ดโคนออกห่างจากบ้านพักไปไม่ถึงกิโล คุณอยากจะไปเก็บด้วยกันไหม” อีเดนเอ่ยพลางดึงร่างบางอ้อนแอ้นเข้ามากอดแนบเนื้อตัวที่เปลือยเปล่าของตัวเอง
“อ๊ะ! ไปค่ะไป” มารียาบอกพร้อมกับดีดตัวลุกจากเตียงอย่างรวดเร็วราวกับถูกไฟลน เมื่อรู้ว่าขีปนาวุธขนาดเขื่องกำลังจ่อทิ่มอยู่ตรงบั้นท้ายของเธอ
“ไม่ต้องรีบก็ได้ครับ” อีเดนตะโกนตามหลังคนที่คว้าเสื้อคลุมขึ้นมาสวมอย่างเร่งรีบ จากนั้นวิ่งหนีเข้าห้องน้ำไปอย่างรวดเร็วด้วยความรู้สึกขำๆ ก่อนจะลุกเดินไปยังห้องนอนที่อยู่ถัดไป เพื่อล้างหน้าแปรงฟัน เตรียมตัวออกไปเก็บเห็ดและหน่อไผ่หวาน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อีเดน