ข้าคือหงส์พันปี นิยาย บท 26

ถึงหลิ่วเหมยอู่จะเป็นผู้ดูแลจวนแม่ทัพ แต่พ่อบ้านก็ยืนหยัดอย่างตรงไปตรงมาว่า “เซียงซั่นไม่เคารพผู้เป็นนาย ตามกฎของจวน...”

เขายังพูดไม่ทันจบ หลิ่วเหมยอู่ก็เอ่ยขัดจังหวะเสียก่อน “ข้าเป็นนายของนาง!”

หลิ่วเหมยอู่วิ่งเข้าไปผลักท่อนไม้ออกโดยไม่สนใจอะไรทั้งนั้น แล้วพูดว่า “ข้าจะดูสิว่าวันนี้ใครจะยังกล้าตีอีก!" นางเอ่ยด้วยน้ำตาคลอเบ้าและกวาดตามองผู้คนที่อยู่รอบๆ ด้วยความคับแค้น “หรือว่าพวกเจ้าเห็นว่าท่านแม่ทัพไม่อยู่ จึงคิดว่าจะรังแกเราสองนายบ่าวได้ง่ายๆ!”

ทุกคนเงียบกริบ

พ่อบ้านยืนขึ้นและเอ่ยว่า “นายหญิงโปรดอภัย บ่าวเพียงปฏิบัติตามกฎ ในเมื่อเซียงซั่นถูกลงโทษแล้ว เรื่องนี้จะหยุดเพียงเท่านี้ อีกสักครู่บ่าวจะสั่งให้ร้านยาส่งยามาให้ขอรับ”

หลิ่วเหมยอู่ประคองเซียงซั่นที่เดินกะเผลกเข้าไปในเรือน

ใบหน้าของเซียงซั่นเต็มไปด้วยคราบน้ำตา ตอนนี้นางรู้ตัวดีแล้วว่าอะไรเป็นอะไรจึงผลักหลิ่วเหมยอู่เบาๆ และเอ่ยทั้งน้ำตา “บ่าวเป็นสาวใช้ข้างกายนายหญิง ไม่มีเหตุผลที่ผู้เป็นนายจะต้องช่วยบ่าว หากจะช่วย บ่าวสิที่ต้องเป็นฝ่ายช่วยนายหญิง”

หลิ่วเหมยอู่เอ่ยอย่างสะเทือนใจว่า “เจ้ากับข้าไม่จำเป็นต้องพูดเช่นนี้”

เซียงซั่นนอนอยู่บนเตียงและยังคงร้องห่มร้องไห้ไม่หยุด

หลิ่วเหมยอู่เช็ดน้ำตาอยู่ข้างๆ

เซียงซั่นเอ่ยอย่างขบเขี้ยวเคี้ยวฟันว่า “ทาสชั่วช้าพวกนั้นเห็นว่าท่านแม่ทัพไม่อยู่จึงรังแกพวกเราเช่นนี้! บ่าวไม่ได้เรียกร้องเพื่อตัวเอง บ่าวช่างไร้ค่านักสำหรับนายหญิง! พอองค์หญิงนั่นกลับมาก็เอาแต่รังแกนายหญิงครั้งแล้วครั้งเล่า ไม่รู้ว่าหลังจากนี้จะเป็นอย่างไร...”

นางซุกหน้าในผ้าห่มและเริ่มร้องไห้สะอึกสะอื้น

หลิ่วเหมยอู่เอ่ยว่า “เซียงซั่น วันนี้ข้าทำให้เจ้าต้องลำบาก”

เซียงซั่นคว้ามือของหลิ่วเหมยอู่เอาไว้ เอ่ยทั้งดวงตาแดงก่ำว่า “บ่าวไม่ลำบากเลย บ่าวเพียงแต่กลัวว่านายหญิงจะลำบาก วันนี้เราไปเพื่อจะพูดคุยอย่างมีเหตุผล ไม่คิดเลยว่าจะต้องพบเจอกับเรื่องอัปยศเช่นนี้”

เซียงซั่นมองนิ้วมือที่บิดเกร็งของหลิ่วเหมยอู่จนเล็บเกือบจะจิกเข้าไปในเนื้อและพูดว่า “โชคทีที่ท่านแม่ทัพรักใคร่โปรดปรานนายหญิงตลอดมา เมื่อท่านแม่ทัพกลับมาท่านจะต้องจัดการให้นายหญิงแน่นอน”

จริงสิ... มีเพียงความรักที่ฉินหรูเหลียงมีต่อนางเท่านั้นที่เป็นอาวุธที่ทรงพลังที่สุดของนาง ไม่ว่าจะเป็นก่อนหรือหลังเฉินเสียนกลับมานางก็ยังเป็นผู้ดูแลครอบครัวอยู่ดี

หลิ่วเหมยอู่คลายนิ้วของนางและเชิดหน้าขึ้น ความเกลียดชังในแววตาค่อยจางลง นางเอ่ยเบาๆ ว่า “เซียงซั่น กรรไกรที่เจ้ามักจะใช้ตอนปักผ้าอยู่ที่ไหนหรือ”

***

ฉินหรูเหลียงมาเยือนสวนสระวสันตฤดูในตอนบ่าย

เห็นได้ชัดว่าแม่บ้านจ้าวรู้สึกสุขสมเป็นอย่างมากเมื่อเห็นฉินหรูเหลียงมาที่นี่ บางทีนี่อาจเป็นโอกาสที่ทั้งสองจะได้ปรองดองกันก็ได้

ฉินหรูเหลียงสวมชุดสีน้ำเงินเข้ม เขามีรูปร่างสูงใหญ่และหน้าตาหล่อเหลา

วงกบประตูเป็นประหนึ่งกรอบรูปและไม่อาจปกปิดความสง่างามของเขาไว้ได้ขณะที่เขาก้าวย่างเข้ามา

เพียงแต่เมื่อฉินหรูเหลียงเงยหน้าขึ้นมองเฉินเสียน ดวงตาของเขาเฉยเมยและยังคงเย็นชาราวกับน้ำแข็ง

ถ้าวันใดวันหนึ่งฉินหรูเหลียงอยู่ๆ ก็ใจดีกับเธอขึ้นมา เฉินเสียนคงคิดว่าเขากินยาผิดมาแน่ๆ เฉินเสียนที่เคยชินกับท่าทีเลวร้ายของเขาในตอนนี้กลับไม่ชินกับมันอีกต่อไป

เฉินเสียนไม่ชอบลมหายใจของชายผู้นี้ ดังนั้นเธอจึงเปิดหน้าต่างเพื่อระบายอากาศ

ฉินหรูเหลียงไม่ยอมพูดอะไรอยู่เป็นเวลานาน เฉินเสียนจึงกล่าวขึ้นก่อนว่า “เพิ่งกลับมาจากจวนของเหลียนชิงโจวหรือ มาหาถึงที่นี่จะมากล่าวโทษอะไรข้าอีกล่ะ บางทีเขาอาจจะบอกท่านว่าข้าไม่เคยพูดกับเขาว่าจะคืนอาหารบำรุงกำลังให้”

เฉินเสียนที่พิงอยู่ตรงหน้าต่างหันกลับมาและเห็นว่าฉินหรูเหลียงขยับเข้ามาใกล้ เขาเดินมาอยู่ตรงหน้าและก้มมองเธอ

นัยน์ตาคู่นั้นลึกล้ำราวกับแอ่งน้ำหมึกข้นๆ ที่ไม่อาจเจือจางได้

เฉินเสียนสบตาเขาอย่างไม่เกรงกลัว

แต่เมื่อตระหนักได้ว่าแววตาของฉินหรูเหลียงเต็มไปด้วยคลื่นแห่งความโกรธแค้น เธอก็คิดจะพูดบางอย่าง ทว่าทันใดนั้นฉินหรูเหลียงกลับเงื้อมือขึ้นและตบหน้าเฉินเสียนโดยแรงอย่างไม่ให้ทันตั้งตัว

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือหงส์พันปี