ข้าคือหงส์พันปี นิยาย บท 4

เด็กสาวผู้นั้นบอกว่ารอยแผลบนใบหน้าของเธอลึกเกินไป ถึงแม้จะหายเป็นปกติแต่ก็จะทิ้งรอยแผลเป็นที่เด่นชัดเอาไว้

เช้าตรู่วันนั้นที่ถนนด้านนอกเต็มไปด้วยความคึกคัก มีเสียงฆ้องเสียงกล้องดังขึ้นไม่ขาดสาย

เด็กสาววิ่งออกไปดูภาพแห่งความรื่นเริงอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะวิ่ง ถอนหายใจและพูดว่า “ไม่รู้ว่าบ้านไหนจัดงานฉลองมงคลสมรส จัดเสียใหญ่โตหรูหราเชียว!”

เด็กสาวยังกล่าวอีกว่า “ชาวบ้านบนถนนเดินตามขบวนกลองไปดูเจ้าบ่าวเจ้าสาวกันใหญ่!"

ฮึๆ จะเป็นใครไปได้ ต้องเป็นการแต่งงานครั้งที่สองของฉินหรูเหลียงแน่นอน เธอแค่นับวันดูก็รู้

ในเวลานี้มีเสียงพูดคุยดังขึ้นอยู่ด้านนอก หลังจากพูดคุยกับหมอที่อยู่ที่โถงด้านหน้าแล้ว เสียงนั้นก็ดังขึ้นที่ลานหลังบ้าน

เด็กสาวซึ่งกำลังเขี่ยถ่านในเตาลุกขึ้นมองออกไปนอกหน้าต่าง หลังจากนั้นก็หันมายิ้มและบอกว่า “พี่สาว คุณชายที่มาส่งท่านกลับมาแล้ว”

เฉินเสียนเงยหน้าและต้องหรี่มองเพราะมีแสงส่องผ่านประตูเข้ามา

ร่างสูงใหญ่ของใครคนหนึ่งเดินเข้ามาช้าๆ

คนผู้นี้สวมชุดผ้าไหมที่ดูมีราคา ผมยาวถูกรวบสูง ดูแล้วรู้สึกมีชีวิตชีวา ใบหน้างดงามราวกับมงกุฎหยก หล่อเหลาและดูดี

เฉินเสียนอดคิดไม่ได้ นางยอมแขวนคอตายบนลำคอที่บิดเบี้ยวของฉินหรูเหลียง สละคาน สละแผ่นไม้และวัสดุดีๆ ชิ้นนี้! สมองของนางมีแต่หนองหรือเปล่านะ?

เขาเป็นฝ่ายเอ่ยขึ้นมาก่อนด้วยน้ำเสียงที่สุภาพและให้เกียรติ พร้อมกันนั้นก็ประสานมือคารวะเฉินเสียน “อาการบาดเจ็บขององค์หญิงดีขึ้นบ้างแล้วใช่ไหมพ่ะย่ะค่ะ”

“ท่านรู้ว่าข้าเป็นองค์หญิง?” เฉินเสียนถาม “ท่านเป็นใคร”

“กระหม่อมเหลียนชิงโจว เคยรู้จักกับองค์หญิงตอนที่ยังทรงพระเยาว์พ่ะย่ะค่ะ”

แค่เพียงประโยคนี้ก็อธิบายได้แล้วว่าทำไมเหลียนชิงโจวถึงต้องการช่วยเธอ

เขายังเอ่ยอย่างคล่องแคล่วต่อว่าทำไมเขาจึงมาที่นี่วันนี้

หลังจากเด็กสาวออกไป เฉินเสียนก็เริ่มแกะผ้าพันแผลออกราวกับไม่มีใครอยู่ที่นั่นด้วย เหลียนชิงโจวที่ยืนอยู่ข้างๆ รวบมืออย่างสุภาพและเอ่ยว่า “วันนี้แม่ทัพฉินมีความสุขมาก กระหม่อมมาเพื่อพาองค์หญิงไปดื่มฉลองในงานแต่ง”

เหลียนชิงโจวแสดงออกอย่างเคารพ เฉินเสียนคุ้นเคยกับการเป็นคนโดดเด่นและพอใจกับท่าทีของเขามาก

เฉินเสียนม้วนผ้าพันแผลไว้รอบๆ มือจนมือของเธอแทบจะกลมเหมือนบ๊ะจ่าง เธอยิ้มและกล่าวว่า “ด้วยความยินดีเป็นอย่างยิ่ง การล่มงานแต่งของผู้อื่นเป็นสิ่งที่ไร้คุณธรรม ข้าละชอบทำที่สุด”

หลังจากแกะผ้าพันแผลออกจนหมด ในที่สุดเฉินเสียนก็มองเห็นใบหน้าที่เสียโฉม

อาการบวมบนใบหน้าหายไปแล้ว แต่รอยแผลที่ลากยาวจากหางตาไปจนถึงมุมปากแทบจะเจาะทะลุใบหน้าของเธอ ดูน่าสยองขวัญอย่างร้ายกาจ

เธอสะดุ้งตกใจ ลังเลอยู่ครู่หนึ่งว่าควรจะเอื้อมมือไปปิดประจกหรือปิดหน้าตัวเองดี จากนั้นจึงกระทืบเท้าแล้วสบถออกมา “บ้าเอ๊ย นี่มันทำร้ายจิตใจผู้หญิงที่สุด!”

“ได้ฤกษ์แล้ว! บ่าวสาวเตรียมสักการะฟ้าดิน...”

ฉินหรูเหลียงและหลิ่วเหมยอู่จับผ้าแดงแล้วหันหน้าไปทางประตู

“หนึ่ง คำนับฟ้าดิน...”

ทั้งสองโค้งคำนับ

อย่างไรก็ตาม ขณะที่คำนับครั้งแรกบริเวณโดยรอบก็เงียบกริบจนได้ยินเสียงเข็มตก

จากนั้นก็ตามมาด้วยเสียงหายใจหอบถี่ แม้แต่เสียงของสี่ผัว(ผู้หญิงที่ดูแลเจ้าสาวในวันแต่งงาน)ยังชะงักและพูดติดๆ ขัดๆ ถึงสองครั้ง

เมื่อฉินหรูเหลียงยืดตัวขึ้น ทันใดนั้นเขาก็เห็นผู้หญิงคนหนึ่งยืนอยู่ด้านหน้าตรงกลางประตูห้องจัดงาน เธอเอามือไพล่หลังอย่างทะนงตน

ฉินหรูเหลียงชะงักไปครู่หนึ่ง ทีแรกเขายังจำไม่ได้ว่านี่คือเฉินเสียน

รอยแผลบนในหน้าของเฉินเสียนนั้นน่าเกลียดน่ากลัว ราวกับใบหน้าถูกแบ่งออกเป็นส่วนๆ แล้วนำมาประกอบเข้าด้วยกันใหม่อย่างหยาบๆ

ไม่แปลกใจเลยมีเสียงหายใจหอบถี่ดังขึ้นดังขึ้นรอบๆ

เฉินเสียนคิดว่าเธอยิ้มให้ฉินหรูเหลียงอย่างเย็นชา เผยให้เห็นฟันที่ขาวสะอาด “ฉินหรูเหลียง ท่านช่างมีความสามารถเสียจริง เพิ่งจะแต่งงานกับข้าได้แค่สามเดือนก็แต่งอนุภรรยาเข้าบ้านแล้วหรือ”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือหงส์พันปี