ข้าคือหงส์พันปี นิยาย บท 429

เฉินเสียนที่เตรียมจะสู้ให้ถึงที่สุดพลันรู้สึกสับสนไปชั่วอึดใจ หลังจากเธอตอบสนองได้ หัวใจของเธอก็เกิดความคิดหนึ่งขึ้นมา——ซูเจ๋อรอดแล้ว

เฉินเสียนกล่าวอย่างเงียบขรึมว่า "ต้องถ่วงเวลาให้ผ่านอู่สือซานเค่อนี้ไปก่อน"

ฉินหรูเหลียงที่ยืนอยู่ด้านข้างถามว่า "หากจักรพรรดิยังคงประหารชีวิตเขาล่ะ?"

"งั้นก็ฆ่าทุกคนในลานประหาร" เธอเอ่ยด้วยสีหน้าราบเรียบ หากแต่แววตากลับฉายไอสังหารออกมา

เวลาค่อยๆผ่านไป ไม่นานก็จะถึงเวลาอู่สือซานเค่อแล้ว ทว่าราชวังยังไม่ได้ส่งคนมาเลย

หัวหน้าตรวจการในลานประหารดูเวลา จากนั้นก็หยิบป้ายสั่งประหารขึ้นมาหนึ่งแท่ง

ยามที่เขายกมือ เฉินเสียนก็หรี่ตาทำท่ายกมือขึ้นมาอย่างช้าๆ

หัวหน้าตรวจการยังไม่ทันโยนป้ายสั่งประหารก็โดนธนูยิงใส่ที่คอ โดยไม่รู้ว่ามาจากไหนกะทันหัน

ลานประหารเงียบกริบไปชั่วอึดใจ จากนั้นทหารก็ชักดาบออกมาตะโกนว่า "มีนักฆ่าชิงตัวนักโทษ——"

ชัวพริบตาประชาชนพากันแตกตื่น ร้อนรน สถานการณ์ชุลมุนวุ่นวาย

ทหารพร้อมใจกันโอบล้อมลานประหารไว้อย่างไม่ให้มีจุดรั่วไหล

ทหารรายหนึ่งวิ่งไปยังหัวหน้าตรวจการ พลางดูธนูอันคมแหลมที่แทงอยู่ในคอ แล้วหันหน้าชี้ไปยังอาคารสองชั้นที่เยื้องออกไป พลางกล่าวว่า "ธนูมาจากทางนั้น"

จากนั้นก็มีทหารกลุ่มหนึ่งไปสกัดล้อมรอบอาคารเรือนนั้น

ยังไม่ทันได้ต่อสู้ นักฆ่าปิดหน้าชุดดำก็บินลงมาจากชั้นสอง ในมือถือธนู ระหว่างที่ยังอยู่กลางอากาศ เขาได้ยิงธนูติดต่อกันหลายดอก จากนั้นก็วิ่งหนีไปยังทิศทางหนึ่ง

เหล่าทหารด้านล่างก็ไล่ตามอย่างไม่ลดละ

เฉินเสียนยืนอยู่ด้านล่างลานประหารที่กำลังชุลมุนว่นวาย เธอมองใบหน้าซูเจ๋อที่อยู่ในลานประหารไม่ชัดเจน ทว่าร่างชุดขาวที่เปื้อนเลือดชัดเจนและเงียบสงบ

ผู้ตรวจการลานประหารสั่งได้ครึ่งทางก็เสียชีวิตแล้ว เพชฌฆาตไม่รู้ว่าควรปฏิบัติหน้าที่อย่างไรต่อ

หัวหน้าองครักษ์เป็นคนของจักรพรรดิ ได้รับคำสั่งจากนายเหนือเกล้าว่าต้องเห็นซูเจ๋อนองเลือดในลานประหารกับตาตัวเอง ดังนั้นเขาจึงเอาป้ายคำสั่งประหารชีวิตโยนใส่พื้น พลางตะโกนกล่าวว่า "ประหารต่อ"

สถานการณ์เช่นนี้ เพชฌฆาตก็ไม่ทำพิธีดื่มสุราบูชาดาบแล้ว เขายกดาบที่แสบตาระยิบระยับ เมื่อเล็งเป้าหมายเสร็จก็เตรียมจะลงมือ

เฉินเสียนยกมือทำท่าอีกครั้ง

นักฆ่าชุดดำไม่ได้ลงมือด้วยความใจร้อน หากแต่เป็นการเล็งให้ตรงเป้าเสียก่อน

จากนั้นลูกธนูอันแหลมคมก็ยิงมาอีกทิศทางหนึ่ง พลางปัดลงกลางอกเพชฌฆาตอย่างแม่นยำ

เพชฌฆาตคำรามด้วยความเจ็บปวดก่อนจะทิ้งตัวลงไปกองกับพื้น

เวลานี้ทหารจึงรู้ว่าไม่ได้มีผู้ชิงตัวนักโทษเพียงคนเดียว

จากนั้นนักฆ่าชุดดำก็กระโดดลงจากชั้นสอง ล่อทหารไปอีกหนึ่งกลุ่ม

เฉินเสียนกำมือไว้แน่น ถึงแม้จะไม่แสดงอารมณ์ทางใบหน้า ทว่าในใจเธอที่กำลังคำนวณเวลาอยู่กลับตึงเครียดเป็นอย่างยิ่ง

หากในวังมีข่าวประกาศ เวลานี้น่าจะมาถึงแล้ว

น่าจะใกล้ถึงแล้ว

ฉินหรูเหลียงดึงตัวเฉินเสียนหลบไปด้านข้าง พลางกล่าวว่า "เฉินเสียน ที่นี่ไม่ปลอดภัย"

ไม่ว่าอย่างไรเฉินเสียนก็ไม่ยอมจากไป เธอไม่มีทางอนุญาตให้ร่างชุดขาวหลุดออกจากสายตาเธอเด็ดขาด

หากนักฆ่าไม่เพียงพอ เธอก็พร้อมที่จะถือดาบพุ่งเข้าลานประหารแล้วเริ่มการเข่นฆ่าอย่างไม่ลังเล

แม่นมซุยกล่าว "ท่านราชบุตรเขยรีบพาองค์หญิงไปเถอะ บ่าวจะไปช่วยเอง"

เฉินเสียนเงยหน้ามองม้าเร็วราวกับสายลมวิ่งผ่าน เธอได้ยินเสียงหัวใจตัวเองเต้นแรงอย่างไม่รู้ตัว

ผู้ถ่ายทอดราชโองการมาถึงลานประหารก็รีบลงจากม้าเพื่อประกาศทันที

แจ้งว่าเร่งรัดสะสางคดีนี้เร็วเกินไป ยังมีข้อสงสัยกับหลักฐานหลายประการ จักรพรรดิตัดสินใจตรวจสอบใหม่อีกครั้ง

ถ้อยคำอันชัดเจนแว่วเข้าหูมาอย่างไม่หยุดยั้ง

เมื่อจักรพรรดิหัวหดวิตกกังวลไปหมด ต้องคำนึกถึงภาพรวมเป็นหลัก สุดท้ายเฉินเสียนจึงเป็นฝ่ายชนะ

จักรพรรดิเป็นเจ้าแห่งใต้หล้า เขาไม่อยากสูญเสียอะไรหลายๆอย่าง ซึ่งสิ่งที่ไม่ปรารถนาจะหลุดจากมือที่สุดก็คือผืนแผ่นดินแห่งต้าฉู่

สำหรับเฉินเสียนมีเพียงซูเจ๋อผู้เดียวเท่านั้น

สุดท้ายซูเจ๋อถูกส่งกลับเข้าไปในศาลยุติธรรมต้าหลี่ จักรพรรดิรับรู้ว่ามีผู้ชิงตัวนักโทษ ทว่าเมื่อสืบสาวหาความจริงก็จับไม่ได้แม้แต่คนเดียว สุดท้ายแค่ค้นเจอเสื้อผ้าสีดำไม่กี่ชุดในมุมหนึ่งเท่านั้น

คาดว่านักฆ่าชุดดำคงปลอมตัวเป็นราษฎรหลบซ่อนตามซอกซอยต่างๆ

เล่ากันว่านักดาบพเนจรทนเห็นขุนนางที่จงรักภักดีถูกสังหารอย่างไร้คุณธรรมไม่ได้ จึงยื่นมือเข้าช่วยเหลือ

ผลก็คือจับนักฆ่าไม่ได้สักคน สุดท้ายก็ต้องปล่อยเลยตามเลย

ก่อนหน้านี้มีเป่ยเซี่ยแทรกแซงด้วยเรื่องเฉินเสียน ยามนี้ก็มีเย่เหลียงเข้าแทรกเรื่องของซูเจ๋ออีก เมื่อความกลัดกลุ้มมารวมตัวกันเป็นหนึ่งเดียว ทำให้จักรพรรดิเคร่งเครียดอย่างมหันต์ ทว่ากลับไม่กล้าทำอะไรส่งเดช

จักรพรรดิเรียกเฮ่อฟั่งมาจากห้องขังของกรมอาญา กล่าวว่า "เย่เหลียงส่งข่าวมาว่า หากข้าดื้อดึงจะสังหารซูเจ๋อ เย่เหลียงจะไม่ยอมรับสัญญาสันติภาพกับต้าฉู่ สามารถยกทัพมาตีต้าฉู่ได้ทุกเมื่อ เรื่องนี้เจ้าคิดเห็นเช่นไร?"

เฮ่อฟั่งตื่นตระหนก พลางกล่าวในขณะที่ยังคลานอยู่ที่พื้น "ฝ่าบาททรงอย่าได้เชื่อนะพ่ะย่ะค่ะ ต้องเป็นข่าวปลอมแน่นอน ฝ่าบาทควรสังหารซูเจ๋อทันทีเลยพ่ะย่ะค่ะ"

จักรพรรดิหรี่ตา "ข้าอยากฟังความเห็นของเจ้า"

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือหงส์พันปี