เฉินเสียนฟังแล้วรู้สึกใบหูร้อนผ่าวไปหมด เขาพรมจูบใบทั่วหูของเธอเบาๆ พลางลูบไล้ต้นขาของเธอ ค่อยๆ เข้ามาจากทางด้านหลังอย่างนุ่มนวล
เฉินเสียนเหมือนรู้สึกเหมือนจะต้านทานแทบไม่ไหว สิ่งที่ปิดมิดชิดได้ถูกเปิดออก แล้วเขาก็ได้เข้าสู่ร่างกายเธอ แต่พึ่งจะเข้ามา เธอก็เริ่มเกร็งจนเอวบิดด้วยเรี่ยวแรงทั้งหมดที่มี
ซูเจ๋อไม่ได้ขยับเข้าไปอีก ตอนนี้ลมหายใจของเธอปั่นป่วนและเนื้อตัวสั่นเทาไปหมด
เฉินเสียนที่ยังหลงเหลือสติอยู่น้อยนิด เธอพูดขึ้นว่า : "เห็นแก่ร่างกายของท่าน ข้าว่าท่านควรงดเรื่องแบบนี้ไว้ก่อน......"
ซูเจ๋อพูดขึ้นว่า : "หันกลับมา"
"ไม่ "
"งั้นข้าก็จะทำจากด้านหลังแบบนี้ต่อ ข้าเคยบอกแล้วไม่ใช่หรือ ว่าการหันหลังให้ข้านั้นมันอันตรายแค่ไหน"
เมื่อเฉินเสียนได้ยินแล้วก็รีบหันกลับมาเผชิญหน้ากับซูเจ๋อทันที
จากนั้นซูเจ๋อก็ได้นำแท่งชายชาตรีที่ร้อนผ่าวของเขามาตรงหว่างขาของเธอ ลูบสัมผัสดวงมุมตาของเธอบางเบา แสงไฟของระเบียงทางเดินกระทบลงบนดวงตาของเขา ดูแวววาวมีเสน่ห์น่าหลงใหล ใบหน้าของเธอที่ท่วมท้นไปด้วยอารมณ์นั้นได้ถูกแสดงออกมาอย่างชัดเจน
ซูเจ๋อหันเอียงศีรษะเล็กน้อย เข้าใกล้จมูกของเธอ กระซิบด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบาว่า : "หากเป็นห่วงร่างกายของข้า ท่านก็ควรจะโต้ตอบกลับมาบ้าง อย่าให้ข้าต้องพยายามอยู่ฝ่ายเดียว"
ไม่รอให้เฉินเสียนได้ตอบกลับ เขาก็จูบลงมาทันที
จูบที่ชุ่มฉ่ำเช่นเดียวกับร่างกายที่เปียกชุ่ม นัวเนียลุ่มลึก ซูเจ๋อจูบจนเธอแทบจะลืมเลือนทุกสิ่งทุกอย่าง ค่อยๆ ทำลายสตินึกคิดของเธอช้าๆ ทีละนิด
ทั้งสองนอนตะแคงข้าง ซูเจ๋อยกขาของเธอขึ้นมาคล้องเอวของเขาอีกครั้ง เขาประคองเอวของเธอดึงเข้ามาแนบชิดกับร่างกายของเขา แล้วเริ่มสอดใส่อีกครั้ง
เฉินเสียนออกแรงโต้ตอบอย่างไม่รู้ตัว ซูเจ๋อหยุดชะงักไปในทันใด เขาพูดขึ้นด้วยเสียงที่แหบพร่าว่า : "อาเสียน นี่ท่านกำลังต่อต้านข้า หรือกำลังยั่วข้ากันแน่?"
เฉินเสียนอึ้งไปชั่วขณะ
เพียงชั่วอึดใจ ซูเจ๋อก็พลิกตัวขึ้นมาคร่อมอยู่บนร่างกายของเธอ
จากนั้นเขาก็เริ่มรุกอย่างรุนแรง ขาของเธอถูกอ้ากว้าง และเขาก็ได้สอดใส่เข้ามา ฝังลึกเข้ามาในร่างกายเธอ
ทันใดนั้นเอง ร่างกายของเฉินเสียนที่ถูกสอดใส่จนเต็มแน่น สติของเธอก็เดือดดาลจนแทบจะหลุดลอย ในหัวของเธอขาวโพลนหมด
ซูเจ๋อโน้มศีรษะลงมาจูบเธอ แล้วค่อยๆ ขยับไปยังต้นคอและเนินอก เธอที่ค่อยๆ ได้สติกลับคืนมา จึงได้เอื้อมมือไปโอบรอบคอของเขาไว้ กอดรัดเขาแนบแน่นสุดแรง
ซูเจ๋อเริ่มขยับเข้าออกเป็นจังหวะ
เฉินเสียนเม้มปากร้องครางด้วยน้ำเสียงที่สั่นเทา ราวกับกำลังออดอ้อนก็ไม่ปาน เธอขบกรามแน่นพร้อมกับพูดขึ้นว่า : "แน่นจัง......"
หลายเดือนแล้วที่เธอไม่ได้ทำแบบนี้กับเขาเลย ในขณะที่เธอรู้สึกว่าแน่นนั้น ซูเจ๋อเองก็รู้สึกคับแน่นเสียยิ่งกว่า
คิ้วที่เรียวยาวของซูเจ๋อขมวดเล็กน้อย เขาสอดเข้าไปจนสุด แล้วจึงพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เย้ายวนว่า : "เป็นท่านเองไม่ใช่หรือ ที่บอกว่าข้านั้นแรงดีฝีมือไม่ธรรมดา ทั้งอึดและนาน ทักษะเรื่องบนเตียงเยี่ยมยอด ข้าคิดว่าท่านจะรับมือได้เป็นอย่างดีเสียอีก หืม?"
เฉินเสียนชะงักไป ใบหน้าของเธอร้อนผ่าวขึ้นมาทันที : "ใครบอกท่านกัน......ตอนนั้นข้าก็แค่แกล้งพูดยัวะองค์ชายหกไปก็เท่านั้นเอง......"
ซูเจ๋อเบียดเข้ามาจบสุด บดขยี้เธออย่างเต็มแรง พร้อมกับถามขึ้นว่า : "งั้นที่ท่านพูดมาก็เป็นเรื่องเท็จหรอกหรือ?"
เฉินเสียนเนื้อตัวสั่นเทาไปหมด มือทั้งคู่ของเธอโอบกอดแผ่นหลังของเขาแนบแน่น ราวกับว่ามองเห็นพลุไปที่สวยสดงดงามอีกครั้ง ความสุขอันเปี่ยมล้น ที่ทำให้เธอทั้งสุขใจและอยากร้องไห้ไปในเวลาเดียวกัน เธอเปรียบเสมือนดอกโบตั๋น ที่กำลังเบ่งบานภายใต้ร่างกายของซูเจ๋อ
ซูเจ๋อชอบที่จะเห็นสีหน้าท่าทางแบบนี้ของเธอเป็นที่สุด เขาพูดขึ้นต่อว่า : "หากว่าเป็นเรื่องเท็จ งั้นข้าก็ควรจะพิสูจน์ให้ท่านได้เห็นใช่หรือเปล่า ท่านจะได้กระจ่างแจ้งชัดเจน และจะได้ไม่ต้องเข้าใจผิดอีก"
พูดจบ เขาก็รวบเอวของเฉินเสียน แล้วกระหน่ำจู่โจมอย่างไม่ยั้งมือ
"ซูเจ๋อ......" เฉินเสียนร้องครางชื่อของเขา เธอรู้สึกว่าเพียงแค่กอดเขาไว้แบบนี้ รับรู้ถึงการมีตัวตนของเขา ก็รู้สึกว่ามันเป็นความสุขที่ไม่มีอะไรมาเปรียบเทียบได้อีกแล้ว แต่ถึงกระนั้น เขาเองไม่ยอมที่จะผ่อนแรงลงเลยแม้แต่นิดเดียว ตอนแรกที่รู้สึกแน่นจนเป็นกังวล มาตอนนี้กลับปวดระบมไปหมด เธอจึงรีบยอมรับแต่โดยดี : "เป็นเรื่องจริง......เรื่องจริงที่สุด......"
เฉินเสียนพูดขึ้นด้วยความสะลึมสะลือว่า : "ไม่ได้ การว่าราชการยามเช้าของข้าสายแล้ว ข้าตื่นสายมากแล้ว......"
ซูเจ๋อรวบตัวเธอเข้ามาในอ้อมกอดของเขา แล้วพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่งัวเงียว่า : "หากข้าจำไม่ผิด วันนี้คือวันหยุดราชการ"
เฉินเสียนนิ่งไปชั่วขณะ ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็ได้นอนลงในอ้อมกอดของเขาอย่างผ่อนคลาย พร้อมกับพูดขึ้นว่า : "ข้าลืมไปเสียสนิท"
นอนอยู่ครู่หนึ่ง เฉินเสียนจู่ๆ ก็รู้สึกทำตัวไม่ถูกขึ้นมา ความอุ่นของร่างกายของซูเจ๋อทำเอาใบหน้าของเธอแดงก่ำขึ้นมา เธอซุกใบหน้าเข้าหาอ้อมกอดของเขา พร้อมกับพูดขึ้นว่า : "เราควรจะตื่นนอนแล้วหรือเปล่า? ข้าเห็นด้านนอกนั่นสว่างมากแล้ว"
อีกอย่างตอนนี้ร่างกายของเธอนั้นเปลือยเปล่าไม่ได้สวมเสื้อผ้าอะไรเลย ภาพเหตุการณ์เมื่อคืนนี้ค่อยๆ ฉายซ้ำขึ้นมาในหัวของเธอ เธอจึงนอนตัวแข็งทื่อ ไม่กล้าขยับเลยแม้แต่นิดเดียว
ซูเจ๋อโอบกอดแผ่นหลังของเธอด้วยความนุ่มนวลและอ่อนโยนอย่างที่สุด แต่ก็ไม่อาจจะทำให้เธอรู้สึกผ่อนคลายลงบ้างเลย
ตรงหว่างขาของเธอค่อนข้างเหนอะหนะ เธอจึงพูดต่อว่า : "ตื่นนอนได้แล้ว"
"ขอนอนกอดอีกเดี๋ยว"
เฉินเสียนรู้ดีว่าหากนอนกอดกันแบบนี้ต่อ ผ่านไปทั้งเที่ยงก็คงจะยังไม่ได้ลุกออกจากเตียงอย่างแน่นอน เธอจึงหมุนตัวจะลุกขึ้น แต่จู่ๆ ซูเจ๋อก็ลืมตาขึ้นมา เขาหรี่ตาลงแล้วจ้องมองเธอ แววตาของเขานั้นลุ่มลึกจนไม่อาจจะคาดเดา เขาพูดขึ้นว่า : "ตื่นเช้ามาต้องห้ามขยับเป็นอันขาด ข้าคิดว่าท่านเคยผ่านมันมาแล้ว ก็คงจะมีประสบการณ์"
เฉินเสียนอึ้งไปชั่วขณะ พริบตาเดียว ซูเจ๋อก็ได้พลิกตัวขึ้นคร่อมบนร่างกายของเธอเป็นที่เรียบร้อย
เฉินเสียนที่ไม่ทันได้ตั้งตัว เธอที่ในตอนแรกตั้งใจจะรีบหุบขาของเขา แต่สายไปเสียแล้ว ซูเจ๋อได้อ้าขาของเธอออก และสอดใส่เข้ามาในร่างกายของเธอทันที
ความลื่นและความเปียกชุ่มของเมื่อค่ำคืนที่ผ่านมายังคงอยู่ ดังนั้นเขาจึงสอดใส่เข้าไปอย่างง่ายดายโดยที่ไม่ต้องเปลืองแรงเลยแม้แต่นิดเดียว
#มีหลายคนสอบถามมาว่าใกล้จบรึยัง
ใกล้จบแล้วค่ะ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือหงส์พันปี
ชอบมากเรื่องนี้...