เมื่อเฉินเสียนกลับมา ก็เห็นว่าจานบนทางเดินนั้นแกะออกจากกระดองปูทั้งหมด เห็นได้ชัดว่าซูเซี่ยนไม่สามารถแกะมันเองอย่างเรียบร้อยได้ แค่ดูก็รู้ว่าคือซูเจ๋อที่เป็นคนแกะ
ซูเซี่ยนดูเหมือนจะอิ่มมาก
ซูเจ๋อกำลังจะจากไป ปัดที่มุมเสื้อผ้าของเขาแล้วลุกขึ้น แล้วเดินกลางแดด เดินโซเซไปด้านข้างของเฉินเสียน เฉินเสียนยังคงก้มหน้าก้มตาไม่มองเขา
ไม่นาน ก็มีนางกำนัลที่ได้รับคำสั่งจากเขาให้มาเก็บทำความสะอาดที่บริเวณระเบียง
เฉินเสียนเข้ามาและนั่งลงข้างซูเซี่ยน มองดูเขาแล้วพูดว่า "ปูอร่อยไหม?"
ซูเซี่ยนพูดเบาๆ "เสด็จพ่อแกะให้อร่อยมากพ่ะย่ะค่ะ"
เฉินเสียนไม่รู้ว่าในใจเป็นอย่างไร และก็ยิ้มให้กับตัวเองแล้วพูดว่า "ต่อไปยังอยากกิน และแม่ก็แกะให้เจ้าได้นะ ไม่กี่ปีที่ผ่านมา ก็ไม่เหมือนกันหรือ?"
ซูเซี่ยนไม่ได้พูดอะไร
เฉินเสียนยื่นมือออกมากอดเขาไว้ในอ้อมแขน ใช้นิ้วลูบแก้มเล็กๆ ของเขา หยุดสักครู่แล้วกล่าวว่า "ทำไมตาถึงแดงอย่างนี้ ร้องไห้หรือเปล่า? เขาทำให้ลูกร้องไห้หรือเปล่า?"
ซูเซี่ยนกอดในอ้อมแขนของแม่ของเขา และพูดว่า "เปล่าพ่ะย่ะค่ะ เมื่อครู่แค่ดื่มชาขิงไอมันเข้าตา ก็รู้สึกแสบนิดหน่อย"
เฉินเสียนกล่าวว่า "เนื้อปูเย็น เจ้ายังเล็ก ต่อไปอย่ากินเยอะแบบนี้"
ซูเซี่ยนถาม "เสด็จแม่ ทำไมท่านถึงไม่ถามว่า ลูกกับเสด็จพ่อคุยเรื่องอะไรกันบ้าง"
เฉินเสียนกล่าวอย่างอ่อนโยนว่า "นั้นเป็นเรื่องระหว่างเจ้ากับเสด็จพ่อของเจ้า แม่ยอมให้เจ้ามีความลับเล็กไว้"
"เขาอยากพบท่าน"
ซูเซี่ยนยังกล่าวต่อว่า "วันนี้ยามตะวันลอน เสด็จพ่อบอกว่าจะรอเสด็จแม่ที่ลานโรงละคร ไม่พบไม่เลิกรา"
ผ่านไปนาน เฉินเสียนกล่าวเบาๆ ว่า "เจ้าคิดว่าแม่จะไปไหม?"
"ลูกรู้ว่าท่านจะไม่ไป ลูกแค่ถ่ายทอดตามคำเดิมออกมา"
ในตอนบ่าย เฉินเสียนไม่ได้ออกจากห้องไปแม้แต่ครึ่งก้าว นางเอนกายลงบนเตียงริมหน้าต่าง มองออกไปนอกหน้าต่าง เงาจากดวงอาทิตย์ค่อยๆ เอียง
เดิมทีนางวางแผนจะออกเดินทางแต่เช้าตรู่ของวันนี้ แต่มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นชั่วคราว และอยู่ไม่กี่วันก่อนจะจากไป นางไม่อยากไปไหนและไม่อยากเจอใคร
จู่ๆ ก็รู้สึกว่าชีวิตน่าเบื่อจริงๆ มันเหมือนกับตอนนี้นางกำลังนั่งอยู่หน้าหน้าต่างบนเรือนี้ รู้สึกเบื่อหน่ายเสียเวลาไปเปล่าๆ
เฉินเสียนรู้สึกเสียใจจริงๆ ที่มาที่นี่ ได้เจอซูเจ๋อแล้ว นางไม่อยากเจอแล้ว
หากไม่พบเห็น ก็ไม่จำเป็นต้องได้ยินสิ่งที่เอากล่าวพวกนั้น นางยังสามารถทำได้เพียงหลอกตัวเอง ว่าข้างกายเขาจะต้องไม่มีคนอื่น นางยังคงคิดถึงเขาทุกวัน ถึงแม้จะไม่ได้เจอหน้ากันแต่นางก็พอใจที่รู้ว่าเขาสบายดี
เมื่อได้ยินซูเซี่ยนถามนางด้วยน้ำเสียงที่จริงจังเช่นนั้น เฉินเสียนก็รู้สึกว่าถูกเขาแกล้งให้ทำให้ขบขัน นางหันหน้ามองซูเซี่ยนด้วยหางตาสีแดงและยิ้ม "เจ้ารู้อะไร?"
ซูเซี่ยนเม้มปาก เพิ่งต้องการจะพูด แต่เห็นว่าเฉินเสียนในดวงตามีน้ำตา
เฉินเสียนกล่าวกับเขาว่า "มีเรื่องราวบางเรื่องที่สิ้นเปลืองกำลังมาก เพราะจะเอาความคิดและกำลังกายทั้งหมดวางไว้ในกระบวนการที่ยาวนานนี้ หลังจากเมื่อมีการยกเลิก ก็จะรู้สึกเหนื่อยล้าหมดแรง ผลลัพธ์ก็มีความโหดร้ายมากขึ้น สุดท้ายไม่มีแรงไปต่อสู้แล้ว หรือว่าถนนที่เดินผ่านไปแล้ว ยังสามารถกลับจุดเริ่มต้นอีกครั้งได้? อาเซี่ยน อะไรที่ผ่านไปแล้วจะย้อนกลับเป็นเหมือนเดิมไม่ได้หรอก แม่จะเห็นแก่ตัว แล้วไปทำให้ชีวิตพ่อเจ้าเกิดความโกลาหลชีวิตอีกครั้งไม่ได้"
คำพูดเหล่านี้ได้พูดกับซูเซี่ยนออกมา เฉินเสียนจู่ๆ ก็รู้สึกผ่อนคลายไปแล้วเล็กน้อย
นางเม้มริมฝีปากแล้วกล่าวว่า "ความตั้งใจเดิมของแม่ไม่ควรจะมีการเปลี่ยนแปลงไปเพียงแค่ได้เห็นหน้าเขาในครั้งนี้ เพียงแค่สับสนกับเขามาตลอดสองวันที่ผ่านมา ก็กลายเป็นไม่รู้โดยสิ้นเชิงทั้งยังมีจิตใจที่คับแคบ และช่วงบ่ายทำให้แม่มีเวลาคิดทบทวน แต่ก็สามารถทำให้คิดได้"
ซูเซี่ยนมองไปที่รอยยิ้มจากริมฝีปากเฉินเสียนที่ฝืนยิ้มแสร้งสงบ แต่มันเป็นเรื่องธรรมชาติ ที่เขามีความหวาดกลัวเล็กน้อย กล่าวว่า "คิดอะไรได้พ่ะย่ะค่ะ?"
เฉินเสียนกล่าวเบาๆ ว่า "คิดถึงที่ผ่านมา เขาทำเพื่อเราสองคน ไม่มีสักวันที่จะทำเพื่อตัวเอาเอง ต่อไปหากเขาสามารถมีชีวิตเพื่อเขาเอง หากสามารถมีความสุขที่สมบูรณ์แบบ ถึงแม้เขาลืมแม่แล้วก็ไม่เป็นไร ชาตินี้ไม่อาจจะอยู่ด้วยกันได้ก็ไม่เป็นไร คนอย่างเขาคุ้มค่าแล้วที่พระเจ้าโปรดปราน"
แสงสายัณห์ที่หน้าหน้าต่างก็ค่อยๆ มืดลง เฉินเสียนมองดูเงาจางๆ ในชานเรือน และตกอยู่ในความทรงจำ โดยกล่าวว่า "ปีที่แล้วเขาได้คุกเข่าท่ามกลางสายฝนกับแม่ แม่อยู่ในความงุนงงคิดว่าเราต่อไปจะเป็นนิรันดร์ แต่สุดท้าย แม่ก็เห็นเขาล้มลงในอ้อมแขนของแม่ด้วยตาของตัวเอง นั้นเป็นรสชาติอย่างไงล่ะ?"
เฉินเสียนก้มหน้าลงและยกนิ้วขึ้นและกระซิบเบาๆ ว่า "นั้นคือความเสียใจที่ได้กระทำผิด เสียใจที่ได้เข้ามาในชีวิตเขาอีกครั้ง เสียใจที่นางเข้าไปพัวพันกับเขา"
นับๆ ไปก็สับสนแล้ว เฉินเสียนยิ้มอีกครั้ง และน้ำตาในดวงตาของนางได้ไหลลงมา นางพูดกับซูเซี่ยนว่า "เจ้าเห็นไหม แม่นับก็นับไม่ไหว เพราะแม่ เขาถึงได้รับบาดเจ็บมากมายเช่นนี้ในชีวิตของเขา ครั้งหนึ่ง แม่สัมผัสได้ถึงแผ่นหลังของเขา เต็มไปด้วยบาดแผล ถ้ายังมีครั้งต่อไป ความคิดที่จะข้าตัวเองแม่ก็มีมาแล้ว"
เฉินเสียนลุกขึ้น ร่างกายแข็งทื่อเล็กน้อย ขยับกระดูกนิดหน่อย แล้วลูบผมของซูเซี่ยน แล้วยิ้มอีกครั้ง กล่าวว่า "ดังนั้น ความตั้งใจดั้งเดิมของแม่คือ เพียงแค่เขามีความสุข ก็จะไม่ขออะไรอีกแล้วใช่ไหม? แล้วยังจะหาเรื่องให้ตัวเองทำไม หากเจ้ากังวลว่าต่อไปจะไม่มีความรักจากพ่อเจ้า ต่อไปแม่จะเอาความรักส่วนของพ่อเจ้ามาเพิ่มไว้ด้วยกัน และจะรักเจ้าเพิ่มมากขึ้นไปอีก"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้าคือหงส์พันปี
ชอบมากเรื่องนี้...