"ผมเป็นคนไล่เขาออกเอง"
เซี่ยเชียนเกอเงยหน้ามองฝู้อวี้สิงอย่างประหลาดใจ "ที่รัก เมื่อกี้พูดว่ายังไงนะ? เขาเป็นคนสนิทคนสำคัญที่คุณไว้ใจไม่ใช่หรอ?"
"เธอสำคัญกว่า"
เซี่ยเชียนเกออึ้งเมื่อได้ยินสิ่งที่ฝู้อวี้สิงพูด
เมื่อกี้ฝู้อวี้สิงพูดว่า คนสนิทคนสำคัญของเขาไม่สำคัญเท่าเซี่ยเชียนเกอ
เซี่ยเชียนเกอกอดคอของฝู้อวี้สิงไว้อย่างดีอกดีใจ แล้วหอมแก้มเขาหลายที ก่อนพูดว่า "ที่รัก คุณดีกับฉันจังเลย วันนี้ฉันหลอกเงินจากเขามาได้หนึ่งร้อยล้าน ไว้เลิกเรียนตอนเย็น ฉันเอาเงินนั้นไปซื้อของขวัญให้คุณดีไหม?"
ฝู้อวี้สิงที่กำลังถูกเซี่ยเชียนเกอหอมอยู่รู้สึกเขินอายไม่เป็นตัวเอง เขาปิดแฟ้มเอกสารในมือ แล้วพูดว่า "ป้อนข้าวผมหน่อย"
"นี่มันกี่โมงแล้ว ทำไมคุณยังไม่กินข้าวอีก?"
เซี่ยเชียนเกอหันไปมองกล่องข้าวที่วางอยู่ใกล้ๆ ก่อนลุกออกจากอ้อมอกของฝู้อวี้สิง แล้วไปหยิบกล่องข้าวมาเปิดดู เธอมองอาหารกลางวันที่ดูน่ากิน และหยิบช้อนขึ้นมาตักชิมทีละอย่าง แล้วจึงให้ฝู้อวี้สิงกิน
เพราะถ้ามีใครต้องตาย เธอก็ต้องเป็นคนที่ตายก่อน
เซี่ยเชียนเกอป้อนข้าวฝู้อวี้สิงพลางพูดกับเขาว่า "ที่รัก ตอนนี้สุขภาพร่างกายของแกแย่มากเลย เพราะฉะนั้น คุณต้องกินอาหารให้ตรงเวลา ไม่อย่างนั้น ถ้าคุณหิว ฉันจะเป็นห่วงมาก"
เป็นห่วง?
เหมือนว่าฝู้อวี้สิงไม่เคยได้รับความรู้สึกแบบนี้มาก่อน ความรู้สึกที่มีคนคอยเป็นห่วง มันเป็นแบบนี้เองสินะ?
ฝู้อวี้สิงรู้สึกเศร้าใจ
เซี่ยเชียนเกอหยิบกระดาษทิชชู่ขึ้นมา แล้วเช็ดปากให้ฝู้อวี้สิง "ยาที่ฉันให้คุณ ได้พกมาด้วยรึเปล่า?"
"อื้ม"
"งั้นเดี๋ยวคุณกินข้าวเสร็จแล้ว อย่าลืมกินยาล่ะ"
ฝู้อวี้สิงไม่ได้ตอบอะไร เขากับเซี่ยเชียนเกออยู่ด้วยกันอย่างเงียบๆ
หลังกินข้าวเรียบร้อยแล้ว เซี่ยเชียนเกอก็เอายาให้ฝู้อวี้สิงกิน แล้วตามด้วยการฝังเข็ม เซี่ยเชียนเกอนั่งอยู่บนโซฟา คอยอยู่เป็นเพื่อนฝู้อวี้สิง
แสงแดดที่สาดส่องเข้ามาผ่านทางหน้าต่าง กระทบอยู่บนตัวของเซี่ยเชียนเกอและฝู้อวี้สิง ทำให้เงาของทั้งคู่สะท้อนติดกันอยู่
ณ วินาทีนี้ ทุกอย่างสงบสุขมาก
พอถึงเวลาบ่ายสามโมง เนื่องจากฝู้อวี้สิงยังมีงานที่ต้องสะสางอยู่มาก เย่หยิ่งจึงเข้ามารับฝู้อวี้สิงทันที หลังจากที่เซี่ยเชียนเกอฝังเข็มให้ฝู้อวี้สิงเสร็จ
ก่อนฝู้อวี้สิงออกไป เซี่ยเชียนเกอบอกกับเขาว่า คืนนี้เธออาจกลับดึกหน่อย เพราะจะไปเลือกซื้อของขวัญให้เขา ฝู้อวี้สิงไม่ได้ตอบปฏิเสธ และไม่ได้พูดอะไรด้วย แต่เซี่ยเชียนเกอก็ถือว่าเขาตอบตกลง
พอกลับมาที่ห้องเรียน เซี่ยเชียนเกอก็ได้รับแจ้งว่า สัปดาห์หน้าจะมีการจำลองการสอบ
ในหัวของเซี่ยเชียนเกอมีเสียง "ตู๊ม" ดังขึ้น จนหัวไหม้
การจำลองการสอบ?
แม้ว่าเธอจะได้รับความทรงจำของเจ้าของร่างเดิมก็จริง แต่ว่า มีอะไรที่เกี่ยวกับการแพทย์ของโลกนี้อีกมากมายที่เธอเองก็ยังไม่เคยรู้หรือเคยเห็นมาก่อน แล้วถ้าต้องมาทำการทดสอบจริงๆ นักเรียนที่ได้ท็อปตลอด ก็อาจกลายเป็นที่โหล่ก็ได้
และยังเป็นที่โหล่ของมหาวิทยาลัยด้วย
เซี่ยเชียนเกอมั่นใจมาก ว่าเธอจะต้องได้เป็นที่โหล่นั้นแน่
เซี่ยเชียนเกอกุมหัวเอาไว้ แล้วพยายามคิดเรื่องที่จะทำให้เธอยังคงเป็นท็อปหนึ่งให้ได้ แต่คิดอยู่นาน ก็ยังคิดไม่ออก
จบกัน เธอชักกระวนกระวายแล้วสิ
เซี่ยเชียนเกอคิดว่า ยังไงก็ควรรีบเรียนรู้การรักษาที่ใช้ในโลกนี้ให้ไวที่สุด
ชั่วโมงเรียนในช่วงบ่าย เซี่ยเชียนเกอตั้งใจเรียนมาก ถึงเธอเองจะฟังไม่เข้าใจเลยแม้แต่คำเดียว แต่ก็ยังตั้งใจมากอยู่ จนทำให้อาจารย์เรียกชื่อให้ตอบคำถามอยู่ตลอด ผลก็คือทุกอย่างที่เธอตอบกลับเป็นการใช้ความรู้จากแพทย์แผนจีนทั้งนั้น ทำให้อาจารย์งงไปด้วยเลย
เวลาผ่านไปไวเหมือนกะพริบตา ตอนนี้ก็เป็นเวลาห้าโมงเย็นแล้ว
เซี่ยเชียนเกอเก็บของให้เรียบร้อย แล้วเตรียมตัวไปซื้อของขวัญให้ฝู้อวี้สิง และในเวลานี้เอง ที่นอกประตูก็มีเสียงตะโกนดังมา "เซี่ยเชียนเกอ ผู้อำนวยการ เรียกพบ"
เซี่ยเชียนเกอ "..."
ผู้อำนวยการนี่ก็แปลก วันๆ ไม่มีอะไรให้ทำแล้วหรือไง วันนี้เรียกพบเธอเป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วนะ?
คนอื่นที่ไม่รู้ ก็คงคิดว่าเขาชอบเธอแน่เลย!
เซี่ยเชียนเกอปวดหัวจนต้องกุมขมับ ก่อนเดินไปที่ห้องทำงานของผู้อำนวยการ อย่างฝืนใจ แล้วก็ได้เห็นรอยยิ้มที่คุ้นเคยและน่าเกลียดอีกครั้ง เซี่ยเชียนเกอจึงพูดอย่างเย็นชาว่า "เรียกหนูมามีเรื่องอะไร ถ้าไม่มีเรื่องอะไร อย่าหาว่าหนูไม่เคารพผู้ใหญ่นะ"
ดูที่นักศึกษาคนนี้พูดเข้า พูดซะเขารู้สึกกลัวขึ้นมาเลย
ผู้อำนวยการหยิบผ้าเช็ดหน้าจากในกระเป๋าออกมาเช็ดเหงื่อที่หน้าผาก
"คุณเซี่ย ท่านเก้าให้ฉันส่งเธอกลับบ้าน"
ฝู้อวี้สิงสั่งงั้นหรอ?
ในเมื่อเป็นคำสั่งของฝู้อวี้สิง งั้นครั้งนี้เธอก็จะปล่อยไปก่อนแล้วกัน
"ตอนนี้ฉันจะไปซื้อของขวัญให้ฝู้อวี้สิง คุณส่งฉันไปล่ะกัน"
"ได้ ได้เลย แล้ว คุณเซี่ยอยากไปที่ไหนล่ะ?"
เซี่ยเชียนเกอคิดแล้วตอบว่า "มีที่ไหนขายเสือบ้างไหม?"
ผู้อำนวยการ "..."
เซี่ยเชียนเกอกระโดดลงจากรถ เย่หยิ่งเห็นพนักงานหลายคนกำลังช่วยกันขนกรงเหล็กลงมา ก็เลยถามว่า "คุณนายกรงเหล็กพวกนี้มีอะไรอยู่ข้างในหรอ?"
"พวกนี้หรอ เป็นของขวัญที่ฉันตั้งใจซื้อมาให้ฝู้อวี้สิงน่ะ จ่ายไปแพงมากเหมือนกัน เย่หยิ่ง ไปช่วยพวกเขาขนด้วยสิ"
"ครับ"
เย่หยิ่งกับพนักงานอีกสี่คนช่วยกันยกกรงเหล็กขนาดใหญ่เข้าไปในบ้านพัก ฝู้อวี้สิงได้ยินเหมือนกำลังมีใครทำอะไร แต่ยังไม่ทันได้รู้ เซี่ยเชียนเกอก็กระโจนกอดเขาเข้ามา
"ที่รัก ฉันกลับมาแล้ว"
ฝู้อวี้สิงถอนหายใจเบาๆ เมื่อสัมผัสได้ถึงไออุ่นจากร่างของเซี่ยเชียนเกอ "ทำไมดึกป่านนี้เพิ่งกลับ?"
"ไอ้พวกนี้ฉันหามันอยู่นานมาก ดีที่ทุกอย่างที่ฉันต้องการ ฉันก็หามาได้หมดเลย แต่มันก็แอบแพงอยู่นะ แต่ก็ไม่เป็นไร ขอเพียงที่รักชอบ ต่อให้แพงแค่ไหนมันก็คุ้มค่า"
"มันคืออะไร?"
แม้ว่าตอนนี้ฝู้อวี้สิงจะมองไม่เห็น แต่เขาเองก็อยากรู้มากเหมือนกัน ว่าของขวัญที่เซี่ยเชียนเกอมอบให้จะเป็นอะไร
"คือสัตว์เลี้ยง"
สัตว์เลี้ยง?
"โห ที่บ้านนี้คึกคักจังเลยนะ ภรรยาของอวี้สิง ดึกดื่นป่านนี้แล้วยังจะทำอะไรอีก?"
เซี่ยเชียนเกอที่ตั้งใจจะให้ฝู้อวี้สิงเป็นคนเปิดผ้าดำที่คลุมกรงเหล็กไว้ด้วยตัวเอง แม้ว่าเขาจะมองไม่เห็น อย่างไรเธอเองก็อยากให้เขาได้สัมผัสถึงความรู้สึกนั้นเอง แต่ฝู้อวี้สิงยังไม่ทันได้เปิด แม่ฝู้ก็เดินเข้ามาจากที่นอกประตู และไม่ได้มาแค่คนเดียว ยังมีชายชรามาด้วยอีกคน
ชายชราคนนั้น ก็คงเป็นปู่ของฝู้อวี้สิงสินะ
ดึกขนาดนี้แล้ว แม่ฝู้พาคุณท่านมาที่นี่ คงเป็นเพราะเรื่องที่เซี่ยเชียนเกอไปทำร้ายฝู้เฉิงหยุนแน่ๆ กลางวันของวันนี้ เซี่ยเชียนเกอจัดการสั่งสอนพวกคนที่เคยรังแกเจ้าของร่างเดิม และตอนกลางคืนก็ต้องมาจัดการแม่ของฝู้อวี้สิงต่อ
เซี่ยเชียนเกอฉุกคิดขึ้นได้ว่า เหมือนตัวเองเป็นตัวปัญหาเลย
ชอบทำให้ฝู้อวี้สิงมีปัญหาอยู่เรื่อย ต่อไป ถ้าจะลงมือกับใครก็คงต้องใจเย็นกว่านี้แล้ว ไม่อย่างนั้น อาจทำให้ฝู้อวี้สิงลำบากได้
หลังจากที่แม่ฝู้กับคุณท่านเดินเข้ามาแล้ว เซี่ยเชียนเกอก็รีบลุกออกจากอ้อมกอดของฝู้อวี้สิง แล้วทักทาย คุณท่านฝู้กับแม่ฝู้อย่างเรียบร้อย "คุณปู่ แม่ ดึกขนาดนี้แล้ว พวกท่านมาได้ยังไงคะ?"
แม่ฝู้พูดตอบอย่างเสียดสีว่า "ที่นี่เป็นบ้านพักของลูกชายฉัน ฉันกับคุณพ่ออยากมาเมื่อไหร่ก็ย่อมได้ หรือว่า การที่ฉันกับคุณท่านมาที่นี่ ไปขัดขวางการกลั่นแกล้งอวี้สิงของเธอ? ก็เลยหงุดหงิดอยากไล่พวกเรากลับงั้นเหรอ?"
เซี่ยเชียนเกอไม่เคยคิดแบบนั้นเลย
"แม่ ฉันไม่เคยคิดแบบนั้นเลย ฉันแค่คิดว่า ดึกขนาดนี้แล้ว แม่พาคุณปู่ออกมาแบบนี้ มันจะรบกวนเวลาพักผ่อนคุณปู่ก็เท่านั้น"
ตั้งแต่คุณท่านฝู้เดินเข้าบ้านมา ก็แอบสังเกตเซี่ยเชียนเกออยู่ตลอด เด็กสาวคนนี้ก็ไม่เหมือนอย่างที่ลูกสะใภ้บอกเลยว่าเป็นคนเจ้าเล่ห์
แต่กลับดูมีมารยาทมากเสียอีก
อีกอย่าง ตอนที่เขาเดินเข้ามา ก็เหมือนเห็นว่า เซี่ยเชียนเกอกับฝู้อวี้สิงกอดกันอยู่ หลายปีมานี้ อวี้สิง...
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้ามมิติมาหารัก
เมื่อไหร่จะอัพ ตอนต่อไป....รออ่านอยู่น้าาาาาาา...