“พวกแกกล้ามาก ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ ไม่อย่างนั้นฉันจะแจ้งตำรวจ!” เจียงหลายก้าวถอยหลังด้วยความหวาดกลัว
“แจ้งตำรวจ?”
หลิ่วชิงหัวเราะเยาะและกล่าวว่า “เธอคิดว่าเธอแจ้งตำรวจตอนนี้ไปจะมีประโยชน์รึ”
ว่าแล้วหลิ่วชิงจึงขยิบตาให้ผู้จัดการหนี่ ผู้จัดการหนี่เข้าใจในทันที ดังนั้นเขาจึงมองเจียงหลายและบอกว่า “คุณชายหลิ่วพูดถูก ในเมื่อเธอไม่ทำงานนี้แล้วก็ถอดชุดที่ใส่อยู่ออกซะ”
เจียงหลายยกมือขึ้นมากุมคอเสื้อไว้และบอกว่า “ฉันจะกลับไปเปลี่ยนที่ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า”
“นั่นฉันไม่สน ในเมื่อเธอบอกว่าจะไม่ทำก็ต้องถอดตอนนี้ ใครจะรอเธอไปเปลี่ยนที่ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าได้ฮึ” ผู้จัดการหนี่กล่าวอย่างเยาะเย้ย
ผู้จัดการหนี่รู้ว่าหลิ่วชิงรู้จักกับเจ้านายของเขา หากเขาทำให้หลิ่วชิงพอใจ บางทีเขาอาจจะเลื่อนตำแหน่งเพิ่มเงินเดือนก็ได้ เด็กสาวอย่างเจียงหลายเลือกมาทำงานเป็นพนักงานเสิร์ฟแบบนี้ ทางบ้านจะมีฝีมืออะไรนักเชียว นอกจากนี้เขายังไม่ใช่คนที่คิดจะรังแกก็รังแกได้ด้วย
ตอนนี้เองที่เจียงหลายเพิ่งจะเข้าใจอะไรๆ ชัดเจน คนพวกนี้คิดจะให้เธอถอดเสื้อผ้าจนหมดจริงๆ ถึงตอนนั้นเธอจะต้องลำบากแน่นอน
คิดได้ดังนั้นเจียงหลายจึงก้าวถอยไปทีละก้าว แต่ผู้จัดการหนี่ส่งสายตาให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยทันที จากนั้นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยสองคนจึงรีบก้าวเข้ามาคว้าแขนของเจียงหลายไว้
“พวกแกจะทำอะไร ปล่อยฉันนะ ฉันบอกให้ปล่อย!” เจียงหลายดิ้นรนสุดกำลัง
แต่ถึงอย่างไรเธอก็เป็นเพียงผู้หญิงคนหนึ่ง จะดิ้นรนให้หลุดจากการเกาะกุมของผู้ชายสองคนได้อย่างไร ผู้จัดการหนี่ถูฝ่ามือพลางก้าวไปข้างหน้า เขาเอ่ยว่า “สาวน้อย อย่ามาโทษฉันล่ะ เตือนดีๆ แล้วไม่ฟัง ต้องให้บังคับกันแบบนี้”
ว่าแล้วผู้จัดการหนี่จึงบอกกับหลิ่วชิงว่า “คุณชายหลิ่ว คุณมาจัดการเถอะครับ”
หลิ่วชิงได้ยินดังนั้นจึงลุกขึ้นยืนและเดินมาตรงหน้าเจียงหลาย เขายื่นมือมาบีบหน้าของเธอและเอ่ยว่า “แม่ตัวดี กล้าตบฉัน มาดูกันสิว่าคืนนี้ฉันจะทรมานเธอยังไง”
หลิ่วชิงว่าแล้วจึงเลื่อนมือไปที่แก้มของเจียงหลาย ลูบลงมาตามลำคอขาวนวลและเลื่อนลงมาเรื่อยๆ
ชั่วขณะนั้นเจียงหลายนึกเสียใจขึ้นมาและคิดว่าตัวเองไม่ควรมาทำงานในที่แบบนี้เลย ที่นี่ซับซ้อนกว่าที่เธอคิดไว้มาก
ในเวลานี้เจียงหลายคิดถึงพี่ชายของเธอมากจริงๆ ถ้าพี่ชายของเธอยังมีชีวิตอยู่ เขาจะต้องปกป้องเธอและไม่มีทางปล่อยให้เธอมาทำงานในสถานที่แบบนี้แน่นอน
ขณะที่เจียงหลายกำลังหวาดกลัวเกินกว่าจะลืมตา อยู่ๆ เธอก็ได้ยินน้ำเสียงที่เยียบเย็นดังขึ้นมาว่า “แกไม่อยากจะมีมือแล้วสินะ”
เขากำลังปลดชุดบริเวณหน้าอกของเจียงหลายและสัมผัสถึงความนุ่มนวล แต่อยู่ๆ ก็ได้ยินน้ำเสียงที่เยียบเย็นดังขึ้นมา เสียงนั้นเยียบเย็นไปถึงขั้วกระดูก
หลิ่วชิงตกใจจนมือสั่นและหันไปมองทางประตูห้องพิเศษทันที จากนั้นจึงเห็นว่าเจียงเฉิงกำลังจ้องมองเข้าด้วยสายตาที่เย็นเยียบ
“ไอ้สารเลว แกรู้ไหมว่าฉันเป็นใคร” หลิ่วชิงรู้สึกเหมือนกระดูกมือของเขากำลังแหลกเป็นเสี่ยงๆ และรีบตวาดใส่เจียงเฉิง
“ไม่บอกเหรอ งั้นฉันคงต้องทำแบบเดียวกันกับมือทั้งสองข้าง”
ทันทีที่สิ้นเสียง เจียงเฉิงก็คว้าแขนของหลิ่วชิงไว้ด้วยมือทั้งสองข้าง เมื่อเสียง ‘กร็อบ’ ดังขึ้นสองครั้ง แขนทั้งสองข้างของหลิ่วชิงก็ถูกหักทันที
ทันใดนั้นหลิ่วชิงก็รู้สึกว่าเขาควบคุมแขนของตัวเองไม่ได้เลย นอกจากนี้ตรงข้อต่อยังเจ็บปวดอย่างรุนแรงจนเขาต้องถอยหลังลงไปกรีดร้องบนโซฟา
เมื่อเห็นหน้าเจียงเฉิง เจียงหลายจึงรู้สึกเหมือนได้ชีวิตกลับมาอีกครั้งหลังจากเจอเรื่องร้ายๆ จากนั้นเธอจึงไปหลบที่ด้านหลังของเจียงเฉิงและคว้าแขนของเขาไว้
เจียงเฉิงเอื้อมมือมาคว้าแขนเจียงหลาย รอยยิ้มปรากฏขึ้นมาบนใบหน้าของเขาก่อนที่เขาจะบอกว่า “ไม่ต้องกลัว พี่อยู่ที่นี่แล้ว!”
เมื่อเห็นแววของความมั่นใจในสายตาของเจียงเฉิง เจียงหลายที่ตื่นตระหนกจนมือไม้อ่อนเมื่อครู่นี้ก็รู้สึกถึงความปลอดภัยที่ไม่ได้รู้สึกมานาน
“เกิดอะไรขึ้นที่นี่”
ทันทีที่สิ้นเสียง ชายหนุ่มคนหนึ่งก็เดินเข้ามาพร้อมกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยกลุ่มหนึ่ง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้านี่แหละ ลูกผู้ชายตัวจริง