ข้านี่แหละ ลูกผู้ชายตัวจริง นิยาย บท 31

“ต่อไปห้ามมาในที่ที่อันตรายแบบนี้อีก เข้าใจไหม” เจียงเฉิงมองเจียงหลายและเอ่ยอย่างเคร่งขรึม

เขายังกลัวอยู่เลยเมื่อนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อครู่นี้ ถ้าไม่ใช่เพราะวันนี้เขามาที่นี่ทันเวลา เขาไม่กล้านึกจริงๆ ว่าน้องสาวของเขาจะต้องประสบกับชะตากรรมที่เลวร้ายแบบไหน

เมื่อเห็นสีหน้าที่เคร่งขรึมของเจียงเฉิง รอยยิ้มบนใบหน้าของเจียงหลายก็ค่อยๆ จางหายไป อยู่ๆ น้ำเสียงของเจียงเฉิงก็ทำให้เธอนึกถึงพี่ชายของเธอขึ้นมา

ก่อนหน้านี้เจียงหลายก็เคยทำเรื่องที่อันตรายแบบนี้มาก่อน หลังจากพี่ชายของเธอรู้เข้า เขาก็อบรมเธอโหดๆ เหมือนอย่างตอนนี้เลย

ขอบตาของเจียงหลายเอ่อล้นไปด้วยน้ำตา เธอเอ่ยอย่างคับข้องใจว่า “ฉันเองก็ไม่ได้อยากมาทำงานในที่แบบนี้ แต่พี่ชายของฉันตายไปแล้ว พ่อแม่ก็สุขภาพไม่ดี ต้องใช้เงินไปหาหมอเป็นประจำ ฉันเองก็อยากช่วยแบ่งเบาภาระของพวกท่านให้มากขึ้น”

เมื่อเห็นท่าทางที่น้อยเนื้อต่ำใจของเจียงหลาย ใบหน้าที่เคร่งขรึมของเจียงเฉิงจึงค่อยๆ ผ่อนคลายลง ถึงอย่างไรน้องสาวของเขาก็ทำเพื่อครอบครัว แต่น่าเสียดายที่เจียงหลายยังเรียนหนังสืออยู่และไม่มีหนทางอื่นที่จะเงิน

เจียงเฉิงเอื้อมมือไปลูบหัวของเจียงหลาย จากนั้นจึงถอนหายใจและกล่าวว่า “เรื่องของครอบครัวเธอน่ะ เธอไม่ต้องกังวลไป ยังมีฉันอยู่ทั้งคน แต่เธอจะต้องตั้งใจไปเรียน เรื่องหาเงินน่ะ เธอไม่ต้องห่วง”

เจียงหลายรู้สึกถึงฝ่ามือของเจียงเฉิงที่กำลังลูบหัวเธอ และเธอก็ไม่ได้คิดจะหลบ แม้ว่าเธอเพิ่งจะพบหน้ากับเจียงเฉิงแค่ครั้งเดียว แต่เธอก็รู้สึกคุ้นเคยกับเขาอย่างอธิบายไม่ถูก ยิ่งไปกว่านั้นเขาคนนี้ยังเคยช่วยเธอถึงสองครั้ง

“ขอบคุณนะ พี่” เจียงหลายกล่าวกับเจียงเฉิงด้วยรอยยิ้ม

“ไหนๆ ก็เรียกฉันว่าพี่แล้ว ยังจะขอบคุณอะไรกันอีก” เจียงเฉิงเอ่ยยิ้มๆ

เมื่อเห็นรอยยิ้มที่เป็นกันเองของเจียงเฉิง ในที่สุดหัวใจที่เย็นเยียบของเจียงหลายก็รู้สึกถึงกระแสของไออุ่นที่ไหลรดมา เธอก้าวเข้าไปกอดแขนของเจียงเฉิงอย่างสนิทสนมและบอกว่า “พี่คะ ฉันหิว พาฉันไปหาของอร่อยๆ กินหน่อยได้ไหมคะ”

เมื่อรับรู้ว่าเจียงหลายกำลังกอดแขนของเขา เจียงเฉิงก็รู้สึกมีความสุขขึ้นมาเช่นกัน เขาบอกว่า “เอาสิ เธออยากกินอะไร พี่พาไปเลี้ยงได้ทั้งนั้น”

“ฉันอยากกินหมาล่าทั่ง”

“ไม่ได้ มันไม่ดีต่อสุขภาพ!”

“งั้นกินเคเอฟซี”

“เคเอฟซีมีส่วนผสมของฮอร์โมน ไม่ได้เหมือนกัน!”

“พี่บอกว่าฉันอยากกินอะไรก็พาไปกินได้หมดเลยไม่ใช่เหรอ” เจียงหลายกอดแขนของเจียงเฉิงและเอ่ยอย่างกระเง้ากระงอด

เจียงเฉิงมองดูน้องสาวที่กำลังออดอ้อนและรู้ทันทีว่าเธอมองว่าเขาเป็นพี่ชายของเธอจริงๆ เขาจึงได้แต่ส่ายหน้าอย่างช่วยไม่ได้และบอกว่า “ก็ได้ พาไปกินก็ได้”

เจียงหลายกระโดดตัวลอยอย่างดีใจ “พี่ใจดีจังเลย”

แม้ว่าเจียงหลายจะไม่เคยสวมเสื้อผ้าแบรนด์ดัง แต่เธอก็รู้จักแบรนด์จิวองชี่ซึ่งเป็นเสื้อผ้าสตรียี่ห้อที่หรูหรามากๆ

“พี่ ไม่เห็นจำเป็นต้องซื้อผ้าดีๆ ขนาดนี้ให้ฉันเลย แค่เสื้อผ้าง่ายๆ สองตัวก็พอแล้วค่ะ” เจียงหลายยืนอยู่หน้าประตูร้านและบอกอย่างลำบากใจ

แม้เจียงหลายจะรู้สึกเป็นกันเองกับเจียงเฉิงมากและปฏิบัติกับเจียงเฉิงเหมือนเขาเป็นพี่ชายของเธอจริงๆ แต่ไม่ว่าอย่างไรเขาก็ไม่ใช่พี่ชายแท้ๆ ของเธอ การให้เขาจ่ายเงินมากขนาดนี้มันไม่ใช่เรื่องที่ดีเลย

เจียงเฉิงได้ยินดังนั้นจึงหันไปจ้องมองเจียงหลาย เจียงหลายเข้าใจได้ในทันที ถ้าเธอไม่ยอมซื้อก็จะหมายความว่าเธอไม่เห็นว่าเจียงเฉิงเป็นพี่ชายของเธออีก และเขาจะต้องโกรธขึ้นมาอีกแน่ๆ

เมื่อไม่มีทางเลือก เจียงหลายจึงต้องตามเจียงเฉิงเข้าไปในร้านเสื้อผ้าของจิวองชี่

“สวัสดีค่ะ ร้านจิวองชี่ยินดีต้อนรับค่ะ!”

ทันทีที่เจียงเฉิงพาเจียงหลายเข้าไปในร้าน พนักงานร้านก็รีบเดินเข้ามาหาทันที ตอนแรกเธอคิดว่าเป็นลูกค้าชั้นดี ที่แบรนด์จิวองชี่ ขอเพียงแค่ซื้อเสื้อผ้าสักตัวสองตัวเธอก็จะได้ค่าคอมมิชชั่นเป็นพันๆ หยวน

แต่เมื่อเดินเข้ามาใกล้เธอจึงพบว่าคนที่เข้ามาเป็นเพียงชายหญิงสองคนที่แต่งกายด้วยเสื้อผ้าธรรมดาๆ เป็นเสื้อผ้าที่ขายตามแผงขายริมถนนราคาแค่ไม่กี่สิบหยวน

ด้วยเหตุนี้รอยยิ้มบนใบหน้าของสาวพนักงานร้านจึงจางหายกลายเป็นความเรียบเฉย เธอถามว่า “ทั้งสองท่านมาซื้อเสื้อผ้าใช่ไหมคะ”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้านี่แหละ ลูกผู้ชายตัวจริง