ข้านี่แหละ ลูกผู้ชายตัวจริง นิยาย บท 33

ทันทีที่สิ้นเสียงของเจียงเฉิง เสี่ยวหลานกับเจี่ยเต๋อเซิ่งต่างก็ชะงักงันไปครู่หนึ่ง จากนั้นทั้งสองคนจึงหัวเราะออกมาอย่างอดไม่ได้

หลังจากชะงักไปครู่หนึ่ง เสี่ยวหลานจึงหันไปมองเจียงเฉิงด้วยแววตาที่ดูถูกและบอกว่า “ก็ได้ ถ้าคุณจ่ายเงินสองแสนได้ ฉันจะถอดชุดที่ใส่อยู่ให้คุณตรงนี้เลย”

ในสายตาของเสี่ยวหลาน เสื้อผ้าที่เจียงเฉิงสวมใส่เป็นแค่เสื้อผ้าธรรมดาที่พบได้ทั่วไปริมถนน เสื้อผ้าของผู้หญิงที่พามาด้วยก็ธรรมดาไม่ต่างกันและบนตัวยังมีคราบน้ำมันอยู่ด้วย นอกจากนี้หมอเจี่ยก็บอกแล้วว่าคนผู้นี้เป็นแค่บุรุษพยาบาล คนแบบนี้จะมีเงินสองแสนมาจ่ายได้อย่างไร

วันนี้เธอต้องเอาชนะคะคานกับชายหนุ่มไร้ยางอายคนนี้ เธออยากเห็นว่าเมื่อถึงเวลาจริงๆ แล้วเขาควักเงินสองแสนมาจ่ายไม่ได้ เขาจะทำอย่างไร ตอนแรกเธอก็ไม่ได้คิดจะทำให้เจียงเฉิงอับอายเกินไปหรอก แต่หมอนี่ไม่ยอมหยุดเอง

“เสี่ยวหลาน ผมจะช่วยคุณเอง คนไร้ความสามารถที่ชอบก่อความวุ่นวายแบบนี้ คุณไม่จำเป็นต้องให้เกียรติเขาหรอก”

เจี่ยเต๋อเซิ่งเห็นภาพที่เกิดขึ้นตรงหน้าและเอ่ยออกมาด้วยความสะใจ เขาอยู่ในโรงพยาบาลเดียวกันกับเจียงเฉิง ปกติเจียงเฉิงมักจะทำตัวเลอะเทอะ แต่งกายด้วยเสื้อผ้าสุดแสนจะธรรมดา ไม่ได้ร่ำรวยมีเงินเลยสักนิด

คิดไม่ถึงว่าตอนนี้เขาจะอ้าปากพูดออกมาว่าจะจ่ายสองแสน อย่าว่าแต่บุรุษพยาบาลเลย แม้แต่เขาที่เป็นแพทย์ประจำโรงพยาบาลก็หาเงินจำนวนมากขนาดนั้นในทันทีไม่ได้

“เกิดอะไรขึ้นน่ะ”

ขณะที่เจียงเฉิงกำลังจะหยิบบัตรออกมา เสียงของผู้หญิงคนหนึ่งก็ดังขึ้น เมื่อเงยหน้ามองจึงเห็นหญิงสาวหน้าตาสะสวยในชุดสูททางการเดินเข้ามาหา เธอคือเจิ้งห่าว เป็นผู้จัดการร้านจิวองชี่แห่งนี้

ก่อนหน้านี้เจิ้งห่าวต้องออกไปทำธุระข้างนอก เมื่อกลับมาจึงเห็นว่าเสี่ยวหลานซึ่งเป็นพนักงานในร้านของเธอเหมือนกำลังจะโต้เถียงกับลูกค้า

เมื่อเห็นว่าเจียงเฉิงกับเจียงหลายแต่งกายด้วยเสื้อผ้าธรรมดาๆ เธอก็เข้าใจทันที เสี่ยวหลานเป็นคนที่มักจะมองคนจากภายนอก เธอน่าจะเห็นว่าคนอื่นสวมเสื้อผ้าธรรมดาก็เลยดูถูกพวกเขา นั่นเองจึงเกิดเรื่องโต้แย้งขึ้น

แต่บังเอิญว่าเธอทำงานเป็นผู้จัดการร้านมาหลายปี เคยเห็นผู้มีอิทธิพลที่แต่งตัวซอมซ่อมามากมาย คนอย่างเสี่ยวหลานอาจจะไปล่วงเกินคนใหญ่คนโตที่แต่งตัวซอมซ่อก็ได้ ดังนั้นเธอจึงรีบตรงเข้าไปถาม

เมื่อเสี่ยวหลานเห็นเจิ้งห่าว เธอจึงรีบบอกว่า “ไม่มีอะไรค่ะผู้จัดการร้าน ลูกค้าท่านนี้ไม่มีเงินแต่ยังอยากจะลองเสื้อผ้า ฉันเลยไม่ปล่อยให้เขามาวุ่นวายค่ะ”

เจิ้งห่าวหันไปมองเจียงเฉิงและเอ่ยด้วยรอยยิ้มที่สุภาพเป็นอย่างยิ่งว่า “สวัสดีค่ะคุณผู้ชาย ไม่ทราบว่าคุณต้องการลองชุดตัวไหนหรือคะ”

เจียงเฉิงเหลือบมองเจิ้งห่าวนิดหนึ่งและรู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้ค่อยดีหน่อย อย่างน้อยรอยยิ้มก็ดูจริงใจมาก

“ชุดนี้ครับ แต่ผมไม่ได้คิดจะลอง ผมจะจ่ายสองแสนหยวนซื้อชุดนี้เลย แล้วก็ยังมีชุดที่พนักงานร้านคุณใส่อีกชุด เมื่อตกลงกันแล้ว คุณก็เอาบัตรไปรูดเถอะครับ” เจียงเฉิงว่าแล้วจึงยื่นบัตรส่งให้เจิ้งห่าว

“ไม่นะ ฉันว่าชุดนี้ก็ดีออก” เหมิงเหมิงเอ่ยกับเจี่ยเต๋อเซิ่งอย่างกระเง้ากระงอด

เจี่ยเต๋อเซิ่งยังคงหว่านล้อมเหมิงเหมิง เดิมทีเขาคิดจะใช้เงินแค่ไม่กี่พันหยวนเท่านั้น แล้วทำไมผู้หญิงคนนี้จึงต้องเจาะจงมาชอบชุดตัวละสี่หมื่นหยวนแบบนี้ด้วย

“รบกวนกดรหัสบัตรด้วยค่ะ” เจิ้งห่าวบอกเจียงเฉิง

เมื่อเจียงเฉิงกดป้อนรหัสผ่านลงไป เสียง “ติ๊ง” ก็ดังขึ้น แสดงว่าการใช้จ่ายเสร็จสมบูรณ์

ทันใดนั้นเสี่ยวหลานก็ถึงกับชะงัก เป็นไปได้ยังไง คนบ้านนอกนี่มีเงินในบัตรถึงสองแสนจริงๆ หรือ

“รบกวนเอาชุดนี้ใส่ถุงให้ด้วยนะครับ แล้วก็ยังมีชุดที่เธอใส่อยู่ด้วย ผมต้องการมันเดี๋ยวนี้” เจียงเฉิงรับบัตรของตัวเองมาเก็บพลางเอ่ยเรียบๆ

ในตอนนั้นใบหน้าของเสี่ยวหลานแดงก่ำ เป็นไปไม่ได้ที่จะให้เธอถอดเสื้อผ้าทั้งหมดไปให้คนอื่น ถ้าถอดจนหมดเธอจะกลับบ้านได้อย่างไร

ขณะที่เสี่ยวหลานกำลังเตรียมจะปฏิเสธอย่างหัวชนฝา ทันใดนั้นเจิ้งห่าวก็สังเกตเห็นบัตรทองอีกใบที่อยู่ในกระเป๋าสตางค์ของเจียงเฉิง

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้านี่แหละ ลูกผู้ชายตัวจริง