“แค่กๆ ไม่มีอะไรๆ” สวี่จื้อจุนไอแห้งๆ และจิบน้ำดื่ม จากนั้นจึงบอกว่า “ฉิงเอ๋อร์ ลูกมาพอดีเลย พ่อมีเรื่องอยากจะคุยกับลูกเหมือนกัน”
“หนูไม่อยากฟังค่ะ!” สวี่ฉิงว่าแล้วก็รีบเดินเข้าไปในห้องทันที
สวี่จื้อจุนเห็นท่าทางของลูกสาวและเอ่ยอย่างจนปัญญาว่า “ฉิงเอ๋อร์ ต่อไปลูกต้องสนิทสนมกับเจียงเฉิงให้มากกว่านี้นะ วันนี้โจวหลินทรมาหา เขาบอกว่าเจียงเฉิงรักษาอาการป่วยเรื้อรังของคุณชายตระกูลจ้าวจนหาย เขาพยายามหนักขนาดนี้ก็เพื่อลูกไม่ใช่หรือ ลูกอย่าเอาแต่ยึดติดกับเรื่องในอดีตเลย”
สวี่ฉิงปิดประตูห้องและยังคงพิงตัวอยู่กับบานประตู เธอทำอะไรไม่ถูกไปชั่วขณะ นับตั้งแต่เกิดเรื่องนั้นขึ้นเมื่อนานมาแล้ว เธอก็มีอาการป่วยทางจิตใจและมีอาการต่อต้านผู้ชาย
ดังนั้นเธอจึงเลือกแต่งงานกับเจียงเฉิงเพราะไม่อยากให้พ่อแม่ต้องกังวล แต่ถึงอย่างนั้นอาการป่วยของเธอก็ยังไม่มีท่าทีว่าจะดีขึ้นเลย
บางทีเธอควรจะทำตัวสนิทสนมกับผู้ชายให้มากกว่านี้จริงๆ แบบนี้อาจจะดีก็ได้กระมัง?
แม้ว่าจะคิดแบบนี้ แต่เมื่อคิดว่าต้องปล่อยให้ผู้ชายคนหนึ่งมานอนข้างๆ เธอ สวี่ฉิงก็รู้สึกไม่สบายใจขึ้นมา
คิดดังนั้นสวี่ฉิงจึงเอาที่นอนของเจียงเฉิงออกมาปูบนพื้นอย่างเคย จากนั้นเธอจึงปลดผ้าเช็ดตัวและเปลี่ยนไปสวมชุดนอนผ้าแพร เอนกายผล็อยหลับลงไปบนเตียง
เช้าวันต่อมา ขณะที่ทั้งครอบครัวกำลังกินอาหารเช้าพร้อมกัน สวี่ฉิงก็เอ่ยกับเจียงเฉิงว่า “วันนี้ฉันต้องไปที่บริษัทของคุณพ่อคุณแม่ คุณเองก็ไปกับฉันนะคะ”
“แล้วทางโรงพยาบาลล่ะครับ”
“ทางโรงพยาบาลน่ะ ฉันช่วยแจ้งแทนคุณแล้ว” สวี่ฉิงบอก
เจียงเฉิงพยักหน้าตอบตกลง ถึงอย่างไรตอนนี้เขาก็ยังไม่ได้รับใบรับรองคุณวุฒิทางการแพทย์ ยังไงก็ยังไม่ได้รับการยอมรับให้ผ่าตัดอย่างเป็นทางการอยู่ดี ต่อให้ไปโรงพยาบาลก็ไม่มีอะไรให้ทำมากนัก
ความจริงเมื่อคืนสวี่ฉิงก็เก็บเรื่องนั้นไปคิดเหมือนกัน บางทีเธอควรจะฟังสิ่งที่พ่อของเธอบอกและสนิทสนมกับเจียงเฉิงให้มากขึ้น
คังรุ่ยกรุ๊ปที่ดำเนินธุรกิจโดยพ่อแม่ของสวี่ฉิงคือบริษัทค้นคว้าวิจัยเครื่องเวชสำอาง สวี่ฉิงเรียนแพทย์พอดี ดังนั้นเธอจึงเป็นหัวหน้าฝ่ายในนามของศูนย์ค้นคว้าวิจัยของคังรุ่ยกรุ๊ป ควบคุมดูแลส่วนผสมของเครื่องเวชสำอาง
วันนี้เป็นวันที่มีการวิจัยผลิตภัณฑ์ใหม่ สวี่ฉิงกำลังจะไปศูนย์วิจัยและพาเจียงเฉิงไปด้วยกัน ถือได้ว่าเป็นการเพิ่มความสนิทสนมกันมากขึ้น
สวี่ฉิงขับรถพาเจียงเฉิงไปที่ศูนย์วิจัยของคังรุ่ยกรุ๊ป ที่นี่เป็นอาคารเดี่ยวขนาดเล็กที่มีทั้งหมดสองชั้น แยกต่างหากออกมาจากส่วนที่เป็นโรงงานผลิต
“ยินดีต้อนรับครับ หัวหน้าแผนกสวี่!”
ทันทีที่ลงจากรถ ชายหนุ่มซึ่งสวมแว่นตาและสวมเสื้อคลุมสีขาวตัวใหญ่คนหนึ่งก็ออกมาต้อนรับด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม
คนผู้นี้คือรองหัวหน้าฝ่ายของศูนย์วิจัยคังรุ่ยกรุ๊ปชื่อว่าจูหรง ความจริงในใจเขาคอยคะนึงถึงสวี่ฉิงมาโดยตลอด ถึงอย่างไรสวี่ฉิงก็มีภูมิหลังทางครอบครัวที่ดี รูปร่างหน้าตาก็ดีจนไร้ที่ติด
จูหรงกำลังมองสวี่ฉิง แต่ทันใดนั้นเขาก็พบว่ายังมีผู้ชายอีกคนลงมาจากที่นั่งข้างคนขับ ดังนั้นรอยยิ้มบนใบหน้าของเขาจึงชะงักค้างทันที
“หัวหน้าแผนกสวี่ คนคนนี้คือ?” จูหรงถาม
“เขาคือสามีของฉัน ชื่อเจียงเฉิง” สวี่ฉิงบอก
สวี่ฉิงพยักหน้าเล็กน้อยและเอ่ยว่า “ผลิตภัณฑ์ใหม่ที่เราค้นคว้าคราวนี้เป็นยังไงบ้าง”
จูหรง รีบหยิบขวดเล็กๆ ที่เตรียมไว้ล่วงหน้าออกมา ข้างในขวดมีครีมบรรจุไว้ จากนั้นเขาจึงบอกว่า “หัวหน้าแผนกสวี่ นี่คือบีบีครีมที่ผมค้นคว้าขึ้นมาเองครับ ส่วนประกอบทั้งหมดทำมาจากสมุนไพรจีน ช่วยให้ผิวขาวกระจ่างใสและนุ่มชุ่มชื้น ทั้งยังช่วยลบเลือนริ้วรอยด้วยครับ”
ทันทีที่จูหรงพูดจบ ร่องรอยของความไม่พอใจก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของนักวิจัยคนอื่นๆ เห็นได้ชัดว่าครีมนั่นค้นคว้าวิจัยโดยทีมของเขา มันจะกลายเป็นฝีมือวิจัยของเขาเองได้อย่างไร
“สมุนไพรจีนบริสุทธิ์เหรอ” สวี่ฉิง รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยและถามว่า “ขวดเล็กขนาดนี้ ตั้งราคาไว้เท่าไร”
“สี่พันเก้าครับ!” จูหรงตอบ
แน่นอนว่าสวี่ฉิงก็คิดไว้แล้ว เวชสำอางที่ทำมาจากสมุนไพรจีนบริสุทธิ์จะราคาถูกได้อย่างไร
สวี่ฉิงหยิบขวดมาจากมือของจูหรง เธอส่งให้เจียงเฉิงและถามว่า “คุณคิดว่ายังไงบ้างคะ”
เจียงเฉิงรับขวดเล็กๆ นั่นมาจ่อใต้จมูกเพื่อดมกลิ่น
จูหรงเห็นดังนั้นจึงยิ้มและบอกว่า “ในเมื่อคุณเจียงแต่งงานกับหัวหน้าแผนกสวี่ คุณต้องไม่ใช่ธรรมดาๆ แน่ ทำไมไม่ลองแสดงความเห็นเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์นี่หน่อยล่ะครับ”
จูหรงรู้ว่าเจียงเฉิงเป็นแค่บุรุษพยาบาลคนหนึ่ง ดังนั้นเขาจะมีความรู้ระดับไหนกันเชียว ที่เขาถามแบบนี้ก็เพราะอยากจะทำให้เจียงเฉิงขายหน้าต่อสวี่ฉิงก็เท่านั้น
หลังจากดมกลิ่น เจียงเฉิงจึงส่ายหัวและบอกว่า “ก็แค่ขยะหนึ่งขวด!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้านี่แหละ ลูกผู้ชายตัวจริง