ข้ายุ่งอยู่กับทํานาในตำหนักเย็น นิยาย บท 115

เหล่าผู้คนต่างอดไม่ได้ที่จะละสายตาออกมาเพื่อย้ายไปมองเหยากุ้ยเหริน

เหยากุ้ยเหรินได้กลายเป็นทำให้ลู่ยุ๋นหลัวดูเด่นขึ้นมาอย่างที่สุด !

"นั่นคือลู่ยุ๋นหลัวบุตรสาวของอัครมหาเสนาบดี หรือก็คือนายหญิงของตำหนักเย็น"

ด้านล่างก็ไม่รู้ว่าใครพูดประโยคนี้ขึ้นมา

ที่แท้ก็เป็นนาง ?

แต่ก่อนก็เคยได้ยินมาว่าบุตรสาวของจวนอัครมหาเสนาบดีสวยงามมากสุดในเมืองแล้ว ไม่คิดมาก่อนว่าที่เขาพูด ๆ กันจะไม่เท่ากับที่ได้เห็นจริง

เมื่อนึกถึงอดีตอัครมหาเสนาบดีลู่ ทุกคนต่างก็ถอนหายใจอีกครั้ง ช่างน่าเสียดายจริง ๆ

ในบรรดาผู้สูงศักดิ์ฝ่ายชายด้านล่าง ชูหรงเฉิงก็มองไปที่ลู่ยุ๋นหลัวบนเวทีด้วยความไม่เชื่อในสายตา

จะเป็นนางไปได้อย่างไร ?

วันนี้เขาเพิ่งเจอกับนางไปชัด ๆ ไม่ใช่ว่านางเปลี่ยนไปจนน่าเกลียดและอัปลักษณ์ไปแล้วหรอกเหรอ ?

เป็นแบบนี้ไปได้อย่างไร ?

เมื่อเขานึกถึงขันทีที่เขาพบในวันนี้ เขาแน่ใจว่าเขาไม่ได้ดูผิดไป

แม้ว่าใบหน้านั้นจะน่าเกลียดจนดูไม่ได้ แต่อวัยวะต่าง ๆ และรูปลักษณ์ใบหน้านั้นต้องเป็นลู่ยุ๋นหลัวอย่างแน่นอน

เป็นไปได้ไหมว่าแม่นางคนนี้กำลังหลอกเขาอีกครั้ง ?

เมื่อนึกถึงตรงนี้ ดวงตาของชูหรงเฉิงก็เต็มไปด้วยความโกรธแค้น

ลู่ยุ๋นหลัว !

นึกไม่ถึงว่าจะมาตลบหลังเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่า !

เมื่อมองไปที่ลู่ยุ๋นหลัวบนพื้นที่เวทีอีกครั้งด้วยสายตาที่โกรธของและค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นลำแสงเย็นเยียบที่น่ากลัว

"หม่อมฉัน ขอถวายบังคมพระพันปีหลวง" ลู่ยุ๋นหลัวและเหยากุ้ยเหรินถวายความเคารพ

“ลุกขึ้นเถอะ” บนเวที พระพันปีหลวงทรงทอดพระเนตรมองพวกเขาด้วยสีพระพักตร์ที่อ่อนโยน

หลังจากลุกขึ้นแล้ว ทั้งสองก็นั่งลงตรงที่นั่ง

เหยากุ้ยเหรินและหลันกุ้ยเหรินชั้นยศอยู่ในตำแหน่งเดียวกัน ที่นั่งของทั้งสองจึงอยู่ใกล้กัน ลู่ยุ๋นหลัวหันมองไปรอบ ๆ ก็พบว่าในตำหนักซินหยางยังไม่มีที่นั่งของนาง

ถ้าจะบอกว่าแต่ก่อนตอนงานเลี้ยงจัดที่เรือนในสวน ตัวนางนั้นไม่มีชั้นยศจึงไม่ได้ให้นางมาเข้าร่วมก็คงไม่เป็นไร แต่ตอนนี้จี้อู๋เจวี๋ยเป็นคนเชิญนางมาที่นี่เพื่อเฉลิมพระชนมพรรษาของพระพันปีหลวง แล้วทำไมถึงยังตระหนี่ขนาดที่นั่งก็ยังไม่มีให้กับนาง ?

หรือว่าจี้อู๋เจวี๋ยจงใจงั้นรึ ?

หรือว่านี่คือเจตนาที่แท้จริงที่ทำให้นางดูไม่ดีงั้นเหรอ ?

ดูเหมือนว่าแววพระเนตรของจี้อู๋เจวี๋ยจะเริ่มปรากฏความกระวนกระวายขึ้นมา "ยังไม่ขึ้นมาอีกรึ ?"

ลู่ยุ๋นหลัวไม่มีทางเลือกอื่นจึงได้แต่ขมวดคิ้วและเดินมาถึงยังด้านข้างของจี้อู๋เจวี๋ยภายใต้สายตาของทุกคนที่จ้องมอง

หลังจากนั่งลงแล้ว ก็เห็นแสงเย็นแวบปรากฎขึ้นในดวงตาของเหยากุ้ยเหรินอย่างชัดเจน

ยิ่งกว่านั้นก็คือนางไม่เคยเห็นหลันกุ้ยเหรินที่จ้องมองนายด้วยสายตาที่เต็มไปความขุ่นเคืองใจมากมายขนาดนี้

ลู่ยุ๋นหลัวถึงกับตัวสั่นเล็กน้อย

จบแล้ว !

เมื่อนับรวมนางแล้วภายในตำหนักในก็มีสนมทั้งหมดสามคนด้วยกัน

เมื่อทำแบบนี้ หลันกุ้ยเหรินและเหยากุ้ยเหรินจะไม่ร่วมมือกันจัดการกับนางหรอกเหรอ ?

ตำแหน่งที่อยู่ใต้ก้นของนางตอนนี้ก็ไม่ต่างอะไรกับที่นั่งที่ร้อนระอุ !

นางเองจึงมีเหตุผลมากพอที่จะสงสัย ว่าจี้อู๋เจวี๋ยต้องจงใจเอานางมาไว้ตรงนี้เพื่อหาเรื่องให้นางราวกับวางสุมคบเพลิงไว้

นางจึงขยับศีรษะที่หนักอึ้งของนางและขยับคอที่แข็งเพื่อหันไปยิ้มให้กับพระพักตร์ที่หล่อเหลาข้าง ๆ นาง

และบังเอิญสบเข้ากับสายพระเนตรของจี้อู๋เจวี๋ยที่มองมาที่นางพอดี

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้ายุ่งอยู่กับทํานาในตำหนักเย็น