ข้ายุ่งอยู่กับทํานาในตำหนักเย็น นิยาย บท 45

บรรดาเหล่าองคมนตรีไป ๆ มา ๆ ก็กลายเป็นการโต้เถียงกันเสียงอึกทึกยกใหญ่ ซึ่งเมื่อถึงเวลาแยกย้ายหมดวาระประชุมก็ยังคงหาข้อสรุปใด ๆ ไม่ได้

เมื่อหยาดฝนพรำจากไป ไอร้อนระอุหน้าแล้งก็กลับมาทวงตำแหน่งเดิมของมัน

หยินซวางที่ได้รับการถ่ายทอดวิธีการทำอาหารมาจากลู่ยุ๋นหลัวก็ได้ทำต้มถั่วเขียวเย็นมาถวาย

พอดีกับลู่ยุ๋นหลัวที่แต่งกายเป็นขันทีเดินออกมาจากด้านใน

“นายหญิง ท่านกำลังจะออกไปข้างนอกเหรอเพคะ ?”

“ใช่ ยังมีหนี้ชำระสามพันตำลึงทีข้ายังไม่ได้ไปเก็บ กลางวันเจ้าไม่ต้องรอข้ากลับมาทานอาหารหละ” ลู่ยุ๋นหลัวหยิบต้มถั่วเขียวที่อยู่ในชามไม้ทานขณะพลางกล่าว

ยังมีเวลาอีกสี่วันกว่าจะถึงวันที่ต้องหนีออกจากวัง ช่วงสองวันนี้นางจะต้อจัดการธุระเก็บเงินให้เรียบร้อย และรีบไปเจรจาเรื่องแผนการกับแม่นมที่ดูแลเรื่องเข้าออกวัง

แม้ว่าในมือนางจะมีเอกสารที่ลงพระปรมาภิไธยของจี้อู๋เจวี๋ยอยู่ไว้ แต่นั่นเป็นถึงองค์จักรพรรดิหากทรงไม่พอพระทัยอะไรขึ้นมาแล้วไม่ให้เงินนางตามที่สัญญาไว้นางก็คงทำอะไรไม่ได้

ดังนั้นเวลาจะตีเหล็กก็ต้องตีตอนที่ยังร้อนอยู่ เอาเงินคืนมาให้เร็วที่สุดก่อนน่าจะเป็นเรื่องที่ดีที่สุดแล้ว

เอาต้มถั่วเขียวไปด้วยเผื่อเขากลับใจอะไรขึ้นมาอย่างน้อยก็เอาต้มถัวเขียวเย็น ๆ ไปดับร้อนก็ยังดี

“สามพันตำลึง ?”

หยินซวางใบหน้าเต็มไปด้วยความนับถือลู่ยุ๋นหลัว

นายหญิงของนางช่างเก่งกาจสามารถ !

เมื่อวานนางเพิ่งไปรับเงินจากขันทีเฉิงซึ่งเป็นค่าเหล้าดอกบัวเป็นเงินกว่า 2,500 ตำลึง พอมาวันนี้ก็มีเงินอีกกว่า 3,000 ตำลึงที่ต้องไปเก็บอีก

ความเร็วในการทำเงินนี้มันช่างไวเสียเหลือเกิน !

นายหญิงของนางนับวันก็มีแต่ข้อดีขึ้นมาเรื่อย ๆ

นายหญิงของนางไม่เพียงมีรูปลักษณ์ที่งามสง่า แต่ไม่ว่าจะการหาเงิน ปลูกผัก พยากรณ์อากาศ การผลิตน้ำแข็ง และการทำอาหารที่นางไม่เคยทานที่ไหนมาก่อนและเรื่องอื่น ๆ อีกมาก

ต่อให้นางนับก็คงนับไม่หมด

นางควรทำเช่นไรดี ?

ยิ่งนานวันเข้านางก็ยิ่งชอบนายหญิงของนางมากขึ้นเรื่อย ๆ

ลู่ยุ๋นหลัวรับต้มถัวเขียวที่ทำเสร็จก็ออกเดินทางทันที ซึ่งนางกลับไม่ได้ไปหาจี้อู๋เจวี๋ยแต่กลับไปยังห้องห้องปรุงพระกระยาอาหารก่อนเป็นที่แรก

อากาศร้อนอบอ้าวขนาดนี้กลับเสวยอาหารประเภทเนื้อมากผิดสังเกต พระพันปีไม่กลัวเป็นร้อนในรึ ?

ไม่ใช่แค่พระพันปีหลวงเท่านั้น แต่นางยังกลับพบว่าเหยากุ้ยเหรินและหลันกุ้ยเหรินก็ทานอาหารประเภทเนื้อเยอะเช่นเดียวกัน

ถึงแม้อาหารประเภทผักจะมีก็ตามแต่ก็ถือว่ามีปริมาณที่ค่อนข้างน้อย

“เห้ย เจ้าเสี่ยวลู่จึ !” ขันทีเฉิงกล่าวทักทายลู่ยุ๋นหลัวที่บัดนี้ยืนอยู่ตรงปากประตูด้วยความยินดี

ไม่กี่วันก่อนเสี่ยวลู่จึได้ให้เหล้าดอกบัวเขาเพื่อถวายแก่องค์จักรพรรดินั่นทำให้เขารอดพ้นการจากืรงตำหนิจากองค์จักรพรรดิไปได้เยอะ รวมถึงยังทำเงินจากการเอาเหล้าดอกบัวนี้ไปขายให้ที่วังหลิวหยุนได้เงินเป็นกอบเป็นกำ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกใจอะไรที่เขาเมื่อเห็นลู่ยุ๋นหลัวแล้วจะยิ้มจะแก้มแถบจะปริแตกออกมา

“ขันทีเฉิง ข้ามาหาเจ้าเพราะอยาได้น้ำแข็งไม่กี่ก้อน ในห้องห้องปรุงพระกระยาอาหารของเจ้าน่าจะพอมีบ้างใช่มั๊ย ?”

“ข้าก็ต้องมีอยู่แล้ว เสี่ยวลี่จึเจ้าไปเอานำแข็งออกมาให้ข้าหน่อย” ขันทีเฉิงตะโกนไปยังด้านในของห้องปรุงพระกระยาอาหาร

เมื่อครั้งที่กินหม้อไฟเมื่อคราวก่อนเสร็จ เขาก็พบว่าเสี่ยวลู่จึนั้นไม่อยู่แล้ว

หลังจากวันนั้นเป็นต้นมา เขาก้รู้สึกมาโดยตลอดว่าตัวตนของเสี่ยวลู่จึคนนี้นั้นต้องไม่ธรรมดา

ซึ่งเขาก็รู้ดีว่าเรื่องอะไรควรถามและเรื่องอะไรไม่ควรถาม

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้ายุ่งอยู่กับทํานาในตำหนักเย็น