บุตรสาวของจวนอัครมหาเสนาบดีอภิเษกทั้งที อีกทั้งยังได้อภิเษกเป็นชายาเอกแห่งจวนมกุฎราชกุมาร ไม่ว่าจะพูดอย่างไร สินเดิมที่ได้อภิเษกเข้ามาก็ไม่น่าจะตระหนี่อะไรขนาดนั้น
“สินเดิม ?” ลู่ยุ๋นหลัวพยายามรวบรวมความจำของเจ้าของร่างเดิม วันอภิเษกนั้นจำได้ว่าเป็นขบวนริ้วแดงสิบลี้ ดูเหมือนว่าสินเดิมก็มีอยู่ราว 200 กว่าพระแท่นอัญเชิญ
เนื่องจากคืนนั้นเกิดเรื่องสำคัญใหญ่ขึ้น เพียงวันที่สองก็ถูกองค์จักรพรรดทรงสำเร็จโทษให้ประทับตำหนักเย็นในทันที ต่อมาพอข่าวการถูกประหารอัครมหาเสนาบดีแพร่กระจายออกไป ก็ทำให้ลืมคิดถึงเรื่องสินเดิมพวกนั้นมาตั้งแต่นั้นมา
“บ่าวที่ตามนายหญิงเข้ามาในวังก็ถือเพียงแค่ของที่ถือมาได้ด้วยแค่นั้น ส่วนของอื่นนั้นบ่าวไม่ได้เป็นคนถือเข้ามา ใครจะรู้ว่าหลังจากเข้ามาในวังแล้วจะต้องไปถูกขังที่ตำหนักเย็น”
“ถ้าจะให้พูด สินเดิมของนายหญิงเองเป็นไปได้ว่าคงจะอยู่ที่จวนมกุฎราชกุมาร” แม่นมโจวจำได้ว่าก่อนที่เข้ามาในวังนางได้ไปสอบถามที่จวนมกุฎราชกุมารอยู่ก่อน ดูเหมือนว่าจวนแห่งนั้นจะอยู่ภายใต้พระนามขององค์จักรพรรดิ ของมากมายข้างในล้วนแถบจะไม่ได้มีการย้ายเข้าไปในวัง
“หยินซวาง เจ้าพอจะรู้มั๊ยว่าสินเดิมของข้ามีอะไรบ้าง ?” ลู่ยุ๋นหลัวตั้งใจพยายามนึกย้อนกลับไป แต่ยังไม่รู้อยู่ดีว่าสินเดิมของนางเองนั้นแท้จริงมันคือขงออะไรกันแน่
หยินซวางคิดอยู่สักพักก็ตอบกลับไป “ก่อนวันอภิเษกหนึ่งวันข้าพอจะได้เห็นของที่ใส่ในกล่องก็มีพวก ปิ่นทอง เครื่องประดับ และสมบัติจำพวกนี้ ถ้าถามถึงของอื่นนอกจากนี้บ่าวก็ไม่ทราบแล้วเพคะ”
ลู่ยุ๋นหลัวพอได้ฟัง แววตาก็เปล่งประกายแวววับขึ้นมา ยังมีร้านค้าภาคการเกษตรอยู่ไม่ใช่เหรอ ?
ดูเหมือนว่านางคงต้องหาเวลาเอาเรื่องนี้ไปคุยกับจี้อู๋เจวี๋ยให้ได้
ผ่านไปสี่วัน ฝนห่าใหญ่ก็ได้หยุดและผ่านไป
ฝนห่าใหญ่ครั้งนี้ทำให้เหล่านางข้าหลวงและขันทีที่ทำงานในตำหนักเย็นตกใจจนสติแถบจะหลุดลอยอย่างไม่มีทางกลับมา
ตอนแรกพวกเขาแค่คิดว่าแผ่นประกาศพยากรณ์อากาศที่ติดบนผนังด้านนอกตำหนักเย็นจะเป็นนายหญิงที่เขียนเพื่อความสนุกสนานเท่านั้น โดยแถบจะไม่ได้คิดเลยว่าฝนจะตกขึ้นมาจริง ๆ
หลังจากฝนหยุดก็เข้าสู่การทำงานวันแรก โดยที่บางคนก็มาถึงตำหนักเย็นแต่เช้าเพื่อมองกระดาษที่เขียนพยากรณ์อากาศผืนนั้น ยิ่งไปกว่านั้นยังตกใจพบอีกว่า ขนาดเวลาฝนหยุดก็ยังเขียนไว้ได้ถูกไม่มีผิดเพี้ยนแม้แต่น้อย
ไม่แปลกเลยว่าทำไมนายหญิงถึงให้พวกเขาหยุดงานตั้งสี่วัน !
ที่แท้นายหญิงก็รู้ล่วงหน้าอยู่ก่อนแล้วว่าฝนจะต้องตกถึงสี่วัน !
เหล่าองคมนตรีในราชสำนักก็หวาดผวาเกรงว่าเรื่องนี้จะกระทบโยงมาถึงตัวพวกเขา
โชคยังดีที่ราคาธัญพืชในแต่ละพื้นที่ได้ค่อย ๆ ฟื้นตัวกลับสู่ราคาปกติ
อาจเนื่องมาจากฝนห่าใหญ่สองครั้งที่ตกในเวลาสั้น ๆ ของอาณาจักรตงหลานก็ได้ทำให้วิกฤติภัยแล้งที่อยู่ตรงหน้าได้รับการคลี่คลายออกไป
ในวันนี้หลังจากที่จี้อู๋เจวี๋ยได้ทรงประชุมเสร็จในช่วงเช้า ก็ถึงกับเลิกพระขนงค์สงสัยต่อพระกายาหารที่อยู่บนโต๊ะ
พระกายาหารที่อยู่บ้านโต๊ะนี้เหมือนกับก้อนหินก็ไม่ปาน นอกจากความแข็งแล้วก็คือความแข็ง พอลองทรงสูดดมกลิ่นก็ได้กลิ่นที่รสชาติเปรี้ยวขึ้นมา
เขาทรงชำเลืองมองขันทีเฉิงที่บัดนี้คุกเข่าอยู่บนพื้น “นี่คือผลลัพธ์ที่เจ้าใช้เวลาในการวิจัยทำหมั่นโถวงั้นรึ ?”
“กราบบังคมทูลองค์องค์จักรพรรดิ เหล่าพ่อครัวได้ลองทำออกมาหลายครั้ง ซึ่งแป้งชนิดนี้ไม่ว่าจะเอาไปนึ่งเช่นไร พอนึ่งออกมาก็จะมีรสชาติเปรี้ยวอยู่ตลอด อีกทั้งไม่ว่าจะทอลองเช่นไร หมั่นโถวที่ได้ก็จะแข็งแบบนี้พะยะค่ะ” ขันทีเฉิงตอนนี้ใกล้ที่จะร้องไห้ออกมาเต็มทนแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้ายุ่งอยู่กับทํานาในตำหนักเย็น
รออ่านอยู่นะคะ...
ชอบเรื่องนี้มากนางเอกไม่อยากอยู่ในวัง..มาอัพต่อนะคะรออ่านค่ะ......
รออัพค่าาาา...
รออัพเดทตอนใหม่อยู่นะคะ มาส่องทุกวัน รอทุกวันค่ะ...
อยากให้ท่านอ๋องเฉินเป็นพระเอกจัง ส่วนฮ่องเต้นั่น ก็คู่สนมเหยาเถอะ โปรดปราณกันจนาดนั้น...
ฝ่าบาทผีอะไรเข้าสิงมาอี้กกกก...
555555...
รวยๆๆๆๆๆ...
เอาแล้วววว 55555...
555555...