คลั่งรักร้ายนายวิศวะ นิยาย บท 45

ด้านเจนิสหลังจากที่ลงมาจากตึกคณะ สายตาของฉันก็สะดุดเข้ากับสายตาคมเข้มของพี่ริวที่มองมาทางฉัน

"จ้า ไม่ได้คบกัน ไม่ใช่แฟน แต่มาตามรับตามส่งกันถึงหน้าคณะ" ยัยแซมมี่เอ่ยมาพร้อมกับทำหน้าจีบปากจีบคอหันมาทางฉัน เจนิสที่ได้ยินเช่นนั้นถึงกับสะอึกกับคำพูดของเพื่อน

"ยัยเจ ฉันชักอยากสิงร่างแกแล้วสิ พี่ริวรุกกางเกงยีน เสื้อนักศึกษา แว่นกันแดดสีชา กูตายคะถ้ามีผู้หล่อๆ มาตามรับตามส่งแบบนี้" ยัยเฟย์เอ่ยมาพร้อมกับทำหน้าฟินๆ หันมาทางฉันอีกคน ใบหน้าสวยหวานถึงกับแดงซ่านขึ้นมากับคำเอ่ยแชวของเพื่อน

"พี่ริวโครตหล่อ โครตเท่เลย ข้างในขาวไหม" น้ำอุ่นนักฟังที่ดีประจำกลุ่มก็เอ่ยกับเขามาบ้าง แต่นั้นคนถูกถามถึงกับหน้าแดงหนักขึ้นไปอีก

"ทำไมพวกแกนี้ถามบ้าไรแบบนี้กันเล่า ฉัน..." แต่ในจังหวะที่ร่างบางเดินคุยกับเพื่อนๆ อยู่นั่น เสียงเข้มของริวกับดังขึ้นมา

"นิยัยหน้าหยิ่ง ยื่นนิ่งอะไรอยู่อีก นี้ฉันยืนรอเธอนานแล้วนะ" ทั้งสี่สาวได้ยินริวเอ่ยเรียกเจนิสมาอย่างสนิทสนมเพื่อนๆ ของเจนิสถึงกับหลุดยิ้มไปตามๆ กัน

"เร็วสิ" เสียงเข้มปนดุของริวเอ่ยขึ้นมาอีกครั้ง จากนั้นร่างบางก็หันไปบอกกับเพื่อนๆ ของเธอ

"ฉัน...."

"รีบไปเถอะ ช้ากว่านี้ระวังแกโดนพี่ริวผัวฉันจับกินนะจ๊ะ" แซมมี่เอ่ยได้ยินเพียงแค่สองคน เจนิสถึงกับมองค้อนให้กับเพื่อน

"แก อิแซม"

"บาย นะแก เจอกันวันจันทร์" จากนั่นทั้งสามสาวก็เดินไป ด้านริวก็เผยยิ้มทักทายกลุ่มเพื่อนสนิทของเจนิสด้วยเช่นกัน เล่นเอาทั้งสามสาวถึงกับยิ้มแก้มปริไปตามๆ กัน จากนั้นร่างบางก็เดินเข้าไปหาริวที่ยืนหลังพิงรถด้วยท่าทีสบาย

"ขึ้นรถสิ" เมื่อเจนิสเดินมาหยุดตรงหน้าของริว ร่างสูงก็เอ่ยขึ้นทันที เขาตั้งใจมารอรับเธอและจะพาเธอนั้นออกไปหาอะไรทานด้วยนั้นเอง

ด้านแป้งที่เห็นเต็มสองตาว่าเจนิสนั้นออกไปพร้อมกับริว และชายหนุ่มก็ยังมารับเจนิสถึงที่นั้น แป้งอยากจะกรีดร้องออกมาด้วยความเจ็บใจที่เห็นเจนิสนั้นขึ้นรถออกไปกับริว ราวกับว่าพวกเขาสองคนกำลังเปิดตัวกัน แป้งรู้สึกเจ็บจี๊ดขึ้นมาในอกราวกับโดนหักหลังเพียงแค่ริวชวนเธอไปทานเมื่อเย็นแค่วันเดียวฉันก็หวั่นไหวไปกับเขาเสียแล้ว

อีกด้านของชายหนุ่มผมสีทองอย่างเลย์ ที่เดินเคียงคู่อยู่หน้าตึกคณะบริหารพร้อมกับนิสา แฟนสาวนั้น สายตาของเลย์กับสะดุดเข้ากับร่างบางของอดีตแฟนสาวอย่างเจนิสนั้นขึ้นรถสปอร์ตคันหรูของริวไป เลย์ที่เห็นเช่นนั้นใบหน้าหล่อเหลาถึงกับชะงัก ลึกๆ เขากล้ายอมรับอย่างไม่อาย เขารู้สึกเสียดายเจนิสตลอดที่คบกันมา เขาไม่เคยแตะต้องเธอเลย พอมีคนอื่นเข้ามายุ่งกับเจนิสเขาเองก็รู้สึกหวงของขึ้นมาอย่างไม่ทราบสาเหตุ ฝีเท้าที่จะก้าวเดินถึงกับชะงัก

"เลย์ เลย์เป็นไรหรือเปล่า" นิสาเอ่ยถามแฟนหนุ่ม

"เปล่าครับ เลย์ไม่ได้เป็นไร" ด้านนิสา ฉันไม่ใช่คนโง่นะ ที่ดูท่าทีของเลย์ไม่ออก ว่ายังหวงยัยเจนิส อยู่

"แน่ใจนะเลย์ ว่าไม่ได้รู้สึกอะไรจริง" นิสาเอ่ยถามด้วยสีหน้ามีอารมณ์

"ก็เลย์บอกแล้วไง ว่าไม่มีไร ก็ไม่มีสิ นิสา อย่าทำตัวน่ารำคาญให้มากนัก" เลย์ที่หงุดหงิดให้กับอดีตคนกัน ถึงกับต่อว่าแฟนสาวขึ้นมาทันที

"เลย์ นี้พูดอะไรออกมา รู้ตัวบ้างหรือเปล่า" นิสาโกรธแฟนหนุ่มถึงกับเดินหนีออกมา

"สงสัยคงจะรักนังเจนิสมาก ถ้ารักมากแล้วจะมาคบกับฉันทำไม" นิสาได้แต่คิดในใจจริงอยู่ว่าเธอเป็นมือที่สามระหว่างเจนิสและเลย์แต่แล้วไง ยังไงฉันก็ไม่มีทางปล่อยเลย์ให้กับไปหายัยเจนิสเด็ดขาด

ด้านริวหลังจากที่ร่างสูงนั้นพาเจนิสขับรถสปอร์ตคันหรูของริกออกมาแล้วนั้น จากที่ตั้งใจจะพาคนตัวเล็กนั้นไปทานข้าวที่ร้านอาหารกับต้องถูกพับเก็บไว้ เมื่อขับออกมาได้ไม่กี่นาที ร่างสูงกับเหลือบไปเห็นแสงไฟสีสวยสดใสที่ถูกประดับประดาข้างถนนริวถึงกับหักพวงมาลัยเลี้ยวจอดข้างฟุตบาต

ร่างบางที่นั่งเงียบๆ มาตลอดทางกับเอ่ยถามมาด้วยท่าทีสงสัย

"พี่จอดที่นี่ทำไม" เจนิสเอ่ยถามคนตัวโตออกมา

"ลงรถก่อนสิ เดี๋ยวบอก" เมื่อริวเอายมาเช่นนั้นร่างบางก็ยอมลงจากรถอย่างว่าง่าย

ด้านริวหลังจากที่ลงมาจากรถใบหน้าอันหล่อเหลาถึงกับเผยรอยยิ้มให้กับเธอมาด้วยท่าทีตื่นเต้น ด้านเจนิส ฉันพึ่งจะสังเกตุว่าตรงนี้มีงานวัด นี้อย่าบอกนะว่าคนอย่างเขาจะเดินเที่ยวงานวัดจริง ฉันไม่อยากจะชื่อคิดว่าคนรวยๆ แบบเขาจะถนัดเดินห้างหรูๆ ซะอีก ริวเสมองคนตรงหน้าพร้อมกับเอ่ยกับเธอมา

"เจนิส ฉันอยากลองเดินงานวัดหนะ" คำพูดของริวทำเอาเจนิสนั้นแทบจะหลุดขำ รอยยิ้มอันสดใสที่มีเสน่ห์ น้อยครั้งนักที่คนตัวเล็กนั้นจะยิ้มมันให้กับเขา สายลมในเวลาเย็นๆ พัดมาแผ่วเบา ผมยาวปลิวไสว ใบหน้าสวยและรอยยิ้มอันมีเสน่ห์ของเจนิสทำเอาริว นั้นถึงกับชะงักหยุดสายตานั้นแทบไม่ได้ ร่างสูงถึงกับเสียการควบคุมไปชั่วขณะ

"ได้สิ" เสียงหวานที่เอ่ยออกมา แต่นั้นริวยังตกอยู่ในภวังค์ของคนตัวเล็ก

"พี่ริว นี้พี่เป็นอะไรหรือเปล่า" เจนิสเอ่ยถามร่างสูงที่เอาแต่ยืนนิ่ง ริวถึงกับได้สติเขาเผลอมองคนตัวเล็กนั้นนานเกินไป

"หรือจะเถียงว่าไม่ใช่" ริวเอ่ยถามอย่างเจ้าเล่ห์

"คนบ้า..."

ด้านริวเมื่อโดนคำชมจากเจ้าของร้าน ริวถึงกับกับยอมเปลี่ยนใจ มือหนาหยิบธนาบัตรใบสีแดงออกจากกระเป๋า

"เอาหนึ่งร้อยครับ" ริวเอ่ยกับคุณป้าเจ้าของร้าน

"ฉันเปลี่ยนใจละ เล่นต่อดีกว่า" ร่างสูงเอ่ยจบ จากนั้นก็รับยืนมา สายตาคมเล็งกระบอกปืนไปยังตุ๊กตาหลากหลายสีที่ดิ้นดุ๊กดิ๊กๆ รอให้ร่างสูงนั้นยิ่งเป้า

" ปรึก " ร่างสูงยิ่งออกไป สามลูกแต่กับไม่โดนเจ้าตุ๊กตาเลยซักลูก ริวที่ตั้งใจจะโชว์ความแม่นปืนให้กับเจนิสนั่นดู กับกลายเป็นว่าร่างบางนั้นหลุดขำเขาเสียมากกว่า

"เมื่อกี้ฉันแค่เล่นๆ รอบนี้เอาจริง ถ้าฉันยิ่งโดนคืนนี้เธอต้องไปค้างกับฉัน" เสียงทุ่มเอ่ยออกมาพร้อมกับเสมองเจนิสมาด้วยสายตาเจ้าเล่ห์ ร่างบางที่ได้ยินเช่นนั้นถึงกับมองค้อนให้กับริวไปทันที

"บ้าหรือเปล่า ฉันไปตกลงกับพี่ตั้งแต่ตอนไหนกัน" เรื่องอะไรฉันต้องไปนอนกับเขาเล่า ฝันไปเถอะ

ริวพาร่างบางเดินเล่นที่งานวัดราวกับสองชั่วโมง ด้านเจนิสถึงจะไม่ชอบตุ๊กตาอย่างที่พูด แต่ในเมื่อร่างสูงนั้นเล่นปาโป่งมาได้ถึงสองตัว ฉันเลยต้องรับน้องตุ๊กตามาจากเขา

"เจนิส ฉันอุส่าห์ปามาด้วยความรำบากกว่าจะได้หมดตั้งไปหลายร้อย เธออย่าทิ้งมันไปเชียวนะ" ร่างสูงที่เดินออกมาถึงรถเอ่ยกับคนตัวเล็กมา

"มีตั้งสองตัว พี่เก็บไว้ตัวนึงสิ" ร่างบางเอ่ยพร้อมกับยื่นตุ๊กตาอีกตัวให้กับริว

"ฉันเป็นผู้ชาย ใครเขาเล่นของแบบนี้กัน"

"แล้วทำไมให้ฉันหมดเลยละ"

"เพราะใจตั้งใจอยากจะให้เธอ" ริวเอ่ยกับคนตัวเล็ก จากนั้นร่างสูงก็ขับรถพาเจนิสนั้นมาต่อที่ผับเพื่อจะเอารถของริกเปลี่ยนกับรถของตนนั้นเอง

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คลั่งรักร้ายนายวิศวะ