2 เดือนต่อมา
ด้านริวและวันนี้เป็นอีกหนึ่งวันที่สองหนุ่มแฝดนั้นกลับบ้านในรอบหลายเดือน เนื่องจากส่วนใหญ่ทั้งสองนั่นจะคลุกตัวอยู่ที่คอนโดมากกว่า และช่วงนี้ก็เป็นช่วงที่ริวเองต้องเรียนรู้งานในบริษัทจากบิดา หลังจากเรียนจบมาได้ไม่นาน บิดาก็ประเดิมให้เข้าทำงานเลยทันที ส่วนเรื่องของเขาและเจนิสนั้นตั้งแต่วันที่ทะเลาะกับเจนิส เขาแต่เธอก็ไม่ได้ติดต่อกันอีกเลย กลายเป็นว่าเขานั้นเป็นคนในอดีตของเจนิสไปเสียแล้ว เจ็บสุดๆ อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน นับว่าเจนิสเป็นผู้หญิงคนแรกที่ปฎิเสธเขาแบบไม่ใยดี เขารู้ได้เลยทันทีต่อให้ในชีวิตนี้เขามีทุกอย่าง แต่ถ้าเธอไม่เอา เธอไม่ต้องการเขารั้งให้ตายยังไงก็ไม่มีประโยชน์อยู่ดี
หลังจากที่เลิกงานจากบริษัท ร่างสูงของริวเดินเข้ามาในคฤหาสน์ตระกูลดังด้วยใบหน้าอันหล่อเหลาที่ซีดเชี่ยว พอมาถึงริวก็ล้มตัวลงนอนที่โซฟาตัวยาวภายในห้องรับแขก ฝ่ามือหนาล้วงเข้ากระเป๋ากางเกงหยิบยาดมขึ้นมาสูดเข้าจมูก เพื่อบรรเทาอาการเวียนหัว ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาเขานั้นรู้สึกแปลกๆ เบื่ออาหาร และมักจะเวียนหัวแบบนี้อยู่บ่อยๆ
"ให้ตายเถอะ นี้เขาเป็นอะไร" ริวได้แต่ครุ่นคิดกับอาการที่ตนกำลังเผชิญ
ด้านริกขณะที่เดินตามหลังน้องชาย เห็นสภาพของริวถึงกับขมวดคิ้วขึ้นมาด้วยท่าทีสงสัย จะว่าอาการอกหักโดนเมียทิ้งก็ไม่น่าใช่ เพราะริวและเจ นิสนั้นทั้งสองไม่ได้ติดต่อกันนานร่วมเดือน อีกอย่างก่อนหน้านี้ริวเองก็คลุกทำงานอยู่ที่บริษัทมากกว่าคลับ ซึ่งต่างจากตอนเป็นนักศึกษานั้นเอง จะว่าอกหักเมาค้างก็ไม่น่าใช่
"สภาพไม่น่ารอดแบบนี้ยกซักแก้วไหม เผื่ออาการเวียนหัว จะได้ดีขึ้น" ริกเอ่ยพร้อมกับเผยรอยยิ้มร้ายให้กับริวที่นอนอยู่บนโซฝาด้วยท่าทีหมดสภาพ โดนสาวทิ้งถึงกับล้มป่วยก็ไม่ใช่
"สัสริก" ริวเอ่ยว่าให้กับริกมาด้วยท่าทีไม่พอใจนัก ที่เขารู้สึกเวียนหัวแบบนี้ไม่ใช่เพราะเมาค้างอย่างที่ริกคิดหรอกนะ
"ปากดีแบบนี้ แสดงว่ามึงไม่เป็นอะไรมาก ไม่ถึงขั้นให้กูต้องเรียกรถพยาบาลให้" ริกที่เห็นท่าทีของริวถึงกับหลุดรอยร้ายยิ้มออกมา จากนั้นก็หยิบขวดบรั่นดีนั้นขึ้นมาเพื่อจะดื่ม แต่ในจังหวะนั้นคุณหญิงปรางทิพย์ที่กำลังจะไปงานสมาคมก็เดินเข้ามาทักสองหนุ่มของบ้านทันที
"ว้าย...นี้แม่ไม่ได้ตาฟาดไปใช่ไหม ลมอะไรหอบ ลูกชายแม่เข้าบ้านคะ" มารดาที่เห็นใบหน้าของบุตรชายทั้งสองถึงกับรีบเดินเข้ามานั่งข้างริวที่นอนอยู่บนโซฟา
"ไม่มีลมอะไรหอบทั้งนั้นแหละครับ แค่แอบมาดูว่าคุณพ่อไม่อยู่คุณหญิงปรางทิพย์จะแอบคุณพ่อไปเที่ยวที่ไหน" ริกเอ่ยพร้อมกับผุดรอยยิ้มให้กับมารดาด้วยท่าทีเจ้าเล่ห์
"ต๊าย...จริงลูกคนนี้ทำไมถึงได้ว่าแม่แบบนี้ได้นะคะพี่ริก" เมื่อโดนบุตรชายคนโทษแกล้งเอ่ยเช่นนั้นถึงกับมองค้อนริกทันที
"ผมแค่ล้อเล่นเองครับคุณแม่" ริกเอ่ยพร้อมกับเดินเข้ามาสวมกอดมารดา ซึ่งนานๆ กลับเข้าคฤหาสน์ที ก็มีลูกอ้อนกับมารดาเป็นธรรมดา แต่คุณหญิงปรางทิพย์กับต้องขมวดคิ้วขึ้นมาด้วยท่าทีสงสัย ปกติลูกอ้อนแบบนี้มักจะเป็นบุตรชายคนเล็กของท่านเสียมากกว่า
"ตาริว เป็นอะไรหรือเปล่าลูกหน้าซี๊ดเชียว" มารดาที่เห็นสีหน้าและท่าทีของริวถึงกับรีบอังมือมาที่หน้าผากของบุตรชายคนเล็กด้วยท่าทีเป็นห่วง ที่ดูไม่ปกติเอาเสียเลย
"ผม แค่เวียนหัวครับ คุณแม่" ริวเอ่ยด้วยเสียงเบา
"แล้วนี้ทานยาหรือยัง หรือให้แม่บ้านเอามาให้ไหม"
"ไม่เป็นไรครับคุณแม่ ผมแค่รู้สึกอยากทานอะไรเปรี้ยวๆ เวียนหัว คลื่นใส่เหมือนจะอาเจียน" ริวเอ่ยกับมารดาด้วยสีหน้าซีดเชี่ยว เขารู้สึกอยากทานอะไรแปลกๆ แบบที่ไม่เคยทาน
"เครียดเรื่องงานที่บริษัทหรือเปล่าลูก"
"เจนิส นิจะครึ่งแล้วนะ เธอไม่ตื่นไปเรียนเหรอ" ต้นเตยเอ่ยถามขณะที่ร่างบางนั้นกำลังจะก้าวขาออกจากห้อง เพราะต้นเตยกับฉันเราเรียนกันคนละคณะ คนละสาขาแต่เราแชร์ค่าห้องพักกัน
"ไปสิ แต่วันนี้ฉันรู้สึกเพลียๆ ง่วงๆ อะ เธอไปก่อนเลย" เจนิสเอ่ยกับเพื่อนด้วยสีหน้าอันซีดเซียว พร้อมกับซุกตัวใต้ผ้าห่ม อากาศหนาวๆ เย็นๆ แบบนี้ฉันก็ไม่อยากจะตื่น
"เป็นไร ไม่สบายเปล่า" ต้นเตยเอ่ยถามเจนิสมาด้วยความเป็นห่วง เพราะปกติเจนิสจะตื่นเช้ากว่าเธอเสียอีก แต่สองสามวันมานี้ ฉันกลับจากเลิกเรียนก็เห็นว่าเจนิสนั้นเอาแต่นอนเหมือนคนไม่สบาย
"เปล่า...ฉันแค่รู้สึกเพลียๆนะ" เมื่อเจนิสเอ่ยจบร่างบางที่กำลังจะลุกจากที่นอน แต่จู่ๆ กับรู้สึกมีก้อนอะไรบางอย่างวิ่งมาจุกที่ลำคอของฉัน เจนิสรู้สึกพะอืดพะอมถึงกับทนไม่ไหว ร่างบางถึงกับวิ่งเข้าไปอ้วกในห้องน้ำทันที
!! โอ้ก อาก !! ต้นเตยที่เห็นท่าทีของเจนิสแบบนี้มาสองถึงสามวันติด รูมเมทถึงกับรีบตามเจนิส มือเรียวมือลูบเข้าที่แผ่นหลังของเพื่อน
"เจนิส ฉันว่าพักนี้เธออาการแปลกๆ ไปหาหมอไหม เดี๋ยวฉันพาไปเอง" ต้นเตยเอ่ยมาด้วยสีหน้าเป็นห่วง แม้ว่าเธอพึ่งจะรู้จักกับเจนิสได้แค่เดือนเดียว แต่เจนิสทั้งสวยน่ารัก และนิสัยดีเธอถึงได้ชอบและเป็นห่วงเพื่อนร่วมห้องเอามักมาก
"แต่เธอมีเรียนช่วงเช้านะ รีบไปเรียเถอะ" เจนิสเอ่ยกับเพื่อนด้วยสีหน้าดูไม่ดี
"ไม่เป็นไร ฉันค่อยขอเล็คเซอร์กับเพื่อนก็ได้ อย่าห่วงฉันเลย ห่วงตัวเองก่อนเถอะ เป็นอะไรขึ้นมาจะยุ่งเอา " ต้นเตยเอ่ยกับคนหน้าซีดอย่างเจนิส ขณะที่ร่างบางนั้นยังคงคลื่นไส้ อ้วกออกมาจนไม่มีอะไรเหลือตกถึงท้อง ต้นเตยที่เห็นว่าเจนิสอ้วกหนักขึ้นทุกวันยิ่งปล่อยไว้แบบนี้ไม่ได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คลั่งรักร้ายนายวิศวะ
ไม่อัพต่อแล้วเหรอคะ...