เขาในเวลานี้ไม่ได้สง่าเหมือนเมื่อแต่ก่อน แต่เหมือนผ้าที่มีฝุ่น ครึมๆ ดูไม่สว่าง
“โอโห้ นี่มันเกิดอะไรขึ้น จงใจหรือเปล่าเนี่ย ขนาดนังนั่นก็มาที่สนามบินด้วย คงไม่ได้จะไปฮ่องกงเหมือนกันหรอกนะ”
ทันใดนั้นนาโนมองไปยังข้างหลัง เอ่ยปากพูดอย่างเหยียดๆ
ด้วยความใคร่รู้นั่นเองทำให้ผู้คนตรงนั้นต่างหันหลังไปแล้วก็เห็นเรนนี่ถือกระเป๋า ระยะห่างระหว่างกันไม่ได้ไกลมาก ดังนั้นคำที่เธอพูดก็ได้ยินเข้าหูเธออย่างชัดเจน
ยู่ยี่แต่งงาน เขายังกล้าไป หึหึ ดูเหมือนว่ารักมากจริงๆ ในเวลาเดียวกันก็ทำให้ความโกรธที่อยู่ในใจของเธอรวมไปถึงความเคียดแค้นก่อให้เริ่มก่อตัวขึ้น
“นังเรน นี่แกไม่รู้ว่าจะไปทางไหนดีหรอ?” นาโนยิ้มสวยเป็นพิเศษ
มือของเรนนี่ที่ถือกระเป๋ากำแน่น ไม่ตอบเธอ
“เรื่องมันคงไม่ได้บังเอิญอย่างนี้หรอกมั้ง หัสดินคุณคงไม่ได้นัดแนะกับนังเรนแล้วออกมาด้วยกันอย่างนี้หรอกนะ?”
ครั้งนี้หัสดินเอ่ยปากพูดขึ้นอย่างรังเกียจและไม่แยแสโดยไม่ปกปิดว่า “อย่าพูดถึงมันต่อหน้าผม ผมไม่อยากได้ยินชื่อนี้อีก!”
ความรังเกียจที่เผยออกมาเหมือนเจอของที่น่ารังเกียจอย่างขี้มูก
เรนนี่สะเทือนจิตใจอย่างจังๆ หัวใจเต้นเร็ว เส้นโลหิตห้อขึ้น เขาพรรณาเธอว่าน่ารังเกียจอย่างนี้ต่อหน้าผู้คนเยอะๆในสนามบิน
ในเมื่อทำเธอจนตรอกอย่างนี้ เธอจะปล่อยเขาไปได้ยังไง!
“หึหึหึ ฉันลืมบอกแกไปเรื่องนึง! ยังจำครั้งแรกที่แกนอกใจได้มั้ย นั่นมันไม่ใช่อุบัติเหตุแล้วก็ไม่ใช่ความผิดพลาด แต่เป็นแผนของฉันเอง เข้าใจมั้ย!”
มือของหัสดินที่อยู่ข้างกายกำแน่นจนเสียงกระดูกดังขึ้นกรุบ พูดเสียงกัดฟันออกมาว่า “แกพูดว่าไงนะ?”
“ฉันบอกว่าครั้งแรกที่แกนอกใจมันไม่ได้เป็นอุบัติเหตุและก็ไม่ใช่ความผิดพลาดด้วย แต่เป็นแผนการฉันเอง แกเหมือนคนโง่ที่โดนฉันหลอกเล่นมาตั้งหลายปี!” สีหน้าของเขานั้นทำให้เรนนี่มีความสุขอย่างที่สุด เธอยกมุมปากฉีกยิ้มอ่อนแล้วเอ่ยปากพูดอย่างชัดถ้อยชัดคำ
ในที่สุดก็ทำให้หัสดินโกรธอย่างขีดสุด เขาเหมือนสิงโตที่อยู่ในอารมณ์โมโหอย่างยิ่ง แล้วยกกำปั้นซัดเข้าไปที่เรนนี่
เรนนี่ไม่ได้คาดคิดก็โดนหมัดนั้นเข้าไปเต็มๆ ตัวเธอเองทรุดลงไปอยู่ที่พื้น ข้างแก้มซ้ายนั้นบวมแดงขึ้นมาทันที ที่มุมปากมีเลือดไหลออกมา
ที่นี่คือสนามบินมีผู้คนที่สัญจรไปมาต่างก็ได้เห็นภาพเหตุการณ์นั้น สายตาของทุกคนก็หันมามองอย่างใคร่รู้
หัสดินไม่สนสายตาเหล่านั้น กัดฟันกรอดๆเหมือนคนบ้าเดินเข้ามายังเรนนี่
ออกัสหรี่ตาลงทันใดนั้นก็เอาเด็กที่อยู่ในอ้อมกอดยื่นให้กับเชอร์รีน แล้วเดินมาข้างหน้ามากั้นหัสดินไว้
“อย่ามาขวาง! อย่ามาขวางฉัน! ปล่อย!” ดวงตาเขาแดงฉาน เหมือนเส้นเลือดแตก เขาใช้แรงขัดขืน
ส่งซิกให้กับดนัยเขาก็รีบเข้ามาที่ด้านหน้าทันทีเพื่อมาจับแขนของหัสดินอีกข้างนึง แล้วพาตัวเขาไปที่ห้องพักรับรอง
ในเวลานี้หัสดินที่ดวงตาแดงก่ำด้วยความโกรธมือของเขาก็ไม่ลืมที่จะลากแขนของเรนนี่เข้าไปในห้องพักรับรองด้วย
ประตูห้องพักรับรองได้ถูกปิดลง หัสดินก็เปลี่ยนเป็นหัวร้อนขึ้นมาอีก เขาเดินเข้าไปมือทั้งสองคว้าปกคอเสื้อของเรนนี่ แล้วใช้แรงต่อย
เรนนี่ไม่มีแรงที่จะรับมือเลย ทำได้แค่ผู้ถูกกระทำ ที่มุมปากมีเลือดสดๆไหลออกมาแต่กลับพูดอย่างไม่สะทกสะท้านว่า “แกมันโง่! โง่มาก! ถูกฉันหลอกมาได้หลายปี ฮาๆๆๆ!”
ยิ่งเธอหัวเราะมากเท่าไหร่ ความโมโหของหัสดินก็ยิ่งมีมากขึ้นเท่านั้น และด้วยความโมโหของเขาที่มีมากนี่เอง แรงที่อยู่บนมือเขาก็ลดละไปไม่ได้เลย
หัสดินเหมือนคนบ้า เรนนี่ก็เหมือนคนบ้า
ออกัสกับดนัยก็ไม่ได้เข้าไปห้าม พวกเขามองดูอยู่กับที่ เชอร์รีนรู้สึกน่าจะพอลงได้แล้ว
ขนาดนาโนก็รู้สึกว่ากลิ่นอายของความดุและความโมโหร้ายของหัสดิน ทำให้เธอตะลึงอยู่กับที่
ถ้าลองเป็นผู้หญิงคนอื่นคงคุกเข่าร้องขอชีวิต แต่นี่เป็นเรนนี่ เธอกลับไม่ได้ทำอย่างนั้น เธอยังคงหัวเราะ มุมปากแฝงรอยยิ้ม หัวเราะเสียงดังมาก
เขาโกรธมากและมากที่สุด แค่คงความโกรธนี่ไว้เท่านั้น เธอจะทำให้เขารู้ว่า เธอไม่มีความสุขเขาก็ต้องไม่มีเหมือนกัน ไปลงนรกด้วยกันเถอะ!
“การพบกันโดยบังเอิญหลายครั้งนั้นก็เป็นแผนการของฉัน ความรู้สึกหลังจากที่ได้รู้ความจริงเป็นยังไง อยากที่จะฆ่าฉันล่ะสิ มาสิ ฆ่าฉันเลย! ฆ่าฉันเลย!” เรนนี่ร้องตะโกนเหมือนคนบ้า
คำพูดเหล่านั้นเป็นเหมือนเพลงกล่อมเด็กที่ดังเข้าโสตประสาทของหัสดิน เขาส่งเสียงโมโหแล้วต่อยไปที่ร่างของเรนนี่อย่างไม่พัก
“พอแล้ว! ไปห้ามเขา! ขืนเป็นอย่างนี้ต่อไปคงมีคนที่ต้องเป็นอะไรไปแน่! เชอร์รีนเอ่ยขึ้น
ออกัสก็เฝ้าดูมาตลอด คงไม่ให้เขาก่อเรื่องวุ่นวายอะไรแน่ ได้ยินดังนั้นแล้วเขาก็ไปห้ามหัสดินเอาไว้
เรนนี่ยังคงหัวเราะ ท่าทางโมโหร้ายของหัสดินนั้นกลับทำให้เขาอยากที่ฉีกเลือดฉีกเนื้อของเธอไม่ให้เหลือ
ขณะที่จะออกจากสนามบินนั้นออกัสก็เรียกให้พนักงานรับผิดชอบของสนามบินเข้ามาเพื่อทำลายภาพในกล้องวงจรปิดนั้นออกแล้วเรียกหมอ แล้วผู้คนกลุ่มนั้นก็เดินออกไป
ระหว่างทางนั้นออกัสกับดนัยก็ควบคุมหัสดินไว้กลัวว่าเขาจะบ้าขึ้นมาอีก!
แล้วเขาก็ยื่นมือออกไปจับออกัสแล้วก็ดนัย เป็นมารยาทและท่าทางระหว่างผู้ชาย
ในขณะนั้นเองหัสดินก็เดินเข้ามา ยู่ยี่ตะลึงอยู่กับที่ เชอร์รีนพูดเสียงเบาข้างเธอว่าพวกเธอก็ไม่รู้ว่าหัสดินจะมาด้วย
สายตาของหัสดินจ้องมองยู่ยี่อย่างลึกซึ้ง มุมปากสั่นน้อยๆ เหมือนมีล้านคำอยากที่จะพูดออกมาแต่ไม่รู้ว่าจะเริ่มจากตรงไหนดี อึดอัดมาก
ยู่ยี่กวาดตามองมาที่เขา แล้วหันสายตาเบนออกไปทางอื่น สายตานั้นนิ่งเหมือนน้ำ
“ห้องชุดได้จองไว้เรียบร้อยแล้วครับ แค่คิดไม่ถึงว่าประธานหัสดินจะมาด้วย รอสักครู่นะครับ ผมจะโทรบอกพวกเขาก่อน” ท่าทางของฉันทัชดูไม่แยแสยิ่งกว่า
แล้วคำพูดนั้นก็ปกติอย่างที่สุด หัสดินกลับให้รู้สึกสุดทน เรื่องความเป็นอยู่ของเขาจะต้องให้ผู้ชายของเธอมาจัดการให้ตั้งแต่เมื่อไหร่?
“ไม่ต้องหรอกครับ ขอบคุณความหวังดีของประธานฉันทัช ผมจะหาที่ที่เหมาะกับผม”
ทางนี้ได้จองห้องพักไว้เรียบร้อยแล้ว แล้วเขาก็เจตนาดี เลยไม่กล้าที่จะปฏิเสธ ออกัสจึงไม่ได้พูดว่าอะไร
“ทุกคนมาถึงฮ่องกง ผมก็จะพยายามเป็นเจ้าบ้านนะครับ กระเป๋าเดินทางของทุกคนจะถูกนำไปไว้ที่โรงแรม ร้านอาหารได้จองไว้เรียบร้อยแล้ว ไปกินอาหารกันก่อน….” ท่าทางของฉันทัชดูสุภาพบุรุษและมีมารยาท
ไม่มีเหตุผลที่จะปฏิเสธ ทุกคนต่างรับปาก ยกเว้นหัสดิน เขาถือกระเป๋าเดินทางบอกว่าจะไปหาโรงแรม
พูดจบหัสดินก็ไม่ได้มองคนกลุ่มนั้น เขาถือกระเป๋าแล้วหันหลังเดินออกไปคนเดียว ภาพด้านหลังงอตัวน้อยๆทำให้คนมองรู้สึกลำบากใจ
ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่หรืออาจจะไม่ทันตั้งตัว เขาดูเป็นคนที่น่าสงสาร….
ฉากนั้นก็ให้รู้สึกทำตัวไม่ถูกกัน แต่ยังดีที่ซารางเจ้าตัวเล็กนั้นอยู่ ส่งเสียงร้องบอกว่าหิวแล้วจะกินอาหาร
คนกลุ่มนั้นไม่ได้สนใจหัสดินอีกแล้วไปยังร้านอาหารที่จองไว้ แน่นอนว่ามันต้องเป็นดูสวยหรูหรา ไม่ธรรมดา
บนโต๊ะอาหารนั้น พวกผู้หญิงไม่ได้เจอกันนานก็เลยพูดเม้ามอย คุยโน่นคุยนี่กันสารพัด
บรรยากาศระหว่างพวกผู้ชายไม่เหมือนกับพวกผู้หญิง มันค่อนข้างที่จะแปลกๆดูไม่สนิท จะว่าไปคนทั้งสองก็ไม่ได้สนิทกับฉันทัช
หน้าตาอันหล่อเหลานั้นมีรอยยิ้ม ฉันทัชเอ่ยหัวข้อสนทนาขึ้นมาให้บรรยากาศมันไม่เงียบเชียบไปมากกว่านี้ เสียอย่างไรเขาก็อายุมากกว่าคนทั้งสอง ประสบการณ์ที่ผ่านมาก็เยอะ ก็เลยแก้ไขบรรยากาศได้เป็น
หลังจากนั้นคนทั้งสามก็พากันพูดคุย หัวข้อการพูดคุยนั้นไม่ลึกไม่ตื้น พอดีๆ
ระหว่างที่พูดคุยกัน เขาก็ไม่ลืมที่จะตักอาหารให้ยู่ยี่ เธอบอกว่าเธอตื่นเต้นถึงขนาดลืมกินข้าว ฉันทัชเลยพูดเตือนเธอเสียงเบาตลอดเวลา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ครูเจ้าเสน่ห์คนนี้ประธานจอง