หลังจากนั้นก็วางสายไป ยู่ยี่ไม่ใช่คนประเภทที่หย่ากันแล้วจะสามารถเป็นเพื่อนกันได้ ไม่ว่าตอนนี้จะกลับใจอย่างถึงที่สุด แต่ความเจ็บปวดพวกนั้นที่สร้างขึ้นไม่มีทางหายไป
เมื่อถูกตัดสายไป หัสดินยิ้มอย่างขมขื่น ออกัสตบบ่าของเขา “ถึงแม้ฉันจะไม่อยากพูด แต่จำเป็นต้องเตือนนาย ว่าเรื่องบางเรื่องจบลงแล้ว ก็จบลงโดยสิ้นเชิง!”
“นายตัดทางตัวเองในตอนแรก ฉันกับเขาเคยเตือนนายหลายครั้งแล้ว แต่ก็ไม่มีประโยชน์ แต่มาถึงจุดนี้ หัสดิน นายควรจะลืมได้แล้ว”
นี่เป็นครั้งแรกที่ดนัยร่วมงานแต่งงานแล้วรู้สึกเป็นทุกข์ขนาดนี้
หัสดินยืดตัวตรง แล้วฝืนยิ้มมุมปาก
กลางดึก ดนัยและออกัสกลับไปแล้ว
เจ้าสาวถอดชุดแต่งงานบนตัวออก แล้วสวมชุดกี่เพ้า เมื่อเห็นเขาเข้ามา ก็รู้สึกประหม่าเล็กน้อย
“คุณไม่จำเป็นต้องประหม่าหรอก นอนเถอะ” หัสดินนอนบนอีกข้างหนึ่งของเตียง เรื่องราวมาถึงขั้นนี้แล้ว แต่กลับรู้สึกเหนื่อยกายเหนื่อยใจ
เจ้าสาวจ้องมองเขา ส่วนหัสดินหลับตาลง แล้วหลับใหลไป
...
สถานที่จัดงานแต่งงานมี นาโน เชอร์รีน และยู่ยี่ เป็นคนเตรียมการ รวมทั้งรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ดอกไม้ โต๊ะเก้าอี้
นาโนถามขึ้น “ ฉันทัชจะมาตอนไหน?”
ยู่ยี่มองดูเวลา: “ตอนนี้กำลังประชุมอยู่ที่บริษัทน่ะ น่าจะมาถึงเมือง S ตอนสองทุ่มตรงวันนี้”
“เขาเป็นถึงเทพบุตรของฉัน ผู้ชี้นำของชีวิต ต้องมาแน่อยู่แล้ว ไม่อย่างงั้นฉันจะโกรธเขา!”
ยู่ยี่หัวเราะ แล้วส่ายหน้า จากนั้นก็ตรวจสอบ ดูว่ามีปัญหาตรงไหนหรือไม่ จำเป็นต้องตรวจสอบตั้งแต่ต้นจนจบอีกครั้งไหม
งานแต่งงานวันมะรืนนี้ เหลือเวลาไม่มากเท่าไหร่แล้ว ทุกอย่างที่เตรียมพร้อมจะต้องทำการตรวจสอบ
ราชาโทรมา บอกว่าเขาไม่มาร่วมงาน สำหรับซองแดงค่อยให้ตามหลัง ส่วนเขาไม่มาแล้ว ช่วงนี้เขายุ่งมาก
นาโนรู้ว่าที่เขาพูดว่ายุ่งก็แค่หาข้ออ้างแค่นั้น เขาไม่อยากมา ไม่อยากเห็นภาพนั้น
“ตกลง คิดถึงคังซีไหม? อีกไม่กี่วันฉันจะอุ้มคังซีไปหานาย อยู่ที่บ้านนายสักสองสามวัน” เธอรู้ว่าเขาคิดถึงคังซี สปอร์บอกว่าเขาดูรูปของคังซีทุกวัน
“ดี มาแค่คังซีก็พอ พวกเธอไม่ต้องมา” ครั้งนี้ราชาตอบรับอย่างรวดเร็ว
ทั้งสองคุยกันอีกไม่กี่ประโยค จากนั้นก็วางสายไป ตรงที่ที่นาโนมองไม่เห็น ราชานั่งดื่มเหล้าอยู่บนโซฟา แล้วหลับตาลง
มีความยืนหยัดแบบหนึ่งที่เรียกว่าความรู้สึก มีการปล่อยวางแบบหนึ่งที่เรียกว่าสนับสนุนเต็มที่!
อันที่จริง ไม่ว่ายืนหยัดหรือปล่อยวาง ทางเลือกอยู่ในมือของเธอ แต่เธอไม่เคยเลือกเขาเลย เพียงแค่เธอมีความสุขก็พอ...
ทั้งคืน เชอร์รีนไม่คิดที่จะกลับไปบ้านตระกูลสิริไพบูรณ์ ยู่ยี่ก็ไม่กลับไป ทั้งหมดวางแผนจะอยู่เป็นเพื่อนนาโน
“ผ่านเรื่องราวมาเยอะแยะขนาดนั้นแล้ว ท้ายที่สุดก็ต้องเรียนรู้บทเรียนชีวิต สมองของฉันไม่ขาดแคลนรอยหยักสักหน่อย เป็นยังไงบ้าง ไม่ได้เจอกันนาน พัฒนาขึ้นเยอะไหม?” ใบหน้าอันเย้ายวนของนาโนโอ้อวดขึ้นเยอะ ท่าทางนั้น ไม่ต้องพูดว่าลำพองใจแค่ไหน
“จ้าจ้าจ้า เธอเก่ง เธอฉลาดมาก ใครจะเทียบกับนาโนของฉันได้?” ยู่ยี่ให้ความร่วมมือเป็นอย่างมาก
ทั้งสามมองตากัน แล้วพากันหัวเราะออกมา ในตอนนี้ภายในห้องเต็มไปด้วยความสุขลึกซึ้ง
ทั้งสามวางแผนว่าจะโต้รุ่ง พูดคุย เล่าเรื่องตลก หัวเราะอย่างมีความสุข ไม่ต้องพูดว่าครึกครื้นขนาดไหน
เวลาห้าทุ่มตรง ฉันทัชก็มาถึง
เขาแต่งตัวสบาย ๆ แต่ความสง่างามและมีออร่าที่ผ่านการฝึกฝนมาไม่สามารถใช้เสื้อผ้าปกปิดได้: “รบกวนพวกคุณสังสรรค์กันหรือเปล่าครับ?”
“ไม่ค่ะ คุณมาได้ถูกจังหวะพอดี” นาโนกำลังยิ้ม; “ขอบคุณการมาถึงของเทพบุตรฉันทัชค่ะ”
ริมฝีปากอวบอิ่มยิ้มเล็กน้อย ฉันทัชหยิบถุงที่สวยงามออกมา มีสองถุง: “นี่คือของขวัญของพวกคุณครับ...”
นาโนขมวดคิ้ว สีหน้าดีใจมากและก็ประหลาดใจ: “มีของขวัญด้วยเหรอคะ?”
“คุณเป็นนักออกแบบเครื่องประดับ ผมไม่ได้จะมอบเครื่องประดับให้คุณ นั่นเป็นความเชี่ยวชาญของคุณ นี่เป็นน้ำหอมสองรุ่น หวังว่าพวกคุณจะชอบครับ…”
“เทพบุตรมอบให้ ไม่ว่าอะไรฉันก็ชอบทั้งหมดค่ะ” นาโนชนไหล่เชอร์รีน: “ใช่ไหม เชอร์รีน?”
เชอร์รีนก็รู้สึกเกรงใจ: “คุณฉันทัชเอาของขวัญมาด้วยทุกครั้ง ส่วนพวกเรามักจะไม่ได้เตรียมของขวัญ รู้สึกเกรงใจจริง ๆ ค่ะ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ครูเจ้าเสน่ห์คนนี้ประธานจอง