คุณคือของขวัญจากฟ้า นิยาย บท 24

เธอกวักมือเรียกเหนือเมฆ "มานั่งสิ"

เหนือเมฆเดินเข้าไปนั่งข้างๆ เธอ

"ลูกสาวของฉันเป็นเด็กน่าสงสาร เดิมที่ไม่อยากให้เรื่องนี้แพร่ออกไป แต่ว่าฉันกับพ่อของเธอก็แก่แล้ว เธอควรจะหาคนที่รักและเอ็นดูเธอสักคนแล้วจริงๆ "

บุษบาส่ายหน้า ในฐานะแม่ของมณิกา ถึงแม้ว่าจะเป็นแม่บุญธรรม แต่เธอก็เลี้ยงมณิกามาจนโต

ความรักที่เธอมีต่อมณิกานั้นอยู่เหนือทุกสิ่งอย่าง

เธอรู้ว่าไม่ควรทำให้มณิกาสูญเสียผู้ชายดีๆ ไปเพียงเพราะต้องหาเงินมาจ่ายค่ารักษาพยาบาลของตาแก่ถึงแม้ว่าเรื่องราวจะถูกเปิดเผย เธออาจจะถูกตระกูลธนัตถ์โชติไล่ออกจากโรงพยาบาล แต่เธอก็จะพูด

"ดูสิ เด็กผู้หญิงที่อยู่ในภาพถ่ายคนนี้สวยและน่ารักมากแค่ไหน"

บุษบาชี้ไปที่คนในภาพถ่ายแล้วยิ้มอย่างอ่อนโยน "เธอคือลูกสาวของฉัน ณิกา"

"ณิกา? นี่... ไม่ใช่ลูกสาวของทัพทอง ธิกานต์เหรอ?"

ในสังคมชนชั้นสูง มีเพียงไม่กี่คนที่ไม่รู้จักผู้หญิงที่หน้าตาดีมีความสามารถอันดับหนึ่งอย่างธิกานต์

"ใช่แล้ว ถอดมาจากแม่พิมพ์เดียวกัน จริงๆ แล้วณิกาไม่ใช่ลูกสาวแท้ๆ ของฉัน แต่เป็นลูกที่ฉันรับมาเลี้ยง พ่อแม่แท้ๆ ของเธอก็คือทัพทองและวิมล แล้วเธอกับธิกานต์ก็เป็นฝาแฝดกัน หน้าตาเหมือนกันยังกับแกะ"

"เหมือนกันยังกับแกะ?"

เรื่องนี้มันกะทันหันเกินไป เหนือเมฆตกใจจนพูดไม่ออก

เด็กหญิงที่อยู่ในภาพมีผิวขาว รอยยิ้มบริสุทธิ์และน่ารักราวกับดอกไม้ที่กำลังผลิบาน

มันแตกต่างจากมณิกาที่ผิวคล้ำ คิ้วหนาและมีกระบนใบหน้ามากเกินไป เขาถึงขั้นจินตนาการไม่ได้ว่าผู้หญิงที่ขี้เหร่คนนั้นจะเกิดมาสวยขนาดนี้

"เธอไหม ลูกสาวของฉันสวยมากเลย"

บุษบาอดไม่ได้ที่จะชื่นชมลูกสาวของตัวเอง แต่สีหน้าของเธอกลับดูมืดมน สายตาของเต็มไปด้วยความสงสาร "แต่ตั้งแต่สองสามเดือนก่อนที่ฉันและพ่อของเธอประสบอุบัติเหตุ ต้องนอนโรงพยาบาล ไม่มีเงินจ่ายค่ารักษาพยาบาลจนเกือบจะถูกไล่ออกไป พ่อแม่แท้ๆ ของเธอก็ปรากฏตัวขึ้นมา บอกว่าจะช่วยเราจ่ายค่ารักษาพยาบาลทั้งหมด "

"แบบนี้เหรอครับ งั้นตระกูลธนัตถ์โชติก็ไม่ได้เลวขนาดนั้น"

เพราะการอุทิศตนเพื่อการกุศลของตระกูลธนัตถ์โชติล้วนแต่เป็นเรื่องที่ทุกคนในเมืองจันทรารู้กันดีอยู่แล้ว

"ไม่เลวอะไรกัน เขาจะจ่ายค่ารักษาพยาบาลทั้งหมดให้เรา แต่ต้องให้ลูกสาวของฉันบริจาคไขกระดูกให้ลูกชายที่เป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาวของเขา และไม่ให้เธอเปิดเผยใบหน้าที่เหมือนกันกับธิกานต์! ไม่เช่นนั้น ลูกสาวของฉันจะทำตัวขี้เหร่แบบนั้นทำไม ขี้เหร่จนฉันกลัวว่าเธอจะหาแฟนไม่เจอ"

พูดจบ เธอก็เอื้อมมือออกไปจับมือเหนือเมฆแล้วพูดอย่างสนิทสนม "เหนือเมฆ ป้ารู้ว่าคุณเป็นเด็กดี ถึงเล่าเรื่องพวกนี้ให้คุณฟัง ป้าอยากให้คุณรู้ว่า ลูกสาวของป้าไม่ได้ขี้เหร่ คุณอย่าได้รังเกียจเธอ ต้องดีกับเธอให้มากๆ "

เหนือเมฆทำสีหน้าสับสน ตกอยู่ในภวังค์ของข้อมูลที่มากมายมหาศาลเมื่อกี้ เขายังสงบอารมณ์ขอตัวเองไม่ได้

คนที่ขี้เหร่จนไม่มีเพื่อนคบอย่างมณิกา หน้าตาเหมือนธิกานต์?

แล้วเธอเป็นลูกสาวแท้ๆ ของทัพทอง

อยู่ในเมืองจันทราเหมือนกัน แต่ตระกูลธนัตถ์โชติไม่เพียงแต่ไม่ให้มณิกากลับไปอยู่ที่บ้านของตระกูลธนัตถ์โชติ แล้วยังบังคับให้เธอบริจาคไขกระดูกเพื่อรักษาลูกชายที่เป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาวของตัวเอง!

เขาถึงขั้นสงสัยว่า อุบัติเหตุของพ่อแม่บุญธรรมของมณิกามันมีลับลมคมในรึเปล่า

ไม่เช่นนั้น ทำไมเรื่องทุกอย่างมันถึงได้บังเอิญขนาดนี้

"ตระกูลธนัตถ์โชติไม่ยอมให้พูดเรื่องนี้ ถ้ามีคนรู้ พวกเขาก็จะไม่ออกค่ารักษาพยาบาลให้ตาแก่ แต่ว่าพวกเราแก่แล้ว เราจะทำให้มณิกาเสียอนาคตที่ดีเพราะพวกเราไม่ได้ เราจะเห็นแก่ตัวขนาดนั้นไม่ได้"

นี่ก็คือเหตุผลที่ทำไมบุษบายืนกรานที่จะออกจากโรงพยาบาล

เธออยากออกจากโรงพยาบาล หยุดการรักษา จากนั้นก็ให้มณิกาออกไปจากเมืองจันทรา ให้เธอออกไปใช้ชีวิตของตัวเอง ไม่ต้องทำตัวเป็นคนขี้เหร่อีกต่อไป

"แบบนี้ ตระกูลธนัตถ์โชติทำเกินไปแล้ว"

จิตใจที่สับสนของเขาก็ค่อยๆ สงบลง แต่ทุกครั้งที่เขานึกถึงมณิกา เขาก็จะกลับมาไม่สงบอีกครั้ง

จู่ๆ เขาก็มีความคิดหนึ่งวาบขึ้นมาในหัว นั่นก็คือ เขาอยากให้วศินและบุษบาย้ายไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลอื่น ค่าใช้จ่ายทั้งหมดเขาจะรับผิดชอบเอง

ตระกูลโยธินของเขา ไม่ได้ขาดแคลนเงิน

"คุณป้า ถ้าผมเป็นคนออกค่ารักษา ณิกายังต้องทำตัวขี้เหร่อยู่รึเปล่า?"

"ทำไมกัน คุณคิดว่าตอนนี้เธอขี้เหร่เหรอ"

"คุณป้าพูดอะไรกัน เมื่อก่อนผมก็ไม่เคยคิดว่าเธอขี้เหร่ ตอนนี้จะรังเกียจเธอได้ยังไง ผมแค่คิดว่าเธอเป็นผู้หญิงคนหนึ่งมันไม่ใช่เรื่องง่าย"

เหนือเมฆไม่เคยคิดว่าตัวเองเป็นคนที่รักและเอ็นดูผู้หญิง แต่เขาแค่เคยคิดว่ามณิกาน่าสงสาร หัวอกเดียวกันกับเขาแค่นั้นเอง

"ช่างเถอะ ช่างเถอะ"

บุษบาสะบัดมือ "ลูกสาวของฉันดื้อรั้น เธอไม่ตกลงแน่นอน ยิ่งไปกว่านั้น ตาแก่ก็เป็นแบบนี้แล้ว จะรักษาหรือไม่รักษาก็ไม่มีอะไร ฉันอยากจะออกไปจากโรงพยาบาลตั้งนานแล้ว แต่เด็กคนนั้นไม่ยอม"

พวกเขาสองคุยพูดคุยกันในห้องผู้ป่วยพักหนึ่ง บุษบาก็ออกไปเปิดประตูห้อง

หลังจากผ่านไปครึ่งชั่วโมง มณิการีบวิ่งเข้ามา "แม่ ขอโทษนะคะ หนูตื่น... ฮือ? เหนือเมฆ คุณมาตั้งแต่เมื่อไหร่"

ตอนที่คุยโทรศัพท์กัน เขาบอกว่าเขาเข้าใจแล้ว เธอคิดว่าเขาจะตามมาทีหลัง

รู้ความจริงของมณิกาแล้ว เมื่อเหนือเมฆเจอกับเธอ เขากลับรู้สึกสับสนในใจ แต่เขาแค่ยิ้ม "ผมพึ่งมาถึง ใช่ไหมครับคุณป้า?"

"เอ่อ ใช่ ใช่"

บุษบาให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี จากนั้นก็ถามเหนือเมฆ "คุณยังไม่ได้กินข้าวเช้าใช่ไหม ณิกา รีบพาเหนือเมฆไปกินข้าวสิ"

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คุณคือของขวัญจากฟ้า