"อืม อยากสิ อยาก"
รับรู้ได้ถึงความเย็นชาที่แผ่ซ่านออกมาจากตัวของชายหนุ่ม เสมือนดั่งยมทูตที่มาจากนรก ทำให้เธอรู้สึกถึงความตายที่ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ
ด้วยสัญชาตญาณการเอาชีวิตรอด มณิกาพยักหน้าอย่างรวดเร็ว "แน่นอนสิ แต่ว่า ต้องทำยังไงถึงจะพิสูจน์ได้เหรอ?"
"ดีมาก"
ความเย็นชาบนใบหน้าของวายุได้หายไป แล้วก็แสยะยิ้มออกมาอย่างเจ้าเล่ห์
เขาโน้มตัวเข้าไปแล้วกระซิบข้างหูเธอ ลมหายใจขอเขาพ่นลงไปบนคอของเธอ รู้สึกคันหยิกๆ แต่กลับทำให้มณิกาแผ่นหลังเย็นวาบ
สักพัก ชายหนุ่มถึงเอ่ยขึ้นว่า: "ฉันมีวิธีการที่ดีอย่างหนึ่ง"
"วิ......วิธีอะไร?"
"นั่นก็คือ......"
เขาพูดถึงครึ่ง เพื่อให้เธอรู้สึกตื่นเต้น เขารับรู้ได้ว่าหญิงสาวตื่นเต้นอย่างมาก ก็ถึงบอกไปว่า: "ตัดมดลูกเธอออกไป!"
"มด......มดลูกงั้นเหรอ?"
มณิกาตกใจจนถอยหลังไปหลายก้าว แผ่นหลังชนเข้ากับโซฟา แล้วล้มตัวลงไปนั่ง เธอเงยหน้ามองวายุแล้วพูดว่า "ไม่ ไม่นะ......ฉันไม่ทำเด็ดขาด"
ถ้าตัดมดลูกออกเธอก็จะมีลูกอีกไม่ได้ตลอดชีวิต
เธอจะไม่ยอมตกลงเด็ดขาด
"วายุ นายมันเป็นปีศาจหรือไง?"
มณิกาที่เข้มแข็งมาตลอดก็ต้องตกใจจนขาอ่อน
ก่อนหน้านั้น เธอไม่รู้ตัวตนที่แท้จริงของวายุ แต่ตอนนี้รู้แล้ว เธอก็รู้สึกกลัวขึ้นมา
เพราะผู้ชายคนนี้มีพลังทำลายล้างสูงมาก
ฆ่าเธอก็ง่ายเหมือนบีบมดให้ตายในกำมือ
วายุหัวเราะ เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา "นภัทร ติดต่อโรงพยาบาล เตรียมห้องผ่าตัดมดลูก......"
"ไม่ ไม่ได้นะ ไม่ได้!"
ไม่รอวายุพูดจบ มณิกาก็รีบลุกขึ้น เธอรีบแย่งโทรศัพท์เขามาแล้วกดวางไป เธอตะคอกอย่างโมโห: "นายมีสิทธิ์อะไร? แค่นายมีเงินก็จะทำอะไรก็ได้งั้นเหรอ"
ความจริงพิสูจน์ได้ว่า แสร้งทำตัวน่าสงสารต่อหน้าผู้ชายคนนี้ไม่มีประโยชน์เลย
เพราะตาหมอนี่เลือดเย็นยิ่งกว่าสัตว์อีก
"จะได้หรือไม่ ลองแล้วก็จะรู้เอง"
วายุแย่งโทรศัพท์ไปจากมือของเธอ เดินอ้อมเธอแล้วออกไปทันที
"อย่าไปนะ!"
มณิกาคว้าข้อมือวายุไว้แน่น เธอล้ม 'โครม' ลงไปบนพื้น คุกเข่าขอร้องเขา: "คุณชายวายุ อย่าทำแบบนี้เลยนะ ฉันท้องหรือเปล่ายังไม่รู้เลย แต่ถ้าท้องแล้วฉันจะทำแท้งแน่นอน"
มณิกาทุ่มสุดตัวเพื่อรักษา 'มดลูก' เอาไว้
ศักดิ์ศรีต่างๆ นานาไม่สำคัญเท่าชีวิตหรอกนะ
เธอไม่อยากเสียมดลูกไปในตอนที่ยังสาวอยู่แบบนี้ ถึงตอนนั้นเธอก็ขายไม่ออกน่ะสิ
"เมื่อกี้ยังทำท่าไม่พอใจอยู่เลย ตอนนี้คุกเข่าขอร้องแล้วเหรอ?" ผู้ชายเชยคางเธอขึ้นมา "เธอว่า ฉันควรเชื่อด้านในของเธอกันแน่?"
"คุณชายวายุ พวกเราเป็นคนต้องมีความรู้สึกผิดชอบชั่วดี ยานั่นเป็นยาที่ย่าคุณวาง คุณนอนกับฉัน ฉันเป็นเหยื่อเคราะห์ร้ายนะ ทำไมต้องเป็นฉันที่รับกรรมด้วยล่ะ?"
เธอโมโหมาก
เห็นเธอเมื่อกี้ยังทำท่าน่าสงสาร ตอนนี้คุกเข่าลงพื้นแล้วยังทำท่าไม่พอใจอีก อารมณ์ที่เปลี่ยนไปมาไวแบบนี้ ทำให้วายุเกิดความสนใจในตัวผู้หญิงคนนี้มากขึ้น
"เพราะว่ามีเงินก็เลยทำอะไรก็ได้ไง"
เขาตอบกลับมณิกา แล้วพูดต่อว่า: "อยู่ที่นี่ดีๆ ล่ะ เดี๋ยวสักพักจะมีคนมารับเธอไปผ่าตัด"
วายุหยิบทิชชูมาเช็ดมือที่จับคางเธอ ทำอย่างกับคางของเธอสกปรกมาก
เขาโยนทิชชูลงถังขยะ จากนั้นก็กลับหลังหันเดินออกไป
"คุณชายวายุ?"
"คุณชายวายุ? พวกเราคุยกันได้นะ"
"นี่ วายุ นายอย่าไปสิ"
"นายวายุ อีตาบ้า หยุดเดี๋ยวนี้เลยนะ สารเลว!"
"ไปโรงพยาบาลเกื้อกูล ช่างเถอะ ไปคฤหาสน์อุทกมังกรดีกว่าค่ะ"
ตอนแรกเธอว่าจะไปหาพ่อแม่บุญธรรมที่โรงพยาบาลเกื้อกูล แต่ตอนนี้เธอตัดสินใจจะไปเอาเงินจากคนตระกูลธนัตถ์โชติที่คฤหาสน์อุทกมังกร จากนั้นก็ค่อยพาพ่อแม่บุญธรรมออกจากเมืองจันทรา
ตอนที่ปลูกถ่ายไขกระดูกให้ลูกชายคนเล็กตระกูลธนัตถ์โชติ พ่อแท้ๆ ของเธอสัญญาว่าตอนที่พวกเธอออกจากเมืองจันทรา ก็จะให้ห้าหมื่นเป็นการชดเชย
มณิกาไม่อยากได้เงินพวกเขาหรอก แต่ตอนนี้เธอไม่มีทางเลือกแล้วจริงๆ
เงินเดือนของเธอยังไม่ออก ห้าพันสุดท้ายของเธอก็จ่ายเป็นค่ารักษาวายุไปแล้ว เธอจะพาพ่อแม่บุญธรรมกลับบ้านเกิด จำเป็นต้องใช้เงินจริงๆ
ถ้าไม่มีเงินเธอก็คงไปไหนไม่ได้
หลังจากนั้นครึ่งชั่วโมง เธอก็มาถึงคฤหาสน์อุทกมังกร
มณิกาลงจากรถเดินไปที่หน้าประตูคฤหาสน์แล้วกดออด
ไม่นานประตูคฤหาสน์ก็เปิดออก วิมลที่แต่งตัวหรูหราเห็นเธอมา ก็ขมวดคิ้วแล้วถามว่า: "เธอมาทำไม?"
วิมลที่อายุย่างเข้าเลขห้าแล้ว สวมเสื้อเชิ้ตคอวีเอวจีบสีน้ำเงินและกางเกงเอวสูงสีดำ เพราะปกติดูแลผิวพรรณดี จึงทำให้ดูสาวและมีออร่าเปล่งประกาย
เธอก็คือแม่แท้ๆ ของมณิกา
"ทัพทองล่ะ ฉันมาหาเขา"
มณิกาพูดเปิดประเด็น
"พูดจาไม่มีมารยาทเลย? เธอไม่สมควรเอ่ยชื่อของเขา?" วิมลมองมณิกาด้วยสีหน้าที่ดูถูกและเหยียดหยาม
บางครั้งมณิกาก็ไม่เข้าใจเลยจริงๆ ทั้งที่เธอกับธิกานต์ก็เป็นฝาแฝดกัน ทำไมถึงถูกสองสามีภรรยาคู่นี้รังเกียจขนาดนี้นะ?
"ไม่ให้เรียกชื่องั้นเหรอ?"
มณิกาหัวเราะ "ได้ อีตาสามีของเธอล่ะ? ฉันมาหาเขามีธุระนิดหน่อย"
"เธอ......เหอะ ว่าแล้วเชียวคนที่มาจากบ้านนอกก็เป็นแบบนี้ ไม่มีมารยาทกันหมด"
วิมลโมโหมาก
"มารยาทมีพ่อแม่แท้ๆ สอน ฉันไม่มีพ่อแม่แท้ๆ มีชีวิตอยู่ได้ก็บุญแล้ว ยังจะพูดเรื่องมารยาทอะไรอีก"
มณิกาไม่คิดเลยว่าการที่เธอเจอพ่อแม่แท้ๆ อีกครั้งจะเป็นแบบนี้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คุณคือของขวัญจากฟ้า