คุณคือของขวัญจากฟ้า นิยาย บท 90

เขานึกขึ้นมาได้ว่าเธอไม่ได้นอนเต็มอิ่มเลยตลอดสองวันนี้ จึงไม่กล้ารบกวนเธอ แต่หยิบผ้าหุ่มมาคลุมให้ แล้วจึงเดินไปที่ห้องหนังสือ

เนื่องจากมีผ้าห่มคลุมลงมา ทั้งๆ ที่การกระทำเบาบางเป็นอย่างมาก แต่กระนั้นก็ยังปลุกให้มณิกาตื่นขึ้นมา

เธอลืมตาขึ้น รู้สึกมีชีวิตชีวาขึ้นมาชั่วพริบตา

นั่งพักสักพัก เธอถึงได้ไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้องน้ำ จากนั้นก็แวะไปยืมหนังสือจากห้องหนังสือ มานอนอ่านบนโซฟา

ในระหว่างที่อ่าน ทั้งๆ ที่คิดว่าเพิ่งผ่านไปได้ไม่ทันไร แต่วายุกลับเดินออกมาจากห้องหนังสือ เมื่อเหลือบเห็นว่าเธอยังคงอ่านหนังสืออยู่ จึงเดินเข้าไปเก็บทันที "ตีสองแล้ว ไปนอน"

คำพูดคำจา เหมือนพี่ชายกำลังเคร่งครัดกับน้องสาว

"เอาคืนมานะ!"

มณิกากำลังอ่านเพลินๆ ใครจะไปรู้ว่าฝ่ามือจะวืด เพราะหนังสือโดนแย่งไป เธอถลึงตาใส่วายุอย่างขัดใจ

"พรุ่งนี้ต้องไปศิศิรนครไม่ใช่เหรอ?"

ชายหนุ่มนำหนังสือไปไว้ข้างหลัง แล้วเอ่ยย้ำเตือน

"ไม่มีผลอะไรหรอก ฉันตื่นทัน"

"นอน"

วายุตีหน้านิ่ง ไม่พูดอะไรให้มากความ เดินถือหนังสือกลับไปที่ห้อง

"วา....."

เธอยังไม่ทันได้พูดจบ ก็ได้ยินเสียงปิดประตูดังเติ้ง

มณิกาบ่นพึมพำ "พ่อง! อิตาหมาบ้าอำนาจ"

เมื่อไม่มีหนังสือ เธอก็รู้สึกหมดสนุก จากนั้นจู่ๆ ก็นึกถึงชื่อหนังสือ หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาค้นหาในเว็บ เลื่อนหาหน้าที่อ่านค้าง แล้วอ่านต่อ

อ่านไปอ่านมา พริบตาเดียวก็เป็นเวลาตีสี่ เธอง่วงจนลืมตาแทบไม่ขึ้น หลับไปทั้งที่ยังนอนอยู่บนโซฟาทั้งอย่างนั้น

วายุเดินมาหยุดอยู่ข้างโซฟา มองมณิกาที่กำลังหลับอยู่บนนั้นก็เกิดสงสัยขึ้นมาไม่ได้

เธอ นอนน้อยอย่างนี้ทุกวันเลยเหรอ?

แต่เขาไม่ได้คิดอะไรมาก ก้มลงไปอุ้มเธอไปส่งที่ห้องนอน

วางเธอลงบนเตียงอย่างนุ่มนวล เห็นท่าหลับของเธอแล้ว ช่างดูเหมือนแมวน้อยแสนเชื่องตัวหนึ่ง น่าเอ็นดูเป็นอย่างมาก

เธอที่นิ่งๆ ไม่โหวกเหวกโวยวายเหมือนก่อนหน้านี้ ทำให้รู้สึกว่าน่ารักเป็นไหนๆ

"อืม....."

วายุยกมือปัดผมบนหน้าของเธอ แต่เมื่อนิ้วมือแตะโดนผิวแก้มของเธอ เธอก็ปัดมือเขาออก พร้อมส่งเสียงงึมงำในลำคอ

จากนั้นก็เอื้อมแขนออกมาโอบตัวเขา มือปลาหมึกกอดเขาเอาไว้แน่น พอหาท่านอนที่สบายได้ ก็ถูไถใบหน้าแล้วหลับไป

วายุนอนอยู่ข้างเธอ พินิจมองใบหน้าของเธออย่างละเอียด ตั้งแต่คิ้วตามาถึงปาก สุดท้ายก็ทนไม่ไหวต้องก้มลงไปจูบปากของเธอ

เริ่มห้ามตัวเองไม่ได้แล้ว

ริมฝีปากนุ่มนิ่ม เย็นชืดเล็กน้อย ให้ความรู้สึกหอมหวาน

เขาเริ่มถลำลึกอย่างห้ามตัวเองไม่ได้

เมื่อชายหนุ่มรู้สึกได้ถึงปฏิกิริยาทางร่างกาย ก็รีบผละออกทันที ไม่ได้จูบเธอต่อ

รู้สึกเหมือนกำลังเผาตัวเอง

ทั้งๆ ที่เธอมีใบหน้าพิมพ์เดียวกันกับธิกานต์อย่างกับแกะ แต่ทำไมเขาไม่เห็นรู้สึกอะไรกับธิกานต์เลยล่ะ?

เขาค่อนข้างลุ่มหลงกลิ่นหอมเฉพาะตัวบนกายของมณิกา กลิ่นนี้ให้ความรู้สึกคุ้นเคยเป็นอย่างมาก เป็นกลิ่นที่ทำให้วายุผ่อนคลาย สบายใจ และเพลิดเพลิน

เขายังต้องรักษาระยะห่างกับเธอ ไม่เช่นนั้นวายุก็ไม่อาจรับประกันได้ว่ายามใดที่เจอมณิกาอยู่ตรงหน้า เขาจะยังควบคุมตัวเองได้อยู่หรือเปล่า

ปฏิกิริยาทางร่างกายที่ไม่อาจควบคุมได้ทำให้วายุขัดใจเอามากๆ

วันรุ่งขึ้น

มณิกาตื่นขึ้นมาตอนเจ็ดโมงเหมือนวันก่อนๆ ด้านวายุก็ตื่นก่อนหน้านี้แล้ว

เขานั่งทานข้าวอยู่ในห้องอาหาร มณิกาเหลือบตามองอาหารบนโต๊ะ สูดกลิ่นหอมที่โชยมาถึงห้องรับแขก แต่กระนั้นก็ทำเพียงรินน้ำเปล่าใส่แก้ว

ในห้องอาหาร วายุมองมาที่เธอ "มากินข้าว"

มณิกายืนอยู่อีกด้าน ดื่มน้ำไปพลางส่ายหน้าไปพลาง "ไม่เอา ฉันไม่กินดีกว่า"

สองวันก่อนแค่กินโจ๊ก ก็เสียไปตั้งมื้อละสามร้อย

ถ้าวันนี้กินอีก ก็จะเพิ่มขึ้นมาอีกสามร้อย!

มันแพงเกินไป เธอกินไม่ลง

"ชิ รู้อยู่หรอกน่า ถ้าไม่ใช่เพราะคุณย่าชอบฉัน คุณก็คงไม่เก็บฉันไว้หรอก"

"รู้ก็ดี"

มณิกา "......" พ่องสิ ไม่มีวาทศิลป์ในการพูดก็ไม่ต้องพูด!

ถ้าไม่ใช่เพราะตอนนี้เธอกำลังกดดัน และต้องคอยระมัดระวังคนของตระกูลธนัตถ์โชติล่ะก็ เธอก็คงไม่ยอมปล่อยเลยตามเลยอย่างนี้หรอก

ถึงจะประหยัดเงิน ก็ใช่ว่าเธอจะควักออกมาจ่ายค่าเช่าบ้านไม่ได้!

หลังจากทานเสร็จ มณิกาก็เก็บถ้วยชาม แล้วกลับมาเก็บของที่ห้อง วกกลับมาขอยืมกระเป๋าเดินทางของวายุ เมื่อทุกอย่างเรียบร้อย เธอก็ยืนโบกมือให้วายุอยู่ในห้องรับแขก "วายุ กูไปละนะ อย่าคิดถึงฉันล่ะ"

ชายหนุ่มที่นั่งไขว่ห้างอยู่บนโซฟา ได้ยินที่เธอพูดก็ตวัดตาฉับมองมา "ว่าไงนะ?"

"เอ่อ....แหะๆๆ ฉันบอกว่าฉันไปก่อนนะ อย่าคิดถึงฉันล่ะ"

เธอถือกระเป๋าเดินทาง พร้อมกับยิ้มแหยๆ

"ไสหัวไป"

คำว่า "ไสหัวไป" พูดออกมาเต็มปากเต็มคำ ราวกับมีค่าดั่งทอง

มณิตาเหลือบตามองบนใส่เขา แล้วแบกกระเป๋าเดินเข้าไปในลิฟต์ ปากก็เอาแต่บ่นพึมพำ "อะไรวะ ถึงยังไงก็อยู่ด้วยกันมาตั้งนาน แถมยังเพื่อนร่วมห้อง นี่ไม่คิดจะเป็นห่วงเป็นใยกันเลยหรือไง!"

เธอลงลิฟต์มายังชั้นสอง เมื่อประตูลิฟต์เปิดออก ก็พบว่านภัทรยืนอยู่ข้างนอกพอดี ในมือของเขามีกระเป๋าเดินทางหนึ่งใบ

"ผู้ช่วยนภัทร คุณก็จะออกไปข้างนอกเหรอ ทำไมลากกระเป๋าเดินทางล่ะ?"

เธอยิ้มให้นภัทรเล็กน้อย เอ่ยถามอย่างสงสัย

"นี่......"

นภัทรมองกระเป๋าเดินทางในมือของมณิกา แค่แวบเดียวก็จำได้ว่าเป็นของบอส เขาจึงเข้าใจอะไรบางอย่างในทันที จึงพยักหน้า "ใช่ครับๆ "

"อ๋อ งั้นก็เดินทางปลอดภัยนะ" มณิกาโบกมือให้เขา แล้วเดินจากไป

ด้านหลัง นภัทรเอ่ยพูดว่า "คุณมณิกาก็เดินทางปลอดภัยนะครับ"

เธอโบกมือให้อีกฝ่ายโดยที่ไม่ได้หันหน้ากลับไป "ขอบคุณค่ะ"

ดูๆ ไปแล้ว ก็ยังเป็นนภัทรที่ใจดี รู้จักอวยพรให้เธอเดินทางปลอดภัย แถมยังมีน้ำใจถามไถ่กันด้วย

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คุณคือของขวัญจากฟ้า