“ดี..ข้าเห็นด้วย” เหอชิงหนี่ว์เอ่ย ความคิดแล่นปราดมาแวบหนึ่งได้เวลากลั่นแกล้งผู้คนแล้ว เพราะคุณหนูซูผู้นี้มีความเย่อหยิ่งเอาแต่ใจเป็นที่สุดและนางคงทุ่มเงินเพื่อให้ได้ชุดนี้ไปอย่างแน่นอน
“ก็ได้” ซูเว่ยชิงเอ่ยอย่างไม่เต็มใจเท่านักแต่ก็ต้องตกปากรับคำไปจะให้เสียหน้าไม่ได้เด็ดขาด
“เช่นนั้นเชิญคุณหนูทั้งสองที่ห้องรับรองเจ้าค่ะ” จิงอิงเอ่ยพร้อมเดินนำไปที่ห้องรับรองด้านในร้านและสั่งให้คนงานของร้านยกน้ำชาและขนมมาให้คุณหนูทั้งสองโดยเร็ว เมื่อเข้ามายังห้องรับรองจิวอิงก็เริ่มเปิดการประมูลทันทีเพื่อไม่ให้เสียเวลา
“ชุดอาภรณ์ดอกเหมยกุ้ยสีแดงเลือดนกตัดเย็บจากผ้าไหมเนื้อดีสวมใส่เบาสบายระบายความร้อนได้ดี การออกแบบและตัดเย็บไม่เหมือนร้านของผู้ใดอย่างแน่นอน ด้วยการปักยกดอกที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะร้านของเรา ข้าจะตั้งราคาเริ่มต้นอยู่ที่หนึ่งร้อยตำลึงเงินเจ้าค่ะ” จิวอิงเริ่มประกาศการประมูลเสียงดีงฟังชัด
“ข้าเหอชิงหนี่ว์แห่งจวนท่านแม่ทัพเหอขอประมูลในราคาสองร้อยตำลึงเงิน”
“ข้าซูเว่ยชิงแห่งจวนราชครูขอประมูลในราคาสามร้อยตำลึงเงิน”
“สี่ร้อย..”
“ห้าร้อย..”
“..”
“..”
“หนึ่งพันตำลึงเงิน” เสียงของซูเว่ยชิงเอ่ยอย่างเข่นเขี้ยวกัดฟันเอ่ยออกไปอย่างยากลำบาก ต่อให้ชุดนี้ราคาแพงแค่ไหนตนก็ต้องได้มันมาครอบครองให้ได้จะไม่ยอมแพ้เสียหน้าให้สตรีผู้นี้เป็นอันขาด
“ฮ่าๆๆ...คุณหนูซูข้าคงต้องยอมแพ้เจ้าแล้วเสียดายยิ่งนัก” เหอชิงหนี่ว์เอ่ยอย่างเสียดายแต่น้ำเสียงกลับดูสดใสยิ่ง
“เช่นนั้นชุดนี้เป็นของคุณหนูซูเว่ยชิงที่ประมูลได้ไปในราคาหนึ่งพันตำลึงเงินเจ้าค่ะ คุณหนูซูจะจ่ายเงินเลยหรือว่าจะให้ไปเก็บเงินที่จวนท่านราชครูดีเจ้าคะ” จิวอิงเอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบ แต่ในใจกลับพองโตไม่คิดว่าคุณหนูทั้งสองจะสู้กันดุเดือดเช่นนี้
“ให้คนของเจ้าไปเก็บเงินที่จวนพร้อมส่งชุดนี้ไปให้ข้า วันนี้ข้ายังมีที่อื่นต้องไปขอตัว” ซูเว่ยชิงเอ่ยจบก็ก้าวเท้าออกจากร้านไปทันทีด้วยความโมโหที่สูญเสียเงินไปมากมาย นางจะต้องรีบกลับจวนไปออดอ้อนท่านแม่ก่อนไม่เช่นนั้นคงได้โดนดุเป็นแน่
หลังจากร่างบางของซูเว่ยชิงและสาวใช้เดินออกไปจิวอิงจึงหันมาเอ่ยกับสตรีที่อยู่อีกคนหนึ่งที่นั่งยิ้มอย่างอารมณ์
“คุณหนูเหอข้าต้องขออภัยท่านด้วยทั้งที่ชุดนั้นเป็นคุณหนูเหอที่ขอซื้อก่อน” จิวอิงเอ่ยขอโทษอย่างนอบน้อมเพราะทางร้านเองก็ผิดที่ทำเช่นนี้
“ไม่เป็นไรๆข้าเองก็อยากกลั่นแกล้งคุณหนูซูเช่นกัน”
“ถ้าคุณหนูเหอยังต้องการชุดข้าจะตัดเย็บชุดใหม่ให้ท่านเอาให้สวยกว่าชุดเดิมเลยดีหรือไม่” จิวอิงเอ่ยข้อเสนอเพื่อเอาใจลูกค้า เพราะนางและน้องสาวช่วยกันออกแบบชุดเอาไว้มากมายในยามว่าง น้องสาวบอกว่าให้คิดแบบแล้ววาดเก็บเอาไว้หรืออาจจะนำมาให้ลูกค้าเลือกก็ได้
“จริงหรือ? ดีๆ” เหอชิงหนี่ว์เอ่ยด้วยความยินดี
“จริงเจ้าค่ะ ไม่เพียงแค่ชุดเท่านั้นยังมีเครื่องประดับสวยงามที่เข้าชุดกันอีก ช่างทำเพิ่งส่งของมาให้เมื่อครู่นี้เอง” จิวอิงเอ่ยเดิมทีร้านนี้ขายอาภรณ์เพียงอย่างเดียว นางจึงปรับปรุงชั้นสองเพื่อวางเครื่องประดับเพิ่มตามที่น้องสาวแนะทางให้
“เยี่ยมไปเลย..”
จิวอิงเดินออกไปหยิบแบบที่วาดเก็บเอาไว้มาให้คุณหนูเหอได้เลือกชม เมื่อเลือกได้ก็พาไปเลือกชนิดและเลือกสีผ้าที่ต้อง วัดตัวให้พอดีเข้ารูปเป็นอันเสร็จเรียบร้อย ทั้งสองพูดคุยกันถูกคอเป็นอย่างมากเลยให้เรียกขานชื่อกันแบบสหายก็พอ จิวอิงเห็นว่าชิงหนี่ว์ทำเงินให้ทางร้านเป็นอย่างมากจึงอยากจะเลี้ยงขนมอร่อยๆและน้ำชาเป็นการตอบแทนจึงเอ่ยชวนทันที
“ชิงหนี่ว์เจ้ารีบกลับจวนหรือไม่ ถ้าไม่ไปจิบชากินขนมอร่อย ๆ ยามบ่ายที่ร้านน้องสาวข้าดีหรือไม่” จิวอิงเอ่ยถาม ช่วงนี้น้องสาวถูกกักบริเวณพี่เสี่ยวชิงเลยขอไปช่วยที่โรงเตี๊ยมและนางก็ต้องเข้าไปดูความเรียบร้อยก่อนที่จะกลับจวนอีกด้วย
“โรงเตี๊ยมหมิงฟู่น่ะหรือ? ดีๆข้าชอบทั้งอาหาร ขนมและน้ำชาที่นั่นอร่อยมากพี่ชายข้าเคยพาไปอยู่หลายครั้ง” ชิงหนีว์เอ่ยตอบรับอย่างยินดีเพราะชื่นชอบที่นั่นเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว
“พี่จิ้นฝานช่างเอาใจใส่น้องสาวเช่นเจ้ายิ่งนัก เจ้าก็เอากลับไปฝากเขาบ้างนะ” จิวอิงเอ่ย เธอและชิงหนี่ว์คุยกันจนรู้ว่าชิงหนี่ว์อายุมากว่าแค่หนึ่งปีเท่านั้นและยังเป็นน้องสาวของพี่จิ้นฝานอีกด้วย
ตอนนี้ซานจิ่นได้พาอดีตองค์รัชทายาทหานเสวี่ยถังเข้ามารักษาตัวอยู่ที่พรรคอินทรีย์ ท่านหมอประจำพรรคเข้าตรวจรักษาอาการแล้วพบว่าอดีตองค์รัชทายถูกพิษหลายชนิดและเป็นเวลานาน พิษแต่และชนิดอาจไม่ได้ร้ายแรง แต่เมื่อได้รับมาเป็นระยะเวลานานจึงทำให้ร่างกายคล้ายคนไม่ได้สติเหม่อลอยบ้าง คลุ้มคลั่งบ้างจนตอนนี้ต้องมัดเอาไว้ เพราะไม่รู้ว่าเมื่อไรเขาจะมีอาการเช่นนั้นขึ้นมาอีก ทำให้ซานจิ่นและเกาซูหลางร้อนใจเป็นอย่างมากด้วยกลัวว่าบุคลอันเป็นที่เคารพรักจะทนต่อความทรมานไม่ไหว ท่านหมอบอกว่าร่างกายนี้ต้องการพิษเพื่อหล่อเลี้ยงไม่เช่นนั้นก็จะเกิดคลุ้มคลั่งขึ้นมาอีก
จ้าวไท่เหว่ยตอนนี้ได้เดินทางกลับพรรคอินทรีย์แล้ว แล้วกำลังฟังรายงานจากคนของตนอยู่
“ร่างกายติดพิษหรือ?” จ้าวไท่เหว่ยเอ่ยถามคนซานจิ่น
“ขอรับ ท่านหมอก็ไม่ทราบว่าพิษนั้นคืออะไร” ซานจิ่นเอ่ยด้วยน้ำเสียงกลุ้มใจ
“ข้ารู้จักคนที่เก่งกาจเรื่องพิษอยู่คนหนึ่ง เขาอาจช่วยเจ้าได้” จ้าวไท่เหว่ยเอ่ยบอก พลางนึกถึงหมอเย่วฉีว่าถ้าต้องการความช่วยเหลือให้ไปหาได้ และวันนี้เขาต้องส่งคนคุ้มกันไปให้น้องสาวของหมอเย่วฉีที่โรงเตี๊ยมหมิงฟู่ จึงคิดว่าใช้โอกาสนี้ให้ซานจิ่นไปคงดีเผื่อว่านางจะยอมมารักษาให้
“ใครหรือขอรับ”
“คนที่ถอนพิษให้ข้า”
“ท่านประมุขถอนพิษออกจากร่างกายแล้วหรือขอรับข้าดีใจยิ่งนัก” ซานจิ่นเอ่ยด้วยน้ำเสียงดีใจ
“ใช่แล้ว แล้ววันนี้ข้าต้องส่งคนไปคุ้มครองนาง เจ้าพาคนฝีมือดีไปสี่คนให้คอยคุ้มครองหมอเย่วฉีที่โรงหมอหมิงฟู่สองคน และน้องสาวของเขาที่โรงเตี๊ยมหมิงฟู่สองคน เจ้าลองใช้โอกาสนี้พูดคุยกับนางดูเผื่อว่านางจะยอมมารักษา” จ้าวไท่เหว่ยเอ่ยแนะ
“ได้ขอรับข้าน้อยจะคัดคนฝีมือดีไปเดี๋ยวนี้เลย” ซานจิ่นเอ่ยด้วยความดีใจว่าตนอาจมีความหวังที่จะรักษาอดีตองค์รัชทายาทให้หาย
# มาต่อให้อีกตอนแล้วน้าาา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คู่แฝดคู่ป่วน
รอนะคะ อัพต่อหน่อยค่า...