24
ห้างXX
เมื่อมาถึงห้างฉันก็ส่งข้อความไปบอกพี่แทนว่ารออยู่ที่หน้าร้านกระเป๋าแบรนด์เนมแบรนด์นึงที่เอิร์นชอบเป็นพิเศษ
จริงๆ ทั้งฉันและเอิร์นชอบกระเป๋าแบรนด์นี้มากๆ ทั้งดีไซน์ของแต่ละคอลเลคชัน ราคา และความคงทนมันสมดุลกันทุกอย่าง
ถ้าถามว่าราคาแรงไหม ใบนึงก็ประมานเลขหกหลัก แต่ระยะเวลาการใช้งานนี่หลายปีเลยนะ
แล้วเราก็ไม่ได้ซื้อกระเป๋ากันบ่อยๆ นานๆ จะซื้อที เพราะถึงแม้บ้านเราจะรวยกันทั้งคู่ แต่เราก็ยังเป็นแค่นักศึกษาที่ใช้เงินของพ่อกับแม่ เลยต้องรู้จักความพอดี
“รอนานมั้ย ขอโทษทีพี่หาที่จอดรถไม่ได้เลย” พี่แทนที่เพิ่งมาถึงพูดเสียงหอบ เขาคงจะรีบวิ่งมา
“ไม่นานค่ะ เราเข้าไปดูกระเป๋ากันเลยมั้ยคะ ?”
“แป้งกินข้าวมารึยัง”
“กินมาแล้วค่ะ”
ที่จริงฉันยังไม่ได้กิน แต่เลือกที่จะโกหกเพราะอยากรีบซื้อแล้วรีบกลับ อีกอย่างจะเก็บท้องไว้รอกินอาหารฝีมืออารันตอนเย็นด้วย
“แย่จัง…พี่ยังไม่ได้กินอะไรเลย…”
“งั้นพี่แทนไปกินก่อนก็ได้ค่ะ เดี๋ยวแป้งเดินดูกระเป๋ารอ”
พี่แทนชะงักไปเล็กน้อยเมื่อได้ยินฉันพูดแบบนั้น
“ไม่เป็นไร กินคนเดียวมันไม่อร่อย”
“ถ้างั้นไปดูกระเป๋ากันค่ะ^_^”
พูดจบฉันก็เดินนำเข้าไปในร้าน พอพนักงานเห็นก็จำฉันได้เลยรีบเดินมาต้อนรับและแนะนำกระเป๋าคอลเลคชันใหม่ให้
“รุ่นนี้เพิ่งมาเลยค่ะคุณแป้งมีแค่สองใบในไทย ลิมิเต็ดสุดๆ”
ฉันตาลุกวาวกับกระเป๋าตรงหน้า ทั้งรูปทรง สีและดีไซน์เป็นแบบที่ฉันและเอิร์นชอบเอามากๆ แต่งานนี้ฉันคงจะต้องเสียสละให้เอิร์นเพราะว่าจะวันเกิดเธอทั้งทีนี่นา
“รุ่นนี้เลยค่ะพี่แทน รับรองว่าเอิร์นชอบแน่ๆ”
“แล้วแป้งชอบด้วยหรือเปล่า ?”
“ค่ะ แป้งกับเอิร์นชอบกระเป๋าสไตล์เดียวกัน^_^”
“โอเค…”
ครืด~ ครืด~
โทรศัพท์มือถือแผดเสียงร้องขึ้นในกระเป๋า ฉันจึงหยิบออกมาดูแล้วเห็นว่าเป็นเบอร์ของอารันที่โทรเข้ามา
“แป้งไปรับโทรศัพท์ก่อนนะคะ” ฉันเดินเลี่ยงออกมาคุยโทรศัพท์ที่ร้านฝั่งตรงข้าม เพราะไม่อยากให้อารันรู้ว่าฉันอยู่ที่ไหนและอยู่กับใคร
“ฮัลโหลค่ะ” ฉันกรอกเสียงหวานใส่ปลายสาย
(ทำไมรับช้า) ทว่าอารันกลับตั้งคำถามซะเสียงดุเลย
“พอดีแป้งไปเข้าห้องน้ำมาค่ะ”
ไม่ได้อยากจะโกหกหรอกนะ แต่ถ้าบอกว่าอยู่กับพี่แทนอารันต้องไม่พอใจมากแน่ๆ
“อารันโทรหาแป้งมีอะไรหรือเปล่าคะ ?”
(คิดถึงไม่ได้รึไง)
“ดะ…ได้สิคะ”
หัวใจเต้นแรงขึ้นมากับคำว่าคิดถึงของคนปลายสาย ฉันยืนคุยไปยิ้มไปเหมือนคนบ้าเลยตอนนี้
(กินอะไรรึยัง)
“ยังค่ะ รออารันกลับมาทำให้กิน^_^”
(อืม…)
จู่ๆ อารันก็เงียบไป เงียบจนฉันสัมผัสได้ถึงความผิดปกติ
“มีอะไรรึเปล่าคะ”
(ขอโทษได้ไหม…)
น้ำเสียงอารันเหมือนกำลังรู้สึกผิด เขาจะขอโทษฉันทำไมกันนะ
“ขอโทษเรื่องอะไรเหรอคะ”
(วันนี้ติดประชุมด่วน…คงกลับไปทำให้กินไม่ได้แล้ว)
“….”
ทั้งที่คิดว่าไม่เป็นไรแต่หัวใจกลับค่อยๆ ห่อเหี่ยวลงเรื่อยๆ
(โอเคมั้ย ?)
“อะ…โอเคสิคะ…”
(ขอโทษจริงๆ ไว้วันอื่นนะ)
ฉันกดปิดโทรศัพท์แล้วนอนคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยจนกระทั่งผล็อยหลับไปไม่รู้ตัว
ตกดึก
ความหิวประท้วงจนทำให้ฉันค่อยๆ รู้สึกตัวตื่นขึ้นมา หันมองไปรอบๆ ก็พบว่าตอนนี้เป็นเวลาเกือบสามทุ่มแล้ว
คงจะเพลียสะสมจากเมื่อคืน บวกกับที่วันนี้ฉันไม่ค่อยได้กินอะไรด้วยล่ะมั้ง
ฉันเดินลงไปยังชั้นล่างเพราะรู้สึกเหมือนได้กลิ่นหอมของอาหารลอยมาเตะจมูก
มันแปลกมากเพราะอารันบอกว่าคุณพ่อไม่อยู่นิ ในเวลาแบบนี้ไม่น่าจะมีใครมาใช้ครัวเลยนี่นา
ฉันเดินตามกลิ่นของอาหารไปที่ห้องครัว ก่อนจะสะดุดเข้ากับแผ่นหลังที่คุ้นตา มองแวบเดียวก็จำได้แม่นว่าคนตรงหน้าต้องเป็นอารันแน่ๆ
“อะ…อารัน” ค่อนข้างตกใจเพราะไม่คิดว่าดึกป่านนี้แล้วเขาจะมาอยู่ที่นี่
อารันชะงักการทำอาหารแล้วค่อยๆ หันกลับมามองฉัน สายตาเจือความอบอุ่น ริมฝีาปกระบายยิ้มบางๆ
“ตื่นแล้วเหรอ หิวมั้ย ?”
จู่ๆ น้ำตามันก็คลอเบ้าขึ้นมาจนภาพตรงหน้าพร่ามัว มันปลื้มใจ ไม่คิดว่าอารันจะสละเวลาพักผ่อนมาทำอาหารให้ฉันกิน
คือเขาไม่จำเป็นต้องมาก็ได้แล้วไง แต่เขาก็ยังมา
อารันเดินเข้ามาใกล้ๆ แล้วดึงฉันเข้าไปกอดแนบแน่น มือหนาลูบศีรษะอย่างปลอบโยน ฉันเดาว่าอารันคงรู้ว่าฉันต้องนอยด์ถึงได้ทำแบบนี้
“อึก~” ในที่สุดก็กลั้นเสียงสะอื้นไว้ไม่ได้
“ขี้แงจริงๆ”
“ขอบคุณนะคะที่มา อึก~” ฉันซุกหน้าลงกับแผงอกแล้วปล่อยโฮออกมาเบาๆ
ไม่นานก็ค่อยๆ ผละตัวออก เพราะไม่อยากร้องไห้ให้เสียบรรยากาศ ตอนนี้เราควรจะใช้เวลาให้มีความสุขกันสิ
ทว่าตอนที่ขยับหน้าออก หางตาฉันดันไปสะดุดเข้ากับรอยแดงที่ติดอยู่บริเวณซอกคอของอารัน จึงหยุดเพ่งมองก่อนจะพบว่ามันคือรอยลิปสติก
เหมือนกับว่ามีใครมาจูบเขายังไงอย่างงั้น
“อะ…อารัน…”
“ว่าไง ?”
“ทะ…ที่คอนั่น…รอยอะไรคะ”
“….”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ขย่มรัก คุณอา
ใช้ภาษาได้โคตรลื่น ไม่เกินจริง มีอารมณ์เลย แต่งเก่งมาก...