อาจเป็นเพราะร่างกายของนางอบอุ่นเกินไป หรืออาจเป็นเพราะเสียงของนางมีพลังแม่เหล็กที่ทำให้รู้สึกอุ่นใจ ทำให้อี้หยุนเฟยสงบลงมาก และปล่อยให้นางกอดเขาลงไปข้างล่าง
"เหมือนจะใกล้ถึงพื้นแล้ว ระวังล่ะ"
อี้หยุนเฟยไม่ทันตั้งตัว กู้ชูหน่วนก็ดึงเขาไปด้านข้างอย่างแรงก่อนจะถึงพื้น
"ซี๊ด...."
เขาล้มลงจนกระดูกแทบหักและเจ็บจนร้องอุทานออกมา
"ปัง...."
"อั่ก...."
ข้างๆ คือเสียงกระอักเลือดของกู้ชูหน่วนที่ดังขึ้น
สมองของอี้หยุนเฟยแทบระเบิด
"น้องสาว น้องสาว....เจ้าอยู่ที่ไหนหรือ?"
"ที่นี่คือที่ไหน ทำไมถึงมืดสนิทขนาดนี้ น้องสาว....เจ้าอยู่ที่ไหน"
กู้ชูหน่วนอยากจะตอบเขา แต่นางล้มลงและกระแทกอย่างแรงจนอวัยวะภายในสั่นสะเทือนและได้รับผลกระทบ
กระดูกตามร่างกายก็แตกหักไปไม่น้อย ทำให้นางไม่มีแรงที่จะตอบกลับไป
"คบไฟ ใช่ ข้ามีคบไฟ"
อี้หยุนเฟยหยิบคบไฟออกมาและเป่าอยู่นานแต่กลับไม่ติดไฟเสียที ทว่ากลับทำให้คบไฟนั้นตกลงพื้นด้วยความประหม่า
เขาพยายามคลำหาอยู่นานกว่าจะเจอและใช้เวลาพักหนึ่งกว่าจะติดไฟได้
ที่นี่มีขนาดใหญ่มาก ทว่าแสงสว่างที่คบไฟสาดส่องไปถึงนั้นมีจำกัด เขาไม่รู้เลยว่าที่นี่คือที่ไหน แต่เขารู้เห็นกู้ชูหน่วนนอนอยู่ไม่ไกลจากเขาเท่าไรนัก
ใบหน้าของนางซีดเผือดและมุมปากมีคราบเลือด ลมหายใจของนางอ่อนล้า
อี้หยุนเฟยรีบไปประคองนางขึ้น "น้องสาว เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง เล่นล้อเล่นกันแบบนี้"
"ร้องไห้....ร้องไห้ทำไม ข้าไม่เป็นอะไรง่ายๆ ข้ายังไม่ตาย"
"ข้าตกใจหมดเลย ข้าคิดว่า....คิดว่า...."
แสงของคบไฟอ่อนลง แต่นางสามารถเห็นหยดน้ำตาสองที่หยดอยู่บนใบหน้าที่งดงามของอี้หยุนเฟยและเมื่อเขาได้ยินว่านางไม่เป็นไร เขาก็ร้องไห้และหัวเราะในเวลาเดียวกัน
กู้ชูหน่วนตกลงมาอย่างเจ็บปวดทรมาน แต่เมื่อได้เห็นใบหน้าที่คุ้นเคยของเขาก็รู้สึกอบอุ่นขึ้นมาในใจ
นางยื่นมือออกไปเช็ดน้ำตาให้เขา
"เวลาเจ้ายิ้มดูดีกว่าอีก ข้าไม่ชอบเวลาเห็นเจ้าร้องไห้"
"ข้าไม่ได้ร้องไห้สักหน่อย ข้าเพียงแค่...."
"เพียงแค่กลัว? ข้าบอกแล้วว่ามีข้าอยู่ทั้งคน เจ้าไม่มีทางเป็นอะไรได้ ต่อให้ต้องตาย ข้าก็จะตายก่อนเจ้า"
คำนี้หากเป็นคนอื่นพูดกับเขาหรือพูดเวลาอื่น เขาไม่มีทางใส่ใจเลยสักนิด แต่ครั้งนี้ คำนี้เหมือนมีพลังวิเศษอะไรบางอย่างที่กัดกร่อนหัวใจที่เปราะบางของเขาอย่างบ้าคลั่ง
"ทำไม? เราเจอกันเพียงสองครั้งเท่านั้นเอง"
"ไม่รู้ ข้าแค่ไม่ต้องการเห็นเจ้าเป็นอะไรไป"
"เจ้ารู้ไหมว่าการกระทำของเจ้าเมื่อครู่นั้นอาจทำให้เจ้าตายได้?"
"ไม่รู้และไม่อยากรู้ด้วย หากให้ข้าเลือก ไม่แน่ข้าคงไม่เสี่ยงชีวิตเพื่อช่วยเจ้าหรอก"
อี้หยุนเฟยตรวจดูบาดแผลของนางด้วยดวงตาที่แดงก่ำ
ผู้หญิงคนนี้พูดออกมาง่ายๆ ไม่คิดอะไร แต่เขารู้ว่าต่อให้เกิดขึ้นอีกครั้ง ถึงอย่างไรนางก็เลือกที่จะเสี่ยงชีวิตเพื่อช่วยเขาอยู่ดี
สัญชาตญาณที่แท้จริงของคนเราจะออกเมื่อเมื่อถึงเวลาวิกฤติหรือเสี่ยงตาย
"ขาข้าหัก เจ้าถอยไปข้าจะต่อกระดูกด้วยตัวเอง"
กู้ชูหน่วนกัดฟันและจัดการต่อกระดูกของตัวเองอย่างใจแข็ง ได้ยินเสียงดังแกร๊กจากนั้นกระดูกก็ต่อเข้าด้วยกัน
แม้แต่กระดูกซี่โครงนางก็สามารถต่อกลับเหมือนเดิมได้
"เจ็บไหม?"
"ไม่เจ็บ ข้าเจอบาดแผลที่เจ็บกว่านี้ไม่รู้ตั้งเท่าไร เรื่องแค่นี้ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง"
เงียบ
เงียบถึงขนาดที่สามารถได้ยินเสียงเต้นของหัวใจได้
"ทำไมถึงไม่พูดล่ะ?" หรือว่านางจะทำให้เขาตกใจ?
หรือว่าเขาจะตกใจกับถ้ำใต้ดินที่มืดสนิทแห่งนี้?
"เจ้า...เมื่อก่อนเจ้ามักได้รับบาดเจ็บอยู่บ่อยครั้งเลยหรือ?"
"ก็ไม่เท่าไร เมื่อก่อนชีวิตย่ำแย่ ใครๆ ก็พากันรังแก ความสามารถก็น้อย ทำให้ต้องเจ็บตัวอยู่เรื่อย เจ้าได้รับบาดเจ็บตรงไหนหรือไม่"
"ไม่"
"ไม่ต้องกลัว ประเดี๋ยวฝูกวงก็จะส่งคนมาช่วยเราแล้ว"
ใครๆ ต่างก็รู้ว่านางเป็นห่วงเซี่ยวอวี่เซวียนเสียยิ่งกว่าอะไร
"ชิงเฟิงอยู่ข้างใน เขาได้รับบาดเจ็บค่อนข้างสาหัส ส่วนคุณชายเซี่ยว....ข้า....ข้าก็ไม่รู้ว่าเขาอยู่ที่ไหน?"
"เกิดอะไรขึ้นกับพวกเจ้า บอกข้ามาเร็วเข้า"
"วันนั้นขณะที่นายท่านใช้ค่ายกลเคลื่อนย้ายเพื่อส่งพวกเราออกไป เราก็ถูกจักรพรรดินีตัวปลอมจับตัวไปและถูกขังอยู่ในคุกใต้ดิน และก่อนหน้านี้ไม่รู้เกิดอะไรขึ้นทำให้คุกใต้ดินถล่มลง เราจึงให้โอกาสนี้หลบหนีออกมา"
"ระหว่างที่หลบหนีนางก็ไล่ตามพวกเรามาได้ คุณชายเซี่ยวหลอกล่อนางไปอีกเส้นทางหนึ่งเพื่อปกป้องเรา ข้าและชิงเฟิงไม่ระวังก็เลยตกลงมาข้างในนี้ ที่นี่อยู่ลึกจากพื้นดินมาก ร่างกายของเรามีบาดแผลทำให้ไม่สามารถปีนออกไปจากที่นี่ได้ จึงถูกขังอยู่ในนี้เป็นเวลาจนได้มาพับกับพวกท่าน
"เจ้าบอกว่าเสี่ยวเซวียนเซวียนหลอกล่อของไปอีกทางเพียงลำพัง? ครั้งสุดท้ายที่พวกเจ้าได้เจอเสี่ยวเซวียนเซวียนคือที่ไหน?"
"ที่หน้าผาลั่วหง แม้ว่าความสามารถของคุณชายเซี่ยวจะสู้นางไม่ได้ แต่ความฉลาดของเขาน่าจะ.....หรือ....."
เจี้ยงเสวี่ยพูดออกมา แม้แต่เขาเองก็ไม่เชื่อ
ผู้หญิงคนนั้นโหดเหี้ยมอำมหิต นางไม่มีทางปล่อยคุณชายเซี่ยวไปแน่
กู้ชูหน่วนเสมือนลูกบอลที่ไม่มีลม ในใจของนางนอกว่าความกังวลแล้วก็คือความร้อนใจ
อี้หยุนเฟยรู้สึกทำตัวไม่ถูกและอึดอัดอย่างมาก
เสี่ยวเซวียนเซวียน
เรียกได้สนิทสนมกันมากขนาดนี้?
ผู้ชายคนนั้นเป็นอะไรกับน้องสาวคนนี้?
"รู้หรือไม่ว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร?"
น้ำเสียงของเจี้ยงเสวี่ยสะอื้นเล็กน้อย "ไม่....ไม่รู้"
"พาข้าไปหาชิงเฟิง"
"แม่นางมู่ ท่านมีพลุส่งสัญญาณหรือไม่? คนของท่านสามารถหาที่นี่เจอไหม?"
"ไม่มี แต่ฝูกวงรู้ว่าข้าตกลงมาในนี้"
"แม่นางมู่ เชิญทางนี้"
เมื่อเห็นท่าทางของเจี้ยงเสวี่ยที่ดูเคารพนอบน้อม ทำให้กู้ชูหน่วนรู้สึกไม่ชินเท่าไรนัก
เขาและชิงเฟิงไม่ชอบนางมาโดยตลอดและไม่เคยปฏิบัติต่อนางดีๆ เลยสักครั้ง
เหตุใดจู่ๆ ถึงเปลี่ยนมาสุภาพและนอบน้อมต่อนางขนาดนี้?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์
สนุกมากค่ะ ขอบคุณที่แปลให้อ่านนะคะ อ่านถึง 1174 แล้วรอตอนต่อไปอยู่ค่ะ...
ไม่อัพจบเหรอคะ...
เป็นนางเอกที่นิสัยแย่ที่สุดตั้งแต่เคยอ่านมา...
คือตัวเองไม่มีเงิน แต่คิดจะเอาทุกอย่างด้วยราคาสูงเสียดฟ้า แล้วก็หาคำพูดให้คนอื่นจ่ายแทน ตัวเองหาประโยชน์จากคนใกล้ตัวแต่กลับเอาใจให้คนอื่นตลอดเนี่ยนะ...
แม่นางกู้เกินเยียวยาแล้วเด้อ 555...
เยี่ยเฟิงเป็นคนดีมาก แต่เขาทนงตัวเกินไป ชีวิตที่ผู้อื่นฝ่าฟันเพื่อแย่งชิงลมหายใจเขาไว้ แต่เขาก็ดิ้นรนกลับไปหาความตายอยู่เรื่อย...
ท่านอาจารย์พูดให้คิดดีมากเลย แต่อาหน่วนจะเข้าใจไหม นางดูมั่นหน้า มั่นใจเกิตเหตุแบบไม่สนสี่สนแปดใดใดเลย...
อยากให้กลับมาอัพเดทไวๆนะคะ ขอบคุณมากค่ะ...
สรุปเรื่องนี้มีตอนจบมั้ยค่ะ...
รอตอนจบอยู่นะคะ ใจบางไม่ไหวแล้วทรมาน...