ร่างกายของอาชายสั่นเทา
เยี่ยเฟิงกล่าวออกมาว่า “นายท่าน เขาหมดสติไปแล้ว”
“โยนออกไป จวนหานอ๋องไม่ต้องการเลี้ยงคนไร้ประโยชน์เช่นนี้”
“ขอรับ”
“ปัง......”
เยี่ยเฟิงโยนอีกฝ่ายออกไปโดยตรง
ในจวนยังคงมีคราบเลือดติดอยู่ ทั้งหมดล้วนเป็นของคนรับใช้ที่ถูกโบยเมื่อครู่ ซึ่งดูน่าตกใจเป็นอย่างมาก
กู้ชูหน่วนกล่าวออกมาว่า “ยังจะยืนงงอะไรกันอยู่ เหตุใดจึงไม่ยอมไปทำงานกัน อยากเป็นแบบชายคนเมื่อครู่หรืออย่างไร?”
“ขอรับ เจ้าคะ......”
เหล่าคนรับใช้กล่าวออกมาพร้อมกับสลายตัว แยกย้ายกันไปทำงานของตัวเอง ไม่มีใครกล้าขี้เกียจหรือไม่ให้เกียรติกู้ชูหน่วนแม้แต่คนเดียว
ชิวเอ๋อร์เต็มไปด้วยความชื่นชม “มีเพียงคุณหนูเท่านั้นที่สามารถควบคุมทาสผู้ขี้เกียจเหล่านี้ได้ คุณหนู ท่านอาจจะยังไม่รู้ ก่อนหน้านี้ไม่ว่าข้าจะพูดอย่างไร พวกเขาก็ไม่สนใจข้า ทำให้ข้าโกรธแทบตาย”
“ทุกคนไปกันหมดแล้ว เหตุใดเจ้ายังไม่ไป”
“ที่นี่คือบ้านของชิวเอ๋อร์ ชิวเอ๋อร์ไปจากที่นี่ แล้วจะให้ไปอยู่ที่ไหน”
“เช่นนั้นจักรพรรดิตัวน้อยกับรัฐฉู่ไม่ได้สร้างปัญหาให้เจ้าอย่างนั้นหรือ?”
“จักรพรรดิก็พอมีบ้าง แต่รัฐฉู่ไม่ได้มาสร้างปัญหาให้ข้าแม้แต่น้อย อีกทั้งยังให้ความช่วยเหลือข้าอยู่หลายครั้ง หากไม่ใช่เพราะพวกเขา เกรงว่าข้าคงถูกจักรพรรดิสังหารไปตั้งนานแล้ว”
“รัฐฉู่ช่วยเจ้า?”
“ใช่แล้ว รัฐฉู่มุ่งเป้าไปที่อดีตผู้ใต้บังคับบัญชาของท่านอ๋อง ตามเหตุผลแล้ว พวกเขาก็น่าจะหมายหัวข้าไว้ด้วย แต่พวกเขาไม่เพียงไม่ทำให้ข้าลำบากใจเท่านั้น แต่ยังแอบให้ความช่วยเหลือข้ามาโดยตลอด”
กู้ชูหน่วนมองมาที่เยี่ยเฟิง
เยี่ยเฟิงส่ายหน้า บ่งบอกว่าเขาไม่รู้
“ปัง......”
กู้ชูหน่วนเปิดประตูออก เดินเข้าไปในห้องนอนของเยี่ยจิ่งหาน
มีถังน้ำขนาดใหญ่ใบหนึ่งวางอยู่ในห้องนอน
ภาพความทรงจำมากมายผุดขึ้นมาในหัวของกู้ชูหน่วน
ไม่กี่ปีก่อนหน้านี้ พิษเหมันต์และพิษใบไม้โลหิตของเยี่ยจิ่งหานยังไม่ได้รับการรักษา
นางจงใจแกล้งเข้า ให้ชิงเฟิงและเจี้ยงเสวี่ยนำสัตว์มีพิษจำนวนหนึ่งใส่ไว้ในถังเพื่อให้เยี่ยจิ่งหานลงไปอาบ
เยี่ยจิ่งหานผู้น่าสงสารถูกกัดไม่รู้กี่แผล
แม้แต่น้องชายของเขาก็ถูกกัดเช่นกัน
“คุณหนู สิ่งของที่อยู่ในจวนอ๋องยังคงเหมือนกับตอนที่พวกท่านจากไปไม่เปลี่ยนแปลง ห้องของท่านและท่านอ๋อง ชิวเอ๋อร์เข้ามาทำความสะอาดด้วยตัวเองทุกคนเพื่อรอให้ท่านอ๋องและคุณหนูกลับมา”
“คุณหนู ตอนที่ท่านอ๋องจากไปตอนนั้น เขาบอกว่าจะออกไปตามหาท่าน ท่านกลับมาแล้ว เหตุใดท่านอ๋องจึงยังไม่กลับมา หรือว่า......หรือว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นกับพวกเขา”
“ข้าเหนื่อยแล้ว ต้องการพักผ่อน พวกเจ้าออกไปก่อน”
“คือ......เจ้าคะ......”
ประตูถูกปิดลง ในห้องเต็มไปด้วยความเงียบ มีเพียงกู้ชูหน่วนอยู่คนเดียวเท่านั้น
คนเหล่านี้เข้ามาในดินแดนปีศาจอันรกร้าง
ชายหนุ่มคนหนึ่งเดินเข้ามาหากู้ชูหน่วนพร้อมกับภาพวาด “แม่นาง ท่านเองก็มาหาสมบัติที่นี่อย่างนั้นหรือ สมบัติที่อยู่ด้านนอก ไม่รู้ว่าถูกใครเอาไปบ้างแล้ว หากท่านต้องการตามหาสมบัติ เช่นนั้นก็ต้องเข้าไปในส่วนลึกของแดนปีศาจ บางทีที่นั่นอาจจะยังมีสมบัติหลงเหลืออยู่”
“แต่ค่ายกลปีศาจนั้นลึกล้ำยิ่งนัก แม้ค่ายกลปีศาจจะถูกทำลายไปแล้ว แต่ในบางครั้งมันก็ยังทำงานขึ้นมา มีคนมากมายล้มตายอยู่ที่นั่น ท่านเป็นเพียงผู้หญิงที่อ่อนแอ หากต้องการเข้าไปก็ต้องระวังตัวให้มาก”
กู้ชูหน่วนถามออกไปว่า “มีคนมาตามหาสมบัติที่นี่ทุกวันเลยอย่างนั้นหรือ? คนของเผ่าปีศาจในตอนนั้นหนีไปหมดแล้วอย่างนั้นหรือ?”
“เผ่าปีศาจถูกรัฐฉู่ทำลายจนสิ้นซากไปตั้งแต่แรก จอมมารไม่อยู่ เหล่าลูกศิษย์ของเผ่าปีศาจพวกนั้นจะไปสู้รัฐฉู่ได้อย่างไร เจ้าอาจจะยังไม่รู้ รัฐฉู่ลงมือกับเผ่าปีศาจอย่างโหดเหี้ยม บางคนถูกตัดแขนตัดขา บางคนถูกควักลูกตา บางคนถูกตัดลิ้น ตัดจมูก ตัดหู บางคนถูกเฉือนทีละชิ้น และไม่มีใครจากไปอย่างสบายแม้แต่คนเดียว”
“เวลานี้คนที่เหลืออยู่ของเผ่าปีศาจเหมือนกับหนูที่กำลังข้ามถนน ไม่รู้ว่าพวกเขาไปซ่อนตัวอยู่ที่ไหน แต่ไม่ว่าอย่างไรพวกเขาก็ไม่มีทางกล้าปรากฏตัวออกมา”
กู้ชูหน่วนขมวดคิ้ว “ต่อให้จอมมารไม่อยู่ ก็ยังมีลูกน้องที่แข็งแกร่งของจอมมารอีกมากมาย ประกอบกับค่ายกลที่ไม่อาจเทียบเทียม ลำพังแค่รัฐฉู่จะจัดการกับเผ่าปีศาจได้อย่างไร?”
“ได้ยินมาว่าผู้ลึกลับที่หนุนหลังรัฐฉู่อยู่นั้นมีความแข็งแกร่งในระดับปฐพี ต่อให้จอมมารอยู่ด้วย ก็ไม่ได้หมายความว่าจะเอาชนะเขาได้?”
ใช่
นางลืมไปได้อย่างไรว่ารัฐฉู่มีบุคคลลึกลับอยู่ผู้หนึ่ง
“แม้จะเป็นเช่นนั้น ต่อให้คนผู้นั้นจะอยู่ในระดับปฐพี แต่ด้วยค่ายกลที่แข็งแกร่งเหล่านั้น เขาก็ไม่อาจทำลายได้โดยง่าย”
“ไม่ใช่ หากตอนนั้นไม่มีคนมาคอยช่วยสนับสนุนค่ายกล เผ่าปีศาจคงถูกทำลายไปตั้งแต่ก่อนหน้านั้นแล้ว ไม่เหลือรอดแม้แต่คนเดียว จะมีอยู่ถึงวันนี้ได้อย่างไร แต่เจ้ามาที่นี่ก็ไม่ต้องกลัวว่าจะได้เจอกับคนของเผ่าปีศาจ คนของเผ่าปีศาจไม่มีทางปรากฏตัวออกมาแน่ ระวังแค่ค่ายกลอย่างเดียวก็พอ”
ทันใดนั้นก็มีเสียงดังขึ้น ซึ่งเป็นเสียงที่ดึงดูดความสนใจพวกของกู้ชูหน่วน
“ที่นี่มีเศษเสี้ยวของเผ่าปีศาจหลงเหลืออยู่ มีคนของเผ่าปีศาจอยู่......”
“อะไรนะ......คนของเผ่าปีศาจกล้าปรากฏตัวออกมาอย่างนั้นหรือ พวกเขาไม่กลัวถูกรัฐฉู่จัดการหรือยังไง ไปกันเถอะ พวกเขาไปจับคนของเผ่าปีศาจเพื่อไปขึ้นรางวัลกับรัฐฉู่ด้วยกัน”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์
สนุกมากค่ะ ขอบคุณที่แปลให้อ่านนะคะ อ่านถึง 1174 แล้วรอตอนต่อไปอยู่ค่ะ...
ไม่อัพจบเหรอคะ...
เป็นนางเอกที่นิสัยแย่ที่สุดตั้งแต่เคยอ่านมา...
คือตัวเองไม่มีเงิน แต่คิดจะเอาทุกอย่างด้วยราคาสูงเสียดฟ้า แล้วก็หาคำพูดให้คนอื่นจ่ายแทน ตัวเองหาประโยชน์จากคนใกล้ตัวแต่กลับเอาใจให้คนอื่นตลอดเนี่ยนะ...
แม่นางกู้เกินเยียวยาแล้วเด้อ 555...
เยี่ยเฟิงเป็นคนดีมาก แต่เขาทนงตัวเกินไป ชีวิตที่ผู้อื่นฝ่าฟันเพื่อแย่งชิงลมหายใจเขาไว้ แต่เขาก็ดิ้นรนกลับไปหาความตายอยู่เรื่อย...
ท่านอาจารย์พูดให้คิดดีมากเลย แต่อาหน่วนจะเข้าใจไหม นางดูมั่นหน้า มั่นใจเกิตเหตุแบบไม่สนสี่สนแปดใดใดเลย...
อยากให้กลับมาอัพเดทไวๆนะคะ ขอบคุณมากค่ะ...
สรุปเรื่องนี้มีตอนจบมั้ยค่ะ...
รอตอนจบอยู่นะคะ ใจบางไม่ไหวแล้วทรมาน...