เหวินเส่าอี๋กล่าว "เยี่ยจิ่งหานและเซี่ยวอวี่เซวียนอยู่ที่ใด?"
"อยู่ในวังหลวง ถูกจักรพรรดินีจับตัวเอาไว้ ข้าไม่รู้ว่าเซี่ยวอวี่เซวียนถูกขังไว้ที่ใด เยี่ยจิ่งหานถูกขังไว้ภายในหอดาบ"
กู้ชูหน่วนพูดออกมาจากการคาดเดาทั้งสิ้น
หนึ่ง เพื่อยื้อเวลา
สอง เพื่อล่อลวงให้เหวินเส่าอี๋ไปจัดการลงมือกับไป๋หลี่ป้าและจักรพรรดินี
ชายคนหนึ่งสวมใส่ชุดองครักษ์วิ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว จากนั้นคุกเข่าเดียว หลังจากทำความเคารพเหวินเส่าอี๋แล้ว และจึงเดินเข้าไปกระซิบข้างหูของเขาครู่หนึ่ง
กู้ชูหน่วนไม่ได้ยินว่าแท้ที่จริงแล้วพวกเขากำลังพูดเรื่องอะไรกัน เห็นเพียงแค่เหวินเส่าอี๋เอาแต่จ้องมองมาที่นาง ราวกับต้องการจะมองนางให้ทะลุปรุโปร่งไปถึงข้างใน
ผ่านไปเป็นเวลานาน จากนั้นเหวินเส่าอี๋จึงกล่าวขึ้นมาว่า "ครั้งนี้ข้าจะยอมเชื่อเจ้า หากเจ้ากล้าที่จะโกหกข้า ข้าสาบานได้ว่าเจ้าจะต้องเสียใจอย่างแน่นอน"
กู้ชูหน่วนยิ้มเยาะ "ชีวิตของข้าก็อยู่ในมือของเจ้าแล้ว ข้าจะกล้าโกหกเจ้าได้อย่างไร"
นางยังจำได้ไม่ลืมว่าครั้งที่แล้วที่เหวินเส่าอี๋ลงมืออย่างโหดเหี้ยมกับนางเพียงใด เพื่อที่จะแย่งชิงและได้ครอบครองวงแหวนอวกาศไปจากมือของนาง
"หัวหน้าเผ่า เช่นนั้นแล้ว เขาล่ะ?"
สามารถค้นหาดวงวิญญาณไปพร้อมกับการเพิ่มวรยุทธ์ไปถึงระดับเจ็ดได้
จอมมารหวาดกลัวจนเอาหน้าซุกเข้าไปในอ้อมแขนของกู้ชูหน่วน เพราะเกรงกลัวว่าจู่ๆ พวกเขาจะลงมือกับเขาอีก
เหวินเส่าอี๋เหลือบมองอย่างครุ่นคิดที่จอมมารผู้ตื่นตระหนกและหวาดกลัว
เมื่อนึกถึงอดีตตอนที่เขายังคงทรงอำนาจและครอบงำ คิดเพียงแค่ตัวเองนั้นยิ่งใหญ่และสูงส่ง ทำให้แววตาของเขาดูซับซ้อนเล็กน้อย
"ไม่เป็นไร ปล่อยเขาไปก่อน ถึงอย่างไรเสีย เขาก็หนีไปไหนไม่ได้"
"หัวหน้าเผ่า......"
บรรดาผู้อาวุโสทั้งแปดต่างพากันร้อนรนกระวนกระวายใจ
ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะเจอวิธีที่สามารถทำให้วรยุทธ์เพิ่มไปถึงระดับเจ็ดได้
เหตุใดถึงไม่เพิ่มวรยุทธ์ไประดับเจ็ดก่อนล่ะ?
แม้ว่าผู้หญิงคนนั้นจะพูดข่มขู่ เช่นนั้นแล้วจะเป็นอย่างไร พวกเขามีวิธีการมากมายให้ผู้หญิงคนนั้นยอมเชื่อฟัง
แต่ท่าทางของเหวินเส่าอี๋ดูมุ่งมั่นแน่วแน่ บรรดาผู้อาวุโสทั้งแปดจึงไม่กล้าพูดอะไรขึ้นมาเพื่อขัดใจเขา และทำได้เพียงเฝ้าจับตาดูกู้ชูหน่วนและจอมมารอย่างไม่ละสายตา
ทุกคนต่างพากันออกไป เหลือเพียงกู้ชูหน่วนและจอมมาร
กู้ชูหน่วนลูบศีรษะของเขาไปมา จากนั้นยิ้มและกล่าวว่า "ไม่ต้องกลัว พวกเขาออกไปกันหมดแล้ว"
"พี่หญิง......"
"ยังรู้สึกเจ็บอีกหรือไม่?"
"อืม"
"ข้าจะเป่าให้เจ้า"
"อืม"
"ยังเจ็บอีกหรือไม่?"
"ดีขึ้นมากแล้ว พี่หญิง พวกเขาจะฆ่าพวกเราหรือไม่?"
"ไม่ ข้าไม่มีทางให้พวกเขาฆ่าเจ้าอย่างแน่นอน"
"ห้องลับแห่งนี้สร้างขึ้นด้วยหินขนาดใหญ่ ประตูใหญ่ของห้องลับก็มีหินขนาดใหญ่จัดวางอยู่ อีกทั้งยังถูกวางเครื่องรางมนต์ตราเอาไว้อย่างแน่นหนา มีเพียงการสัมผัสกลไกเท่านั้นที่สามารถแก้และเปิดเครื่องรางมนต์ตราได้ ไม่เช่นนั้นแล้ว ใครก็ไม่สามารถเปิดห้องลับนี้ได้ พี่หญิง เราไม่มีหนทางออกไปจากที่นี่ได้เลย"
"ไม่ต้องหนี พวกเขาจะเป็นฝ่ายปล่อยเราออกไปเอง"
จอมมารฟังอย่างงงงวย ทว่าเขากลับไม่ถามอะไรอีก และยังคงซุกอยู่ในอ้อมแขนของนาง
ดูเหมือนจะมีเพียงวิธีการนี้ ที่ทำให้เขารู้สึกปลอดภัย
"เจ้าลุกขึ้นก่อน ข้าจะใช้โอกาสในช่วงเวลานี้รวบรวมพลังของข้าขึ้นมา"
"ข้าสอนท่านเอง"
กู้ชูหน่วนอยากจะตอบปฏิเสธออกไป
ทว่าเมื่อนึกถึงเมื่อสักครู่ที่พวกเขาบอกว่าซือม่อเฟยเคยเป็นยอดฝีมือระดับหกขั้นสูงสุด ทำให้นางพยักหน้า
มีเขาเป็นผู้คอยชี้นำ ไม่แน่นางอาจสามารถเพิ่มระดับวรยุทธ์ได้เร็วขึ้นก็เป็นได้
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว
เพียงชั่วพริบตาก็ผ่านไปแล้วสามวัน
กู้ชูหน่วนภายใต้การช่วยเหลือของซือม่อเฟย นางไม่เพียงแค่ฟื้นฟูจากอาการบาดเจ็บ อีกทั้งพละกำลังและวรยุทธ์ของนางก็กลับคืนมา และยังรู้สึกได้ถึงความรู้สึกในการที่กำลังจะเพิ่มระดับวรยุทธ์อีกด้วย
"ครื่น" เกิดเสียงดังขึ้น ประตูใหญ่ถูกเปิดออก
เหวินเส่าอี๋สวมใส่ในชุดสีขาว ราวกับเป็นเทพเทวดามาโปรดโลกมนุษย์
จอมมารถอยหลังออกไปตามสัญชาตญาณ
กู้ชูหน่วนยืนอย่างสงบและจ้องมองเขาอย่างกล้าหาญ
เหวินเส่าอี๋ไม่ต้องการพูดกับนางมากเกินไป
จากนั้นจึงกล่าวออกมาอย่างตรงไปตรงมา "เมื่อเจอดวงวิญญาณที่อยู่ในมือของจักรพรรดินีแล้ว เจ้าต้องนำมามอบให้ถึงมือของข้า จากนั้นค่อยทำการฆ่าสังหารจักรพรรดินี"
"เจ้าเป็นถึงยอดฝีมือระดับหกขั้นสูงสุดไม่ใช่หรือ? เจ้าไม่มีปัญญาฆ่าแม้เพียงจักรพรรดินีคนเดียวอย่างนั้นหรือ"
"เจ้าเพียงตอบมาว่า ตกลงยอมทำตามหรือไม่"
เผ่าเพลิงฟ้าต่างหากที่เป็นหัวหน้าใหญ่สินะ
"เรื่องที่สอง หลังจากที่จักรพรรดินีสวรรคต แต่งตั้งสถาปนาให้หยางโม่เป็นจักรพรรดิคนต่อไป"
เหวินเส่าอี๋หัวเราะเยาะอย่างเย็นชา "ฮึ......สถาปนาหยางโม่เป็นจักรพรรดิ? เหตุใดเจ้าถึงไม่สถาปนาตัวเองเป็นจักรพรรดินี?"
"ข้าก็คิดเช่นนั้น ทว่าข้าไม่ได้อยู่ในตระกูลสายเลือดของราชวงศ์ เช่นนั้นแล้วใครจะเข้าข้างข้า?"
"ตระกูลลเหวินไม่ยุ่งเกี่ยวกับเรื่องในราชสำนัก"
"ตระกูลเหวินไม่ยุ่งเกี่ยว แต่ทว่าเผ่าเพลิงฟ้ายุ่งเกี่ยวนี่ อีกอย่าง หลังจากที่จักรพรรดินีสวรรคต หากยังมีจักรพรรดิที่ชั่วร้ายโผล่มาอีก เช่นนั้นเจ้ายังต้องเสียเวลาเพื่อฆ่าสังหารอีกครั้งหนึ่ง เช่นนั้นจัดการเสียให้จบในครั้งเดียวไปเลยไม่ดีกว่าหรือ"
"หยางโม่เสนออะไรให้กับเจ้า เหตุใดถึงทำให้เจ้าต้องการคิดจะช่วยเขา?"
"เขาไม่ได้เสนออะไรให้กับข้า เพียงแต่ข้าเห็นว่าเขาเป็นคนดี เมื่อเขาได้เป็นจักรพรรดิแล้ว คงไม่ทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนก็เท่านั้นเอง"
"รัฐปิงมีเพียงจักรพรรดินีเสมอมา และไม่เคยมีจักรพรรดิผู้ชาย หยางโม่ไม่มีทางได้รับโอกาสนั้น"
กู้ชูหน่วนขมวดคิ้ว "กฎเกณฑ์เป็นสิ่งตายตัว ทว่าคนนั้นเป็นสิ่งมีชีวิต"
"ฟังให้ชัดเจน ตระกูลลเหวินไม่ยุ่งเกี่ยวกับเรื่องในราชสำนัก ใครจะเป็นจักรพรรดินั้นไม่เกี่ยวข้องอะไรกับข้า"
"เจ้าต้องการให้รัฐปิงเกิดความเดือดร้อนวุ่นวายอย่างนั้นหรือ?"
"......"
เหวินเส่าอี๋มีท่าทางแน่วแน่ ไม่มีพื้นที่แม้แต่จะต่อรองเลยสักนิด
เดิมทีกู้ชูหน่วนคิดจะลองใจของเขาดูสักเล็กน้อย
ทว่าเมื่อมองดูตอนนี้ เหวินเส่าอี๋ไม่มีความสนใจในเรื่องของราชวงศ์เลยสักนิดเดียว
ดูไปแล้ว เขาคิดเพียงต้องการฆ่าสังหารจักรพรรดินีเท่านั้น
ใครจะขึ้นมาเป็นจักรพรรดิในรัฐปิง เขาไม่สนใจเลยสักนิดเดียว
"ไม่เป็นไร เรื่องนี้ค่อยพูดกันวันหลัง เรื่องที่สามคือ ปล่อยอาม่อไป และห้ามรังแกหรือทำอะไรเขาอีกไปตลอดชีวิต"
"มู่หน่วน ความต้องการของเจ้าช่างสูงเสียเหลือเกิน"
"ข้าสามารถกำจัดตระกูลไป๋หลี่แทนเจ้าได้"
"ตระกูลไป๋หลี่เกี่ยวข้องอะไรกับข้า?"
"เกี่ยวข้องแน่นอน หากไม่กำจัดตระกูลไป๋หลี่ เช่นนั้นแล้วจะครอบครองดวงวิญญาณได้อย่างไร"
ยังไม่ทันที่เหวินเส่าอี๋จะพูดขึ้นมา กู้ชูหน่วนก็พูดเสริมอีก "ข้ารู้ว่าด้วยความสามารถและวรยุทธ์ของเจ้าแล้ว หากต้องการกำจัดตระกูลไป๋หลี่นั้นเป็นเรื่องง่ายดายอย่างมาก ทว่าตระกูลไป๋หลี่ก็มียอดฝีมือจำนวนมาก หากเจ้าต้องกำจัดพวกเขา เช่นนั้นก็ต้องใช้กำลังความสามารถไม่น้อย และที่สำคัญก็คือ กระดาษไม่สามารถห่อไฟได้ เจ้าทำลายตระกูลไป๋หลี่ ไม่นานทุกคนบนโลกนี้จะต้องรู้ว่าพวกเจ้าเป็นคนทำ ถึงเวลานั้น ชื่อเสียงของตระกูลเหวินจะย่อยยับและเสียหายไม่น้อย"
"ข้าไม่เพียงสามารถกำจัดตระกูลไป๋หลี่ได้ ข้ายังสามารถนำดวงวิญญาณที่ซ่อนอยู่ในตระกูลไป๋หลี่มาได้"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์
สนุกมากค่ะ ขอบคุณที่แปลให้อ่านนะคะ อ่านถึง 1174 แล้วรอตอนต่อไปอยู่ค่ะ...
ไม่อัพจบเหรอคะ...
เป็นนางเอกที่นิสัยแย่ที่สุดตั้งแต่เคยอ่านมา...
คือตัวเองไม่มีเงิน แต่คิดจะเอาทุกอย่างด้วยราคาสูงเสียดฟ้า แล้วก็หาคำพูดให้คนอื่นจ่ายแทน ตัวเองหาประโยชน์จากคนใกล้ตัวแต่กลับเอาใจให้คนอื่นตลอดเนี่ยนะ...
แม่นางกู้เกินเยียวยาแล้วเด้อ 555...
เยี่ยเฟิงเป็นคนดีมาก แต่เขาทนงตัวเกินไป ชีวิตที่ผู้อื่นฝ่าฟันเพื่อแย่งชิงลมหายใจเขาไว้ แต่เขาก็ดิ้นรนกลับไปหาความตายอยู่เรื่อย...
ท่านอาจารย์พูดให้คิดดีมากเลย แต่อาหน่วนจะเข้าใจไหม นางดูมั่นหน้า มั่นใจเกิตเหตุแบบไม่สนสี่สนแปดใดใดเลย...
อยากให้กลับมาอัพเดทไวๆนะคะ ขอบคุณมากค่ะ...
สรุปเรื่องนี้มีตอนจบมั้ยค่ะ...
รอตอนจบอยู่นะคะ ใจบางไม่ไหวแล้วทรมาน...