"แต่แม่สาวอัปลักษณ์สวมเขาให้เขา เขา......ต้องอารมณ์ดีอย่างนั้นหรือ?"
ไหนบอกว่าเทพแห่งสงครามอารมณ์ไม่คงที่ โหดเหี้ยมอำมหิตมิใช่หรือ?
"ข้าเชื่อว่านางจะไม่พาตัวเองไปอยู่ในที่ที่อันตราย" ชีวิตของผู้คนทั้งตระกูลขึ้นอยู่กับนาง นางจะปล่อยให้ตัวเองเป็นอะไรได้อย่างไร
"ก็จริง แม่สาวอัปลักษณ์ผู้นี้ฉลาดหลักแหลม และไม่ได้ถูกรังแกได้ง่าย ๆ" เพียงแต่คนผู้นั้นคือเทพแห่งสงคราม เขาจึงยังกังวลอยู่ในใจ
เยี่ยเฟิงมองตามหลังพวกเขาไปอย่างครุ่นคิด นัยน์ตาคู่นั้นมีความซับซ้อนปรากฏขึ้นมาแวบหนึ่ง และไม่นานเขาก็ออกไปจากหอไร้กังวล
หลังจากที่เทพแห่งสงครามจากไป ผู้คนในหอไร้กังวลก็รู้สึกว่าร่างกายของพวกเขาเปียกโชกไปด้วยเหงื่อ
เนื่องจากเมื่อครู่พวกเขาคิดว่าตัวเองต้องตายอย่างแน่นอน
"เมื่อครู่คนผู้นั้นฆ่าคนมาแล้วนับไม่ถ้วน ความโหดเหี้ยมอันเยือกเย็นของท่านหานอ๋องเทพเจ้าแห่งสงคราม?ไม่ใช่ว่าเขาเจ็บป่วยจนใกล้จะตายแล้วหรือ?แต่ทำไมลักษณะท่าทางของเขาถึงยังดูมีกำลังวังชามากเช่นนี้?"
"ในโลกนี้จะมีใครกล้าสวมรอยเป็นท่านหานอ๋องเทพแห่งสงคราม?ยิ่งไปกว่านั้นคุณชายอี้เซียนกวีและคุณชายเซี่ยว ล้วนแต่เรียกขานเขาว่าเทพเจ้าแห่งสงคราม พวกเขาทั้งสองคนมีชื่อเสียงเลื่องลือ พวกเขาจะจำผิดคนได้อย่างไร"
“หญิงสาวที่อยู่ข้างกายเขา คือคุณหนูสามของจวนอัครเสนาบดี ผู้ชนะรางวัลที่หนึ่งในการชุมนุมแข่งขันวิชาการ และยังเป็นคู่หมั้นของเทพแห่งสงคราม?"
"คู่หมั้นของเทพแห่งสงครามกล้าที่จะมาเที่ยวหอนางโลม และสวมเขาให้เทพแห่งสงคราม ข้าไม่ได้มองผิดไปใช่หรือไม่...... นางไม่กลัวว่าเทพแห่งสงครามจะแล่เนื้อนางแล้วเอาเกลือมาทา"
ผู้คนในหอไร้กังวลล้วนแต่คึกคักเจี๊ยวจ๊าว
ประการแรกคือน้อยมากที่เทพแห่งสงครามจะปรากฏตัว มีเรื่องเล่าขานมากมายเกี่ยวกับเขา แต่มีเพียงไม่กี่คนที่ได้เห็นเขา
ประการที่สองคือชื่อของกู้ชูหน่วนนั้นเป็นที่เลื่องลือไปทั่วใต้หล้าแล้ว ผู้คนทั้งใต้หล้าต่างรู้ว่านางเป็นสตรีที่มีความสามารถมากที่สุดในประวัติศาสตร์ บทกวีของนางเป็นที่แพร่หลายไปทั่วทั้งเมืองในชั่วข้ามคืน กล่าวได้ว่าเป็นที่รู้กันทั่วบ้านทั่วเมือง
ประการที่สามคือคู่หมั้นของเทพแห่งสงครามมาเที่ยวหยอกเย้าบุรุษรูปงามในหอนางโลม และสวมเขาให้เทพแห่งสงคราม
ไม่ว่าข่าวคราวใดก็เพียงพอที่จะทำให้เล่าลือกันไปทั่วทั้งเมือง
เซี่ยวอวี่เซวียนถามว่า "อี้เฉินเฟย ข้ายังคงเป็นกังวล ท่านว่าพวกเราไปที่จวนหานอ๋องดีหรือไม่ หากเทพแห่งสงครามบิดพลิ้วและฆ่าแม่สาวอัปลักษณ์จะทำอย่างไร?"
"ไม่ไป"
ชิวเอ๋อร์แอบดึงแขนเสื้อของกู้ชูหน่วน นางร้อนใจราวกับมดที่อยู่บนหม้อน้ำร้อน แต่คุณหนูของนางกลับหลับสนิทจนเรียกไม่ตื่น
เยี่ยจิ่งหานหัวเราะเยาะและดีดนิ้ว
เจี้ยงเสวี่ยเข้าใจและตะโกนว่า "ชิวเอ๋อร์ในฐานะที่เจ้าเป็นสาวใช้ข้างกาย แต่ปล่อยให้ผู้เป็นนายออกไปเที่ยวหอนางโลม และหยอกเย้าบุรุษรูปงาม ถือเป็นการนอกใจ ตามกฎของจวน จะต้องลากตัวออกไปเป็นรางวัลแก่เหล่าทหารเพื่อให้ความสำราญ"
เมื่อชิวเอ๋อร์ได้ยินเช่นนั้น ร่างกายของนางก็ไร้เรี่ยวแรงในทันที นางโขกศีรษะเสียงดัง "ท่านอ๋องได้โปรดไว้ชีวิตด้วยเพคะ ท่านจะลงโทษบ่าวอย่างไรก็ได้ แต่ได้โปรดอย่ายกบ่าวให้เป็นรางวัล......แก่ผู้อื่นเลย"
"ลากตัวออกไป" เจี้ยงเสวี่ยสั่งอย่างเย็นชา
"คุณหนู......คุณหนูช่วยด้วยเจ้าค่ะ"
ที่นี่เสียงดังอึกทึก และกู้ชูหน่วนก็ตื่นขึ้นมาในทันที
นางถีบคนรับใช้ทั้งหมดที่ลากตัวชิวเอ๋อร์ออกไป และตะโกนเสียงดังว่า "ใครกล้าแตะต้องนาง"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์
สนุกมากค่ะ ขอบคุณที่แปลให้อ่านนะคะ อ่านถึง 1174 แล้วรอตอนต่อไปอยู่ค่ะ...
ไม่อัพจบเหรอคะ...
เป็นนางเอกที่นิสัยแย่ที่สุดตั้งแต่เคยอ่านมา...
คือตัวเองไม่มีเงิน แต่คิดจะเอาทุกอย่างด้วยราคาสูงเสียดฟ้า แล้วก็หาคำพูดให้คนอื่นจ่ายแทน ตัวเองหาประโยชน์จากคนใกล้ตัวแต่กลับเอาใจให้คนอื่นตลอดเนี่ยนะ...
แม่นางกู้เกินเยียวยาแล้วเด้อ 555...
เยี่ยเฟิงเป็นคนดีมาก แต่เขาทนงตัวเกินไป ชีวิตที่ผู้อื่นฝ่าฟันเพื่อแย่งชิงลมหายใจเขาไว้ แต่เขาก็ดิ้นรนกลับไปหาความตายอยู่เรื่อย...
ท่านอาจารย์พูดให้คิดดีมากเลย แต่อาหน่วนจะเข้าใจไหม นางดูมั่นหน้า มั่นใจเกิตเหตุแบบไม่สนสี่สนแปดใดใดเลย...
อยากให้กลับมาอัพเดทไวๆนะคะ ขอบคุณมากค่ะ...
สรุปเรื่องนี้มีตอนจบมั้ยค่ะ...
รอตอนจบอยู่นะคะ ใจบางไม่ไหวแล้วทรมาน...