แม่ทัพเฝ้าประตูเมืองจ้องมองอย่างเย็นชา ทำให้บรรดาทหารต่างพากันตัวสั่นและก้มหน้าไม่กล้าพูดอะไร
"ฝ่าบาทมีรับสั่งว่าห้ามปล่อยผู้ต้องสงสัยไปแม้แต่คนเดียว ต่อให้พวกเขาเป็นโรคไข้ทรพิษก็เถอะ"
และแบบนี้เอง ทำให้กู้ชูหน่วนและเยี่ยจิ่งหานถูกนำตัวเข้าไปกักบริเวณ
ระหว่างนั้นมีหมอเข้ามาจำนวนมาก แต่ละคนต่างก็วินิจฉัยว่าพวกเขาเป็นโรคไข้ทรพิษ ทำให้ทุกคนต่างตกใจและไม่กล้าเข้าใกล้
แม่ทัพที่เฝ้าประตูเมืองสั่งให้นำตัวพวกเขาไปยังที่รกร้าง จากนั้นฆ่าพวกเขาทิ้ง เพื่อจะได้ไม่ทำให้โรคไข้ทรพิษลามไปติดต่อสู่ผู้อื่น
ภายในพื้นที่รกร้างในเวลากลางคืน เยี่ยจิ่งหานส่งสายตาให้กู้ชูหน่วน เขาคิดไม่ออกจริงๆ เลยว่าผู้หญิงคนนี้กำลังคิดอะไรอยู่กันแน่
นางนอกจากมีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยมแล้ว เรื่องอื่นๆ กลับมีความคิดแปลกประหลาดผิดมนุษย์
และเมื่อมองนางที่กำลังหลับตาและนั่งขัดสมาธิ ดูจากภายนอกเหมือนคนกำลังหลับ แต่ในความเป็นจริงแล้ว นางกำลังกระตุ้นกำลังภายใน แม้แต่บนศีรษะก็มีควันสีขาวๆ ปรากฏขึ้นมา ซึ่งเห็นได้ชัดว่านางกำลังฝึกวรยุทธ์
ตลอดระยะทาง แม้เพียงเวลาน้อยนิดนางก็จะใช้เพื่อฝึกวรยุทธ์
ตั้งแต่ที่ตระกูลมู่ถูกฆ่าล้างตระกูล ดูจากภายนอกแล้วนางยังคงเป็นปกติ ทว่าแววตาของนางกลับมีร่องรอยของความโศกเศร้าเสียใจปรากฏให้เห็น
เห็นได้ชัดว่าการที่ตระกูลมู่ถูกฆ่าล้างตระกูล ทำให้นางรู้สึกเศร้าเสียใจอย่างมาก
แม่ทัพเฝ้าประตูเมืองพาทหารมาด้วยอีกสองคน
เขายืนอยู่ ส่วนกู้ชูหน่วนและเยี่ยจิ่งหานนั้นกำลังนั่งอยู่ และจู่ๆ แม่ทัพเฝ้าประตูเมืองก็รู้สึกว่าขาของตัวเองอ่อนแรง และรู้สึกมีแรงกดทับบนร่างกายอย่างหนัก
หนักจนทำให้เขาแทบอยากจะคลานลงไป และความรู้สึกนี้ล้วนมาจากเยี่ยจิ่งหาน
"พวกเจ้าเป็นใครกันแน่?" หลัวหลิน แม่ทัพเฝ้าประตูเมืองถามออกไป
แม้ว่าสองคนนี้จะปลอมตัวเป็นอย่างดี ทว่าความสง่าสูงส่งของชายคนนั้นกลับปิดไม่มิด
เขาไม่มีทางเป็นเพียงคนตัดไม้ธรรมดา ทว่ากลับเหมือนผู้ที่มีตำแหน่งสูงส่ง
นี่คือยาอะไรกัน เหตุใดถึงสามารถโกหกหมอได้ทุกคน? ช่างน่าอัศจรรย์เกินไปเหลือไม่
กู้ชูหน่วนไม่อยากเสียเวลา นางเช็ดตัวไปพลางพร้อมกับกล่าวออกมา "ข้ารู้ว่าเจ้าเป็นคนสนิทของชินอ๋องเสวี่ย และหลายปีมานี้พวกเจ้าก็ไม่พึงพอใจในจักรพรรดินีอย่างมาก ครั้งนี้จักรพรรดินีก็กลับลงมือกับชินอ๋องเสวี่ย ฉะนั้นพวกเจ้าก็เกิดเป็นความแค้นขึ้นในใจตั้งนานแล้ว"
หลัวหลินและคนอื่นๆ จับตามองอย่างเคร่งเครียด หนึ่งในทหารตวาดขึ้นมา "เจ้าพูดเหลวไหลอะไรของเจ้า พวกข้าจงรักภักดีต่อฝ่าบาท จะคิดกบฏได้อย่างไร นี่มีโทษถึงตัดศีรษะเก้าชั่วโคตรเชียวนะ เจ้า......"
"ที่นี่เป็นป่ารกร้าง ไม่มีคนนอก เจ้าจะกลัวอะไร? ข้าก็ไม่มีเวลามากมายจะมาไร้สาระกับพวกเจ้า"
"ในเมื่อเจ้ารู้ เช่นนั้นเราก็จะไม่ปกปิดต่อไป เราไม่พอใจในฝ่าบาทมานานมากแล้ว หลายปีมานี้ฝ่าบาททำร้ายผู้คนที่จงรักภักดี ฆ่าทำร้ายผู้คนไม่เลือกหน้า กดขี่ข่มเหงประชาชน ผู้คนเดือดร้อนเรื่องอาหารการกินและความเป็นอยู่ อดอยากยากไร้ ต่อให้เป็นผู้มีจิตใจดีในรัฐปิง มีใครบ้างไม่คิดอยากล้มฝ่าบาท เพียงแต่...... "
"แม้ว่ารัฐปิงจะมีกองกำลังทหารจลาจลจำนวนมาก แต่ก็ไม่ใช่มาอย่างถูกต้อง พวกเจ้าได้รับเงินจากราชสำนัก และจงรักภักดีต่อราชสำนัก เพียงแค่ต้องการปกป้องราชวงศ์คนข้างหลัง พวกเจ้าคิดปกป้องชินอ๋องเสวี่ย แต่ชินอ๋องเสวี่ยกลับไม่คิดอยากเป็นจักรพรรดิ และตอนนี้ก็ไม่รู้เป็นตายร้ายดีอย่างไร ฉะนั้นตอนนี้พวกเจ้ากำลังเดือดร้อนไม่มีที่พึ่งใช่หรือไม่?"
หลัวหลินรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยว่าเหตุใดผู้หญิงคนนี้ถึงรู้เรื่องราวเยอะมากมายเช่นนี้
"หากข้าบอกพวกเจ้าว่าชินอ๋องเสวี่ยยังไม่ตาย และอยู่ที่เมืองอวิ๋นโจว เจ้าจะเชื่อหรือไม่?"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์
สนุกมากค่ะ ขอบคุณที่แปลให้อ่านนะคะ อ่านถึง 1174 แล้วรอตอนต่อไปอยู่ค่ะ...
ไม่อัพจบเหรอคะ...
เป็นนางเอกที่นิสัยแย่ที่สุดตั้งแต่เคยอ่านมา...
คือตัวเองไม่มีเงิน แต่คิดจะเอาทุกอย่างด้วยราคาสูงเสียดฟ้า แล้วก็หาคำพูดให้คนอื่นจ่ายแทน ตัวเองหาประโยชน์จากคนใกล้ตัวแต่กลับเอาใจให้คนอื่นตลอดเนี่ยนะ...
แม่นางกู้เกินเยียวยาแล้วเด้อ 555...
เยี่ยเฟิงเป็นคนดีมาก แต่เขาทนงตัวเกินไป ชีวิตที่ผู้อื่นฝ่าฟันเพื่อแย่งชิงลมหายใจเขาไว้ แต่เขาก็ดิ้นรนกลับไปหาความตายอยู่เรื่อย...
ท่านอาจารย์พูดให้คิดดีมากเลย แต่อาหน่วนจะเข้าใจไหม นางดูมั่นหน้า มั่นใจเกิตเหตุแบบไม่สนสี่สนแปดใดใดเลย...
อยากให้กลับมาอัพเดทไวๆนะคะ ขอบคุณมากค่ะ...
สรุปเรื่องนี้มีตอนจบมั้ยค่ะ...
รอตอนจบอยู่นะคะ ใจบางไม่ไหวแล้วทรมาน...