ลำนำยอดหญิงจอมพิษ นิยาย บท 43

กู้ชิวเหลิ่งกลับบอกว่า "ลูกก็แค่พูดความจริงเท่านั้น เกรงว่าข้างนอกจะมีคำพูดที่ไม่น่าฟังมากกว่านี้อีก เพียงแต่ท่านพ่อไม่รู้เท่านั้น ถ้าหากวันนี้ท่านพ่อสงสัยว่าบ่าวคนนี้เป็นคนที่ลูกจงใจส่งมาให้ ก็สามารถลงโทษได้ แต่ถ้าหากเรื่องนี้แพร่ออกไป คนข้างนอกจะพูดกันอย่างไร"

กู้หนานเฉิงไม่พูดจา แต่ฮูหยินใหญ่ที่อยู่ข้างๆสีหน้าเปลี่ยนไปทันที

"ท่านพ่อก็แค่โปรดปรานบ่าวคนหนึ่งเท่านั้น ก็รับไว้เป็นอนุซะ แค่ท่านพ่อกลับจะลงโทษ คนภายนอกย่อมต้องพูดกันว่าท่านพ่อกลัวภรรยาเอก ถึงตอนนั้นเรื่องของท่านพ่อก็จะกลายเป็นเรื่องตลกของคนในเมืองหลวง"

ฮูหยินใหญ่รีบพูดขึ้นว่า "บ่าวคนนี้ทำตัวไม่เหมาะสม ก็สมควรถูกลงโทษอยู่แล้ว"

ดวงตาของกู้ชิวเหลิ่งจ้องมองไปที่ฮูหยินใหญ่ พูดว่า "บ่าวคนนี้ทำตัวไม่เหมาะสมก็จริง แต่ว่านางได้กลายเป็นหญิงของท่านพ่อข้าแล้ว เรื่องนี้น่าจะให้ท่านพ่อเป็นคนตัดสินใจ ท่านแม่เข้ามาแทรกแซงเช่นนี้ หรือว่าต้องการจะตัดสินโทษแทนท่านพ่ออย่างนั้นหรือ"

ฮูหยินใหญ่อุทานอย่างตกใจว่า "นายท่าน"

กู้หนานเฉิงสีหน้าเคร่งขรึม การเปลี่ยนมุมมองของกู้ชิวเหลิ่งประสบความสำเร็จมาก สิ่งที่กู้หนานเฉิงให้ความสำคัญมากที่สุดคือชื่อเสียง และเมื่อชายคนหนึ่งยืนอยู่ในจุดสูงสุดของชีวิต กลับไม่มีอนุภรรยาที่เหมาะสมสักคน ทันใดนั้นเขาก็นึกถึงขุนนางหลายคนที่อยู่ในราชสำนัก ต่างก็มีภรรยาหลวงภรรยารองไม่ก็อนุหลายคน เดิมทีเขาไม่ใส่ใจ เพียงแต่หลังจากที่กู้ชิวเหลิ่งยกเรื่องนี้ขึ้นมาพูด เขากลับใส่ใจขึ้นมา

กู้หนานเฉิงมองอิงเอ๋อร์ที่อยู่บนพื้น ร้องไห้น้ำตาแทบเป็นสายเลือด ดูน่าสงสารจริงๆ และสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ในห้องหนังสือ เขาก็รู้สึกถึงความสุขที่ไม่เคยมีมาก่อน ความรู้สึกเช่นนั้นเหมือนจะเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อหลายปีที่ผ่านมาแล้ว

ในที่สุดกู้หนานเฉิงก็เปิดปากเอ่ยขึ้น "ให้เป็นอี๋เหนียงสี่ ไปอยู่ที่สวนฟางหวา"

เรื่องราวเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วกะทันหัน ทำให้ฮูหยินใหญ่คาดคิดไม่ถึง

แม้แต่อิงเอ๋อร์ที่อยู่บนพื้นก็ตกตะลึงนิ่งอึ้งไป นางคิดไม่ถึงว่ากู้หนานเฉิงไม่เพียงแต่จะไม่ลงโทษนาง แต่ยังแต่งตั้งนางเป็นอี๋เหนียง

อิงเอ๋อร์ไม่รู้ว่าควรดีใจหรือเสียใจ นางมองไปทางฮูหยินใหญ่ ใบหน้าของฮูหยินใหญ่ฉายแววไม่พอใจอย่างที่สุด

กู้ชิวเซียงพูดเสียงหลง "ท่านพ่อ ท่านจะให้สาวใช้มาเป็นอี๋เหนียงได้อย่างไร ท่านจะให้ท่านแม่เอาหน้าไปไว้ที่ไหน"

กู้หนานเฉิงพูดเสียงเย็นว่า "หุบปาก ในจวนนี้ใครเป็นใหญ่กันแน่ แม่เจ้า หรือว่าข้า"

กู้ชิวเซียงถูกเสียงตะคอกของกู้หนานเฉิงทำเอาตกใจจนหุบปากลง นางมองกู้หนานเฉิงด้วยสายตาชิงชัง ทั้งๆที่แผนนี้เป็นแผนการที่ฮูหยินใหญ่วางไว้ตั้งแต่หลายวันก่อน แต่คิดไม่ถึงว่ากู้ชิวเหลิ่งจะพูดจาไม่กี่คำก็สามารถทำให้เรื่องจบลงเช่นนี้ได้

ถ้าหากจะบอกว่าก่อนหน้านี้สำหรับนางแล้วกู้ชิวเหลิ่งไม่ใช่คนที่นางต้องเป็นกังวลเลย แต่ตอนนี้นางไม่คิดเช่นนั้นแล้ว

ฮูหยินใหญ่รู้สึกสะเทือนใจยิ่งกว่ากู้ชิวเซียงเสียอีก เดิมทีนางคิดจะใช้อิงเอ๋อร์เป็นหมากในการล้มกระดานของกู้ชิวเหลิ่ง ให้บทเรียนกู้ชิวเหลิ่งสักบ้าง อย่างน้อยก็ให้กู้ชิวเหลิ่งสูญเสียความรักและเอ็นดูต่อหน้ากู้หนานเฉิง แต่กลับคิดไม่ถึงว่าจะเป็นการทำร้ายตนเองแท้ๆ

ไม่เพียงแต่จัดการกู้ชิวเหลิ่งไม่ได้ กลับมีอี๋เหนียงสี่เพิ่มมาอีกหนึ่งคน ยังทำให้กู้หนานเฉิงสูญเสียความเชื่อใจที่มีต่อนางมาตั้งหลายปี

กู้ชิวเหลิ่งอมยิ้มมองฮูหยินใหญ่ แววตานั้นราวกับกำลังพูดว่า ข้าเคยเตือนท่านแล้ว แต่ท่านไม่เจียมเองเอาซะเลย

"ถอยออกไปให้หมด"

กู้หนานเฉิงสะบัดแขนเสื้อเดินออกไป กู้ชิวเซียงกัดฟันพูดว่า "กู้ชิวเหลิ่ง เจ้าใช้วิธีอะไรกันแน่ ถึงทำให้ท่านพ่อเชื่อในสิ่งที่เจ้าพูด "

กู้ชิวเหลิ่งพูดเสียงเรียบเฉยว่า "พี่สาวหมายความว่าอย่างไร ข้าไม่เข้าใจจริงๆ ท่านพ่อเป็นคนตัดสินใจจะเก็บอิงเอ๋อร์ไว้เป็นอี๋เหนียงสี่เอง เกี่ยวอะไรกับข้าด้วย"

ฮูหยินใหญ่ใช้สายตาเย็นชามองอิงเอ๋อร์ที่อยู่บนพื้น อิงเอ๋อร์ตกใจจนตัวสั่น

ใบหน้าของอี๋เหนียงรองที่เดิมทียังมีรอยยิ้มอยู่ ก็หายวับไปทันที และแทนที่ด้วยความกระดากอายและโมโห

กู้หนานเฉิงขมวดคิ้ว พูดว่า "เอาล่ะ ก็แค่คำเรียกขาน วันหลังสามารถเปลี่ยนได้"

อิงเอ๋อร์เอ่ยอย่างขี้ขลาดว่า "ข้ารู้แล้ว"

กู้ชิวเหลิ่งที่อยู่ข้างๆพูดขึ้นว่า "ท่านพ่อพูดถูก เหลิ่งเอ๋อร์คำนับอี๋เหนียงสี่ จากนี้ก็นับว่าพวกเรามีผู้อาวุโสมากขึ้นคนหนึ่ง ใช่หรือไม่ พี่ใหญ่"

ใบหน้าของกู้ชิวเซียงมีแววโมโหที่แทบจะมองไม่ออกวาบผ่านไป ถ้าหากไม่ใช่เพราะว่าเมื่อวาน ฮูหยินใหญ่ได้เตือนนางไว้ นางต้องไม่ให้อิงเอ๋อร์ที่คิดปีนขึ้นเตียงคนนี้ได้มีชีวิตสุขสบายแน่

นางเป็นคนมีนิสัยหยิ่งยโสโอหัง จะยอมรับสาวใช้คนหนึ่งมาเป็นอี๋เหนียงของนางได้อย่างไร อีกทั้งยังเป็นสาวใช้ที่อายุเท่ากับนาง ดีที่กู้ชิวเหลิ่งยังเรียกออกมาได้

กู้หนานเฉิงใบหน้าบึ้งตึง ถามว่า "เซียงเอ๋อร์"

กู้ชิวเซียงพบว่าตนเองเสียสมาธิไป รีบพูดขึ้นว่า "เมื่อครู่ลูกกำลังคิดอยู่ว่าจะเตรียมของขวัญอะไรมาให้อี๋เหนียงคนใหม่ เรื่องมงคลในวันสุกดิบเช่นนี้ คนที่อาวุโสน้อยกว่าควรจะเตรียมตัวเอาไว้"

กู้หนานเฉิงพยักหน้า บอกว่า "อิงเอ๋อร์เป็นคนนิสัยอ่อนแอ เจ้าไม่ต้องมอบของขวัญล้ำค่าอะไรมาก"

"ลูกทราบแล้วเจ้าค่ะ"

กู้ชิวเยว่ยืนอยู่ข้างๆ พูดขึ้นว่า "เช่นนั้นเยว่เอ๋อร์ก็ขอคำนับอี๋เหนียงสี่ เพียงแต่ไม่ได้เตรียมของขวัญอะไรไว้ให้ ขออี๋เหนียงสี่อย่าถือสา"

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลำนำยอดหญิงจอมพิษ