เช้าวันรุ่งขึ้น
ซูหยิงเซี่ยมีนิสัยชอบวิ่งออกกำลังกายตอนเช้า และเธอจะตื่นนอนตอนหกโมงเช้าทุกวัน
หลังจากเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จแล้ว ซูหยิงเซี่ยก็เดินเข้าไปหาหานซานเฉียนที่นอนอยู่บนพื้นข้างเตียง พลางพูดว่า “ยังแกล้งหลับอยู่อีก?”
หานซานเฉียนลุกขึ้นนั่งอย่างเชื่องช้า เขาคิดไม่ถึงว่าเธอจะรู้ว่าเขาไปเฝ้าเธอหลังเลิกงานทุกวัน และเธอรู้แม้กระทั่งว่าเขาตามเธอไปวิ่งในตอนเช้าอีกด้วย
ทั้งสองคนออกไปข้างนอกพร้อมกัน สามปีมานี้ซูหยิงเซี่ยจะวิ่งออกกำลังกายตอนเช้าในเส้นทางเดิมทุกวัน โดยต้องวิ่งผ่านคฤหาสน์เขาหยุนติงด้วย
เมื่อมาถึงเขตถนนบริเวณคฤหาสน์เขาหยุนติง หานซานเฉียนถามซูหยิงเซี่ยว่า “ทำไมคุณถึงมองที่ตรงนี้ทุกวันเลยล่ะ?”
“ถ้าหากได้วิ่งออกกำลังกายบนภูเขาแบบนี้จะได้รับอากาศที่ดีกว่าอย่างไรล่ะ” ซูหยิงเซี่ยพูดด้วยแววตาปรารถนา เธอรู้ว่าประตูที่อยู่ใต้ภูเขาไม่มีใครสามารถเข้ามาในพื้นที่นี้ได้ นอกจากผู้อยู่อาศัยบริเวณนี้เท่านั้น ซูหยิงเซี่ยรู้ดีว่าที่นี่อยู่ไกลเกินเอื้อมของเธอ ดังนั้นเธอจึงพอใจที่จะได้เห็นมันแบบนี้ทุกวัน
“คุณย่าของฉันต้องการอยู่ที่นี่ เพราะการอยู่ที่นี่เท่านั้นที่จะทำให้เธอสามารถก้าวเข้าสู่สังคมชนชั้นสูงได้อย่างแท้จริง การความร่วมมือกับบริษัทลั่วเฉวนั้นมีความเป็นไปได้มากที่จะนำโอกาสดังกล่าวมาสู่ตระกูลซู เป็นเหตุผลที่ทำให้ท่านมีทัศนคติที่เด็ดเดี่ยวไม่ยอมแพ้หรือท้อถอยง่าย ๆ และเป็นสาเหตุที่ท่านให้ซูไห่เฉามาหาฉัน”
หานซานเฉียนมองไปที่คฤหาสน์ตรงใจกลางภูเขาและพูดว่า “ผมได้ยินมาว่าคฤหาสน์ใจกลางภูเขานี้กำลังจะเปิดประมูลขาย เพราะเจ้าของเดิมไปต่างประเทศเมื่อหลายปีก่อน และคงไม่มีแผนที่จะกลับประเทศแล้ว”
“คุณคิดอะไรอยู่” ซูหยิงเซี่ยมองดูหานซานเฉียนอย่างเลี่ยงไม่ได้และพูดว่า “ในพื้นที่บ้านพักตากอากาศบริเวณภูเขาหยุนติงทั้งหมด คฤหาสน์ใจกลางภูเขานั้นมีราคาแพงที่สุดและสามารถสะท้อนสถานะทางสังคมได้ดีที่สุด ในการประมูลครั้งนี้จะมีเศรษฐีมากมายอย่างแน่นอน ฉันได้ยินมาว่าราคาซื้อขายอยู่ที่ประมาณหกสิบล้านหยวน คุณเข้าใจไหมว่ามันคือเงินจำนวนมากแค่ไหน?”
หกสิบล้านหยวนนั้นค่อนข้างมาก แต่…จริง ๆ แล้วก็ไม่มากนัก
“เราไปกันเถอะ” หานซานเฉียนพูดด้วยรอยยิ้ม
ก่อนกลับบ้าน ทั้งสองคนทานอาหารเช้าข้างนอกด้วยกันเป็นครั้งแรกในรอบสามปี หลังจากกลับบ้านได้ไม่นาน หานซานเฉียนก็พบข้ออ้างที่จะออกจากตระกูลแล้ว
ณ บริษัทอสังหาริมทรัพย์ลั่วเฉว
ห้องทำงานของท่านประธานที่ชั้นบนสุด
หานซานเฉียนยืนตรงอยู่ที่หน้าต่างใบยาวจรดพื้น
“คุณรู้ไหมว่าทำไมถึงเรียกว่าเฟิงเฉียน” หานซานเฉียนเอ่ยถามออกมา
จงเหลียงตกใจกลัวจนไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรออกมา
“มันถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเป็นดาบที่ห้อยอยู่เหนือตระกูลหาน”
หน้าผากของจงเหลียงมีเหงื่อไหลออกมา เขาไม่อยากจะเชื่อเลยว่าหานซานเฉียนจะปูทางเมื่อตอนที่เขาอายุเพียงสิบสองปี นั่นควรเป็นวัยหนุ่มสาวที่มีอิสระไร้ความกังวลไม่ใช่หรือ? ความเฉียบแหลมนี้นายใหญ่ตระกูลหานไม่สามารถเทียบได้อย่างแน่นอน
ใครจะจินตนาการได้ว่า เมื่อนายใหญ่ของตระกูลหานใช้เวลาแต่ละวันไปกับการดื่มเหล้า ชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าเขาได้ชักดาบเอามาวางบนศรีษะของตระกูลหานแล้ว
ลมเย็น ๆ ได้พัดผ่านเข้ามาที่แผ่นหลังของเขา จงเหลียงได้พูดออกมาว่า “นายน้อยไม่ต้องกังวล ผมจะไม่บอกเรื่องนี้กับใคร”
“คฤหาสน์หลังนี้ไม่ว่ายังไงก็ตามฉันจะต้องประมูลมันมาให้ได้ เพราะเธอต้องการวิ่งบนถนนที่ภูเขาแห่งนี้ในตอนเช้า”
อะไรก็ตามที่คุณต้องการ แม้กระทั่งโลกใบนี้ ผมจะพยายามทำให้ดีที่สุดเพื่อมอบให้กับคุณ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ลูกเขยฟ้าประทาน